หยาด เลยเล่าบทบาทความเป็นแม่รวมทั้งชีวิตช่วงที่ผ่านมาที่ฝ่ามรสุมติดโควิด-19 ตอนตั้งท้อง ในพิธีบวงสรวงละคร “ศีรษะมาร” ที่อาร์เอสกรุ๊ป “ตอนนี้ก็กลับมาถ่ายละครศีรษะมารแล้ว ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ก็ประมาณ 2 อาทิตย์” 

หลายคนตะลึงกับหุ่นที่กลับมาผอมไวมาก? “ตอนนี้กลับมาเท่าเดิมแล้วค่ะ จริงๆไม่ได้ตั้งใจลดเลย หยาดทานเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ เพราะยังต้องให้นมลูก น้องยังทานนมแม่ อาจจะด้วยนอนมาก วิถีคุณแม่และกลับมาทำงาน ลงไปรวดเดียว 10 กว่า กก.”

3 เดือนที่ผ่านมา ชีวิตแม่ลูกอ่อนเป็นยังไงบ้าง? “ดีมากๆเลย ตอนแรกเราก็ยังจินตนาการไม่ออกเพราะในบ้านหรือในครอบครัวทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครมีเด็ก เราก็เลยไม่คุ้นชินกับการมีเด็กอยู่ในครอบครัว แต่พอน้องเกิดมาคือดีมากเลยค่ะ มาสร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้ครอบครัว”

พอได้เป็นแม่จริงๆเป็นยังไงบ้าง เหมือนที่เราคิดไว้มั้ย? “ดีนะ หยาดก็รู้สึกว่าชีวิตเราก้าวไปอีกสเต็ปนึง เหมือนเราโตขึ้นในทุกๆด้าน ตอนนี้ก็ไม่ได้รับผิดชอบแค่ชีวิตตัวเองกับครอบครัวเรา ครอบครัวใหญ่ขึ้นต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น”

ลูกสาวมาเติมเต็มครอบครัวยังไงบ้าง? “เติมเต็มทุกอย่าง เค้าจะมีความน่ารักของเค้าที่เราไม่รู้ว่าเด็ก 1 เดือนทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ หรือเด็ก 2 เดือนหัวเราะยิ้มแบบนี้ได้เหรอ พอเราเป็นแม่เหมือนที่เค้าบอกกันว่าคอยดูนะจะเห่อลูก คือจริงเลย เห็นลูกพลิกไปพลิกมากลิ้งไปกลิ้งมา ตี 5 6 โมงเช้าก็อยากตื่นมาดูแล้ว ถ้าเค้านอนกับเราก็จะรู้สึกน่ารักจังเลย”

เลี้ยงยากมั้ย? “มันก็ต้องมีการปรับ ยอมรับว่ามันก็ไม่ได้ง่าย แต่หยาดรู้สึกว่าหยาดผ่านจุดนั้นมาแล้วที่เค้าบอกกันในช่วง 3 เดือนแรก ตอนนี้ 3 เดือนครึ่งแล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทาง”

ถามย้อนไปช่วงติดเชื้อโควิด–19 ตอนมีน้องในท้องเราผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง? “ตอนโควิดก็ค่อน ข้างหนักด้วยความเครียด ตอนนั้นท้องอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ตอนที่หยาดเป็นหยาดก็หนักอยู่ห้องไอซียูเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวอะไรเยอะ ด้วยที่ว่ามันหนัก หมดแรง มันไม่มีแรงเลยไม่ได้อัปเดต แล้วหยาดมีโรคประจำตัวเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันมานานหลายปี พอเป็นโควิดด้วย แล้วท้องด้วย มันก็เสี่ยงกับการกระตุ้นเรื่องนี้ แล้วพอเจาะเลือดตรวจร่างกายมันมีภาวะเสี่ยงสูงก็เลยต้องดูแลกันยาวๆ”

ตอนนั้นเรากังวลขนาดไหน? “ก็กังวลค่ะ หยาดไม่ได้มีความรู้ที่ชัดเจนเหมือนทุกคนค่ะ เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปตอนนั้น ทุกอย่างมันยังไม่ค่อยมีข้อมูลค่ะ แล้วเราต้องพยายามวางใจและปล่อยให้คุณหมอดูแลค่ะ”

สามีว่าอย่างไรบ้าง กังวลเป็นพิเศษมั้ย? “ก็กังวลค่ะ ทุกคนก็กังวลหมดในตอนนั้น หยาดได้รับข้อความเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคนทางบ้านและเพื่อนๆ หยาดไม่ได้ตอบตอนนั้นเพราะมันไม่มีแรง แค่พูดยังหายใจไม่ทัน มันป่วยหนัก ก็ผ่านมาได้ค่ะ ตอนนี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่าง”

เราออกมาทำงาน เราแอบกังวลมั้ยเพราะลูกยังเล็ก? “ก็กังวลค่ะ แต่ว่าเวลาที่อยู่กองถ่ายก็มีมาตรการที่ค่อนข้างแน่นหนาเราก็วางใจได้ค่ะ”

ล่าสุดคุณแม่แซ่บมาก ไปทะเลคนก็แซว? “ก็คือไม่ได้ไปทะเลมาเกือบปี พอได้ไปก็ดีใจมาก คือไม่ได้ออกจากบ้านเลย ไม่ได้เจอพ่อแม่ตัวเอง ไม่ได้เจอใครเลยต้องมีไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือนค่ะ ไม่ออกไปห้าง ไม่ออกไปซุปเปอร์ มาร์เกต ไปที่เดียวคือโรงพยาบาล”

เรียกว่าเป็นคุณแม่ก็แซ่บได้? “ใช่ ก็ขอแซ่บนิดนึง สามีไม่ว่าค่ะ ออกมาทำงานเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เค้าก็บอกว่าแล้วแต่เรา อยากจะทำหรือไม่อยากจะทำให้เราตัดสินใจเอง”

น้องคนที่ 2 มีแพลนมั้ย? “ตอนนี้ยังค่ะ ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยค่ะ”

ออกมาทำงานเหมือนเดิมไม่ได้คิดที่จะพัก? “คือตอนนี้หยาดอยากถ่ายเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน ถ้าเกิดว่าจบเรื่องนี้ก็ยังกำลังคิดอยู่ว่าจะรับยาวมั้ย แต่ด้วยจริงๆปีนี้ 30 ปีที่หยาดเล่นละครมา เล่นตั้งแต่ 5 ขวบ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบเล่นละครมา 30 ปี เราก็รู้สึกว่ามันยาวนานจนมันฝังอยู่ในร่างกายในจิตใจ ช่วงที่หยุดไป 6-7 เดือนมันก็คิดถึง ถามว่าหน้าที่แม่มันก็หน้าที่หลัก แต่หยาดเชื่อว่าถ้าเราจัดสรรเวลาหรือแบ่งเวลาได้ แล้วทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดีทั้งหมดมันทำได้ค่ะ”.