เทหมดหน้าตัก "กอล์ฟ" ทุ่มอัลบั้ม 4 ล้านคุ้มค่า นักฟีเจอริงหาเจอแล้ว


ให้คะแนน


แชร์

กลั่น 27 เพลง ฟีเจอริงศิลปิน 51 ชีวิตออกมาจากประสบการณ์ที่กว่าจะถึงวันนี้ กอล์ฟ ได้ลองผิดลองถูกจนพบตัวตนของตัวเองของอัลบั้มนี้แล้ว! เลยชวนมาเล่า

เริ่มจาก…ความยากของอัลบั้มนี้คืออะไร? “ความยากอยู่ที่การหาเวลา เวลาทีมเวลาศิลปิน เวลาเราด้วยกว่าจะชนกันทั้งหมดแล้วก็ให้มันได้ในระยะเวลาที่ตั้งไว้ มันค่อนข้างลำบากเพราะต้องทำงานคู่กับหลายๆฝ่ายหลายคน ฝ่ายเบื้องหลังมหาศาลมีเป็นร้อยๆ เสร็จสรรพเวลานานเป็น 2 ปีครึ่ง”

มีศิลปินกี่คนที่ร่วมฟีเจอริงด้วย? “มี 51 คนครับ ถ้าเอาฝั่งผู้ใหญ่ ก็มีน้าแอ๊ด คาราบาว พี่ปู พงษ์สิทธิ์ อาจารย์ไข่ มาลีฮวนน่า คุณแม่แอ๊ด สุนทรี เวชานนท์ แล้วก็ฝั่งรุ่นเดียวกันก็จะมี เช่น พี่ โอม Cocktail พี่ลุลา แล้วฝั่งรุ่นน้องอีกเพียบเลยอย่าง YOUNGOHM FIIXD และอีกเยอะเอามาหมด เราจะดูจากตัวเพลงแล้วบรรยากาศการทำงานว่าถ้าเป็นพี่คนนี้ คนนั้นเป็นน้องคนนี้นะมันจะต้องออกมาดีเราก็เชิญเค้า”

มีอีกคนนึงที่ฮือฮาที่คือแบมแบมวง GOT7? “เรียกว่าต้องขอบคุณทาง JYP Thailand และ JYP ใหญ่ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์และคนที่ต้องขอบคุณที่สุดเลยคือน้องแบมแบม น้องแบมแบมเค้าแอบหลังไมค์ช่วยตลอดเค้าก็ให้ความรักและก็เคารพกับเรา KILO KEYS โปรดิวเซอร์ระดับอินเตอร์ตัวท็อปของแอตแลนตามาร่วมทำ”

การทำงานกับ 3 เจนก็คือแตกต่างกันหมดเลย? “แตกต่างกันหมดครับแต่เราเพียงรู้สึกว่าข้อดีของเราคือเมื่อเราทำอัลบั้มนี้จบแล้วคือ เราคือน้ำเทใส่ภาชนะไหนก็จะเป็นแบบนั้น นี่แหละกุญแจสำคัญที่จะเป็นเรา คือเราเคยฟีเจอริงกับคนอื่นมาก่อนเราต้องเข้าใจแนวดนตรี ทีนี้เราจะปรับเรื่องนี้ยังไงให้มันมาเป็นอัลบั้มเรา ก็คือเอาคนอื่นมาฟีเจอริงด้วยกันคือปรับตัวเราเข้าหาคนอื่น ตั้งใจเรียงเพลงให้เป็นแบบนี้ เรียงตามบรรยากาศเพลง”

อัลบั้มนี้สื่อสารอะไร? “จริงๆผมเริ่มจากการค้นหาตัวตนของตัวเองเพราะว่าผมอายุ 36-37 แล้วพึ่งจะมีอัลบั้มแรกถือว่าอายุเยอะทีนี้ถ้าคิดนานก็จะไม่ได้ทำ อย่างที่บอกว่าแก่นของเราคือเป็นน้ำ “Be water, my friend” เราคือสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้โดยที่เราก็คือเรา ไม่ว่าเราจะระเหยไปเป็นอะไร ไม่ว่าจะเอาเราใส่ภาชนะอะไร เราจะเป็นฉี่หรือเป็นน้ำเปล่า เราจะเป็นยาพิษของเหลว หรือเป็นยาเราก็เป็นน้ำ เพราะฉะนั้นเราถึงสามารถอยู่ได้เพราะความหลากหลาย คนอื่นเป็นอย่างเราไม่ได้ แต่ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็เป็นน้ำ”

