เกิดมามึงต้องให้ ไม่ใช่กอบโกย เฉลิมชัย 65 ปี ชีวิต การเมือง ความในใจ ที่แรก
เกิด ทำประโยชน์ ตาย
Thairath Talk : ใช้ชีวิตเชียงรายมากี่ปีแล้วครับ
ตั้งแต่ปี 2540 ก็คือเริ่มสร้างวัดที่นี่ ตอนนั้นยังอยู่บ้านกรุงเทพฯอยู่ ไปๆ มาๆ พอสัก 5 ปีผ่านมา ก็สร้างบ้านในวัด สุดท้ายย้ายไปอยู่บนหอศิลป์ ตอนนี้ชีวิตมันโอเคทุกอย่าง การวางแผนของชีวิตมันคือจะอยู่และตายที่นี่ นั่นคือพื้นฐานการสร้างถิ่นเกิดของตัวเองก่อน ให้คนอยู่ดีกินดี ทุกคนที่อยู่ในเชียงรายต้องมีชีวิตที่ดีจากสิ่งที่กูสร้าง ทำให้คนภูมิใจรวมถึงตัวกูด้วย กูวางแผนทุกอย่าง ไม่ขึ้นอยู่กับโชควาสนา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกู
เพราะกูโชคดีที่เป็นนักคิดมาแต่เด็ก มันเลยเร็วกว่าคนปกติ เสือกรู้ว่าการเกิดมามึงต้องตายนะ ก่อนตายต้องเป็นคนดีสร้างประโยชน์แก่บ้านเมืองของมึงด้วยความสามารถของมึง กูมองเห็นว่าตัวเองเก่งเรื่องวาดรูป กูเลยมองเลยว่ากูต้องเก่งที่สุดในประเทศนี้และร่ำรวย สร้างวัด อันนี้คิดมาแต่เด็ก
อันนี้เป็นความคิดเลยนะ ไม่ใช่ฝัน บางทีฝันมันทำไม่ได้ กูคือต้องเป็นเช่นนั้น พุ่งตรงไปที่เป้าหมายของกู กูต้องฝึกตัวเองให้เฉลียวฉลาด ต้องเก่งการตลาด พีอาร์ นักวางแผน วาดรูป และนักการปกครอง ซึ่งกูต้องเรียนรู้ทุกอย่าง เรียนทุกอย่างพร้อมกัน กูรู้จักคนทุกคนบนโลกนี้ คนที่รวยสุดและจนที่สุดในโลกนี้ กูอยู่กับมนุษย์ทุกคนได้ กูไม่เหยียดหยาม ไม่ดูถูกใคร ไม่รับของใคร กูเป็นต่อสู้ด้วยตัวกูเอง กูไม่พึ่งพาใครทั้งสิ้น
กูนำเสนอรูปเขียนของกูต่อสาธารณชน มึงรู้ไหมนั่นคือวิธีการตลาดของกู เพิ่มมูลค่าผลงาน ความน่าเชื่อถือ ความสนใจของคน สร้างเป็นเงินเพื่อมาสร้างที่นี่ กูสร้างวัดนี้ด้วยตัวกูเอง กูเริ่มต้นที่นี่ใช้เงิน 22 ล้าน กูหาเงินมาสร้างของกูเอง ตอนนี้ใช้เงินไป 1,200 กว่าล้านบาท
เพราะกูเป็นนักคิดที่คิดใหญ่ กูเดินรอบโลก กูรู้ว่าศิลปินแต่ละคนล้วนได้เงินมาจากผู้สนับสนุน เห็นไหมนั่นคือศิลปินต้องอยู่ใต้อำนาจเงินของผู้อื่น กูอยากเป็นศิลปินที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของเศรษฐี เพราะกูเป็นคนมีเงิน หาเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อผลงานของกู เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศกู เมื่อศิลปะมันยิ่งใหญ่ประเทศกูยิ่งยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงของกูคือประเทศของกู ดังนั้นกูจึงกินน้อยอยู่น้อย ขับรถแพงๆ ลูกกูยังขึ้นรถสาธารณะ ครอบครัวไม่บ้าความร่ำรวย ทุกอย่างที่กูมีเป็นสมบัติของชาติ
ร่องขุ่น คำถามใหญ่
เสียเงิน ได้อะไรกลับ
Thairath Talk : แล้วอาจารย์ได้อะไรจากการทำเช่นนี้
กูถามมึงว่ามึงอยู่ในประเทศนี้แล้วได้อะไร อย่าคิดสิว่าเราอยู่แล้วได้อะไร ต้องคิดสิว่ามึงอยู่ประเทศนี้แล้วทำอะไรให้ประเทศบ้าง (ด่า) คิดสิว่าเมื่อเกิดมาในแผ่นดินนี้จะคืนอะไรให้แผ่นดินนี้บ้าง ไม่ใช่เกิดมาเพื่อกอบโกย คำถามแบบของมึงถูกใจกูมากเลย เพราะทุกคนเป็นแบบนี้ ทำไมไม่คิดแบบกูบ้าง เมื่อมึงเก่งแล้วไม่คิดคืนให้กับบ้านเมือง หาเงินไปให้พ่อมึงเหรอ กูเลยอยากเป็นตัวอย่างของคนดีที่มีอีกด้านนึง คิดไว้เลยจะสร้างสรรค์แผ่นดินของกูเพื่อบ้านเมืองบ้านเกิดเมืองนอนของกู
รู้ไหมกูพยายามทุกวันในการที่จะทำให้กูเก่งที่สุด เดินทางรอบโลกไปแสดงงานทุกที่ กูเหมือนหมา เพราะเรามาจากประเทศเล็กๆ ไม่มีคนดู มันดูถูกเราด้วย กูเลยเห็นแล้วว่าต้องเปลี่ยนแผน ต้องให้พวกมันมาดูงานของกู แววตาของคนเหล่านั้นเวลามาที่วัด ขอถ่ายรูปขอยกย่องกู เรียกกู Sir ทุกคำ กูเป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ นี่คือวิธีการเปลี่ยนความคิด สร้างที่บ้านเกิดกูนี่แหละ รู้ไหมกูได้เงินมัน กูเก็บเงิน เราคิดสิ่งที่ใหญ่ที่สุดได้ กลับคืนสู่บ้านเมือง
กูทุ่มเทที่นี่จนลูกศิษย์ 145 คน กูเสียเงินเดือนละ 5 ล้านกว่าบาท ในการก่อสร้างและบริหารจัดการทั้งหมด ตอนนี้กูปล่อยทุกอย่างได้เพราะกูเป็นอาจารย์ที่ดี พวกนั้นเขาสามารถดูแลวัดได้เอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทองเลย มุ่งสู่การสอนคน สร้างคนมาดูแลการจัดการเงินทอง มีกรรมการวัดดูแล จากนั้นกูก็บุกหาเงิน สอนลูกศิษย์ ผ่านมา 15 ปี กูทิ้งได้แล้ว ให้ลูกศิษย์ไปสอนคนใหม่ ตอนนี้กูไม่ต้องเดินมาที่วัดเลย เขาสามารถดูแลวัดได้เหมือนที่กูมีชีวิตอยู่ เขาไม่ต้องให้กูเซ็นอะไรสักอย่างเดียว กูไม่ได้วาดรูปเก่งอย่างเดียว กูสอนคนเก่ง นักปกครองที่ดี เขาแม่งโคตรสุดยอด
Thairath Talk : เงินทองยังสำคัญไหมฮะสำหรับอาจารย์
ไม่เลย ถ้าสำคัญกูจะสร้างตรงนี้เหรอ แต่มึงอะสำคัญ เพราะกูสร้างตรงนี้หมด กูไม่มีเงิน กูกินข้าววัดทุกวัน มีชีวิตสมถะเรียบง่าย ขอเงินเมียใช้
Thairath Talk : ชื่อเสียงยังสำคัญสำหรับอาจารย์
ณ เวลานี้ไม่สำคัญแล้ว ความตายที่งดงามต่างหากมีค่ามากกว่าชื่อเสียง ชื่อเสียงเป็นของกระจอก กูทำได้ตั้งแต่เด็ก ไม่มีฟลุ๊ก คิดมาตั้งแต่เด็ก กูต้องรวยและดังที่สุดในวงการศิลปะนี่
ศิลปิน สมถะ
ศิลปะไม่อยู่ใต้ตีนเศรษฐี
Thairath Talk : ในวงการศิลปะสมัยก่อน มันหนักหนาขนาดไหนครับ
ทุกคนมองว่ากูเป็นนักปฏิวัติ เพราะเมื่อก่อนศิลปินต้องไส้แห้ง เขาศรัทธาความยากจน แต่กูต้องการให้ศิลปินต้องรวย ทุกคนมองว่ากูเป็นพ่อค้า กูแสดงโรงแรม คนอื่นแสดงหอศิลป์ มันไม่มีหมาดูไง แต่โรงแรมมันมีเศรษฐีดู
Thairath Talk : มองข้อดีของการดูถูกนี่อย่างไร
ถ้าไม่มีใครดูถูกมึงเลยนะ ถือว่ามึงเป็นคนกระจอกชิบหาย เพราะมึงไม่ได้คิดอะไรที่แปลกออกไป คนที่แหกคอกคือคนที่ได้รับการดูถูก จงรู้เลยว่าถ้าใครวิพากษ์มึง แปลว่ามึงคิดต่างและมีศัตรูเยอะ กูชอบศัตรูเยอะ ขอให้ทุกคนเกลียดกู กูต้องการชนะทุกคน มันเป็นแรงขับเคลื่อนเพราะศัตรูคือยากำลัง เราต้องชนะมัน ทำให้เราขยันหมั่นเพียร เราจะเป็นแบบที่มันพูดไม่ได้
Thairath Talk : ความยิ่งใหญ่มันต้องซาดิสต์ใช่ไหม
แน่นอน มึงจะไปโจมตีเมืองนั้นนี่ ก็คือการต่อสู้ นักสู้ที่ดีคือเมื่อชนะแล้วอย่าเหยียบย่ำเขาอีก การต่อสู้เป็นเกม กูให้อภัยและช่วยเหลือเขา สู้เพื่อให้รู้ว่ากูแน่กว่ามึง
อยากเป็นที่หนึ่ง
ต้องพยายามทุกวัน
Thairath Talk : ตอนเด็กๆ อาจารย์เติบโตมาอย่างไร
ไม่มีแบบนี้ กูเกิดจากสภาพยากจน กดดันจากครอบครัว กูถูกฟ้าส่งมาเกิดในที่ที่เครียดมาก จึงถูกต้องแล้วที่กูเกิดมาในความเครียด ดุร้ายดุดันของครอบครัวกู กูไม่รังเกียจ น้อยใจ กลับรู้สึกว่าดีที่เกิดมาแบบนี้ที่ตบตีทะเลาะกัน เลิกรากัน ทำให้กูแกร่ง คิดอะไรที่แตกต่าง กูมีความฝัน ไม่ดูถูก ที่เกิดไม่ดีแต่ทำให้คนดีได้ ที่เกิดไม่เกี่ยว เกี่ยวกับวิธีคิด เห็นธรรมชาติจึงคิด ทำให้มึงเป็นหนึ่งเดียวและยิ่งใหญ่ได้ หาสิ่งที่อบรมตัวเราได้ สิ่งไหนละวางได้ก็ทำซะ เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ
พลังมันอยู่ที่เรา ทุกอย่างมันอยู่ที่เรา เสกได้ทุกอย่าง เสกทุกข์ สุขและความสำเร็จ มึงเห็นมันสำเร็จ ลองแยกเป็นชิ้นๆ มองความล้มเหลวของมันบ้าง ถ้าเห็นสักข้อ เราจึงจะชนะมัน ทุกคนที่เดินไปข้างหน้ามึง คืออาจารย์ที่มึงต้องเรียนรู้ แยกเป็นองค์ประกอบ เป็นนักปกครองอย่างไร เป็นนักการตลาดอย่างไร ฝึกเพื่อเป็นคนยิ่งใหญ่
Thairath Talk : อายุ 65 ปี เป็นช่วงเวลาที่ดีร้ายหรือเอาอยู่
กูดีทุกอย่างนะ ไม่มีร้าย ชีวิตกูไม่เหมือนคนอื่น ชีวิตกูดีตลอด ต่อให้กูมีศัตรู แปลกไหม เพราะมันอยู่ที่วิธีคิดและการวางแผนของเรา กูไม่มีวันตกต่ำ ไม่เคยพลาดเป้าหมายเลยสักครั้งเดียว กูอยากสอนเด็กๆ นะว่าถ้ามีความมุ่งมั่นแบบกูในการเดินเข้าสู่เป้าหมาย องค์ประกอบอะไรที่ต้องเรียนรู้ นั่นคือความรู้ไง ถ้ามึงปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา ก็เป็นไปตามนั้นไง ลุ่มๆ ดอนๆ เพราะกูวาดชีวิตของกูเอง ไม่ให้ใครวาดชีวิตกู ไม่ว่าความเลวของกูที่เกิดขึ้นมันก็เป็นช่วงชีวิตของกู ไม่ได้เรียกว่าความผิดพลาด มันเป็นประสบการณ์ เมื่อกูเลว กูเลวตอนเด็ก กูรู้ว่าวันเวลาของกู กูใช้ถูกต้องตามวัย
รู้ไหมวันๆ กูทำอะไรบ้าง ทุกวันนี้กูนอน 2 ทุ่มครึ่ง ตื่นตีสอง กูนั่งสมาธิแล้ววาดรูป แล้วกูเดินออกกำลัง ต่อยกระสอบทราย เป็นวินัยแบบนี้แต่เด็ก กูแบ่งเวลา ตอนเด็กๆ เช่น กูไปผับ อาบอบนวด กูเที่ยวหมดในสิ่งที่ไม่ดี ถ้าช่วงไหนกูกินเหล้าก็จะทดแทนด้วยการวาดรูปมากขึ้น กูออกสังคมไปงานไหนก็แบ่งเวลาถูกต้อง กูได้ทั้งงานและสังคม ความเลวและความดี ทุกอย่างที่ไม่ดีมันมีสิ่งดีซ่อนอยู่
Thairath Talk : วัย 65 ปี มีห่วงอะไรอยู่ไหมครับ
กูไม่ห่วงอะไรสักอย่าง จำไว้อย่าเอาภาระมายัดใส่มึง มึงแบกโลกทั้งโลกได้ไง แค่มึงคิดแค่จะทำอะไรให้บ้านเมือง แค่นี้พอใจแล้ว ไม่ต้องห่วงประเทศ มันเดินทางของมันได้ กูเป็นนักธรรมะ กูต้องการตายอย่างสงบที่สุด ไม่ยึดมั่นถือมั่น กูมองแค่ตัวกูเอง แล้วกูก็ตาย ไม่ห่วงลูกเมีย ไม่ห่วงวัด ประเทศเลย ห่วงไปมันช่วยอะไรไม่ได้ จะเป็นผีมาช่วยเหรอ (หัวเราะ)
Thairath Talk : ปล่อยวางตอนอายุเท่าไหร่
อายุ 65 ปีไง กูสร้างบ้านกูเพื่อปลีกวิเวกแล้วเพื่อทำงานและตายในบ้านของกู กูจะเลิกเดินทางไปโน่นไปนี่ เพื่อรอความตาย อายุ 65 ปี มันเหมาะสุดในการอยู่กับตัวตนของกูเอง กูทำมามากแล้ว กูทำมามากแล้ว ไม่ห่วงสมบัติ เพราะกูไม่มี (หัวเราะ) ชีวิตกูต้องการอะไร กูไม่ใช่คนบ้าวัตถุ กูขายรถเบนซ์ตอนกูสร้างวัด บันไดวัดนี่คือรถเบนซ์กู (ขำ) เพราะฉะนั้นกูไม่จำเป็นต้องมีอะไร ยึดติดอะไร
Thairath Talk : เวลาเราแน่วแน่ มีเป้าหมายแบบนี้ คนข้างๆ ต้องเข้าใจไหม
ก็มึงเป็นคนโง่ไง จำไว้เลย ถ้าจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ทุ่มเงินทองให้กับการสร้างวัด เมื่อคิดจะเอาเมีย มึงจะเลือกเมียที่ความสวย ถ้ามึงเลือกเมียต้องเลือกแบบเข้าอกเข้าใจ พี่พูดกับแจ้งว่าวันหนึ่งเราจะสร้างวัด วันหนึ่งเราจะไม่มีเงินนะ แต่ลูกยังได้เรียนเมืองนอกอยู่แต่เราจะไม่มีเงิน เงินพี่ทำให้แกวันนี้ นี่คือสิ่งที่เราพูดกับเมีย เป็นการวางแผนทั้งหมด กูถึงไม่มีวันผิดพลาด เหมือนพวกมึงเพราะพวกมึงทำตามอารมณ์ ทำตามความอยาก สิ้นคิด พวกมึงเจอพวกเมียที่ขวางทางมึง ในโลกนี้กูเซ็ตทุกอย่าง
ทำไมกูถึงเลือกที่หมู่บ้านกู กูจะต้องสู้กับคนที่หมู่บ้านกูยังไง เพื่อให้เขาศรัทธาและรัก การต่อสู้ รื้อของเขาทั้งหมด คือว่าปัญหาขนาดไหน เป็นเรื่อง เราจะทำให้ชนะยังไง สุดท้ายเราก็ทำให้เขาเห็น ว่าเราทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองจริงๆ สุดท้ายเขาก็รัก ให้แก่พี่น้องเราให้เงินคนแก่ ดูแล ซื้อที่ดินทำให้หมด สร้างร้านค้า วางแผน ให้อยู่เย็นเป็นสุข บ้านเราไม่มีคนยากจนแล้ว นี่คือสิ่งที่เราคิด
มึงอย่าชวนกูเล่นการเมือง
Thairath Talk : ข่าวคราวการเมือง เอาอาจารย์ไปโยง
กูเกลียดชิบหาย เกลียดคนที่เอาข่าวกูไปโยงใส่อ้างแล้วบอกว่านี่เป็นข้อเขียนกู อยากจะบอกอะไร ด่าไปเยอะแล้ว อย่าเอาไปอ้าง กูเข้าใจว่าเมื่อมันเอาคนมีชื่อเสียงไปแล้วคนก็จะอ่าน เมื่อเห็นเป็นกูจะอ่าน เพื่อให้อ่าน ดังนั้นก็อ่านเยอะ หน้ากู กูเข้าใจ แต่มันไอ้สัสกูไม่ชอบ การเมืองกูไม่อยากไปวุ่นวาย
Thairath Talk : เบื่อไหมการเมือง
มันเป็นธรรมชาติ กูเข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา กูมีหน้าที่สร้างสรรค์ศิลปะให้ดีพอ กูไม่เสือก กูไปเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยก็ไปเลือก
Thairath Talk : มีคนมาชวนเล่นการเมืองไหม
มีมาเยอะ แต่กูไม่เอา เพราะว่ากูยิ่งใหญ่กว่า กูดีกว่านายกรัฐมนตรี กูเป็นคนมีชื่อเสียงกว่ารัฐมนตรี เพราะกูมีชื่อเสียงระดับโลก ดังนั้นการสร้างงานของกูมีชีวิตยืนยาว หรือยาวนานกว่าการเป็นรัฐมนตรี มึงเป็นตายไปไม่มีค่า แต่กูตายไปมีค่า สิ่งที่กูสร้างฝรั่ง คนทั้งโลกยกย่องกู ตัวอย่างที่คนเห็น ระหว่างโป๊ป หรือกษัตริย์ของอิตาลี กับแองเจโล มึงรู้ไหมเวลานี้แองเจโลยิ่งใหญ่กว่าทุกคน คนอื่นตายไปแล้วคนไม่จำ
นั่นถึงบอกศิลปินยิ่งใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี มึงจะให้ลดตัวลงไปทำไม มึงจะให้กูทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ยิ่งใหญ่ระดับโลกไปเป็นรัฐมนตรีทำไม
Thairath Talk : ตอบเขาอย่างงี้เลยใช่ไหม
ชัดเจน กูเชื่อในความยิ่งใหญ่มากกว่า กูไม่เป็น ไม่ต้องเอามาให้กู เพราะรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะเสียเวลา
Thairath Talk : มันเล็กกว่าสิ่งที่เราทำมากมาย
ถูกต้อง เมื่อก่อนหมั่นไส้ แต่ตอนนี้จริง กูตายแล้วก็ยังดัง ประเทศก็ยังดัง เฉลิมชัยผู้สร้าง White Temple รู้ไหมเหตุผลที่กูสร้างวัดเป็นสีขาว เพราะกูต้องการ Light and Sound จึงได้ร่