เสน่ห์ของอัลบั้มนี้ที่อยากให้คนฟังได้สัมผัสคืออะไร? “ผมอยากให้ดูที่โปรดักชัน ตั้งแต่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ทาง Mp3 ผมว่าน้อยอัลบั้มนักที่จะมีคนทุ่มทุนทำในสิ่งที่มันจะเจ๊ง บอกตรงๆคือผมใช้เงินตัวเองไปเกือบ 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งลูกก็ยังเล็กนะครับ คิดดูมันทำยังไงมันก็ไม่ได้กำไร ผมอยากฝากสิ่งนี้ไว้เผื่อมันจะแบบกระตุ้นการซื้อลิขสิทธิ์ ทำให้มันเป็นครั้งนึงที่มีการรวมสร้างสรรค์สิ่งนี้ให้ในวงการเพลงว่าถ้าเราทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดดูสิว่าคนฟังเค้าจะยังรู้สึกอยากฟังเพลงที่ทำให้มันดีขึ้นมั้ย”

ทำแบบทุ่มน่าตักหมดเลย คือวัดไปเลยว่าอัลบั้มนี้ถ้าจะผ่านก็ไปต่อ? “ไม่ผ่านก็ไปต่อนะครับ ก็ต้องไปเพราะมันเหลือสิ่งเดียวที่ทำได้ นอกนั้นก็ขายหมาล่าแล้ว”

ใช้งบเยอะขนาดนี้เบลล์ว่าไงบ้าง? “โชคดีที่ภรรยาเข้าใจครับ โชคดีที่ภรรยาสนับสนุน บ้านเราไม่ได้รวยนะแต่ภรรยารู้ว่าความฝันเราคืออะไร ต้องขอบคุณภรรยาที่สุดเพราะภรรยาเป็นคนอนุมัติเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ สำหรับผมคุ้มค่ามากๆแต่ว่าที่เหลือจากความคุ้มค่าคือคนดูตัดสิน เรื่องความคาดหวังตอนนี้มันจบแล้วคือเมื่อโปรดักชันจบแล้ว เพราะฉะนั้นก็ชอบไม่ชอบไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้ทำแล้ว แล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคืออัลบั้ม 2 ต้องเดินต่อไป เรามีในหัวไว้แล้วว่าเราจะทำอะไร ก้าวที่สองคือ EP จะออกกลางปีหน้า ตอนนี้เริ่มทำ EP แล้ว เป็น EP ที่ทำต่างประเทศ”

รู้สึกยังไงจากวันที่เราไม่มีอะไรเลยจนมาวันนี้? “ถึงทุกวันนี้ผมขอบคุณทีมคือตัวเราเองเนี่ยเรารู้เราจะไปไหนแต่ถ้าไม่มีทีมผมไปไม่ถูก ขอบคุณโปรดิวเซอร์ขอบคุณทุกศิลปิน อย่างที่เห็นผมจะไม่มีทางทำสำเร็จถ้าทำคนเดียวต้องขอบคุณทีมงานทุกคนมาก ที่สำคัญขอบคุณภรรยา ถือว่าพิสูจน์รักกันไปเลยเพราะว่ามันคือความฝันถ้าภรรยาไม่สนับสนุนกับสิ่งนี้มันจะไม่มีทางสำเร็จเลยเด็ดขาด”

ไม่ใช่แค่เงินที่สูญหายแต่เป็นเวลาที่หายไปด้วยเพราะว่ามีหลายครั้งที่กลับไปบ้าน ชูใจ ลูกสาวบอกว่าคิดถึงพ่อ? “ใช่ เราใช้เวลาตรงนี้ไปเยอะมากจนเราแบบ ชูใจติดลุงต๊ะเลขาผมมากกว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เราจัดสรรเวลาเองจริงๆ”

การทำหน้าที่ศิลปินกับการที่เรารักกับการทำหน้าที่ที่เรารักมันสวนทางมั้ย? “ไม่ครับพ่อก็ส่วนพ่อ ณ จุดหนึ่งเนี่ยผมก็จะบอกชูใจว่าคนเราทุกคนมีหน้าที่จะสอนลูกแบบไหนคือเลี้ยงลูกแบบทำงานให้เค้าดูแล้วให้รู้ว่างานมันมีค่ามากกว่าเงิน เราเลี้ยงลูกแบบว่าต้องทำงานนะ ต้องเรียนนะคือทุกคนมีหน้าที่ เราไม่ได้ทำงานเพื่อที่จะแลกเงินอย่างเดียว เราทำงานเพื่อให้ชีวิตเรามีค่า บางงานมันไม่ได้เงินบางชิ้นมันเป็นบริจาคไปให้ความรู้นักศึกษาไม่ได้เงินแต่ทุกคนต้องทำงาน เราทุกคนบนโลกต้องมีหน้าที่ไม่อย่างนั้นจะอยู่ได้ยังไงไม่ต่างจากผัก ผักยังมีหน้าที่เพราะฉะนั้นลูกต้องเข้าใจนะว่าพ่อแม่ต้องทำงาน”.

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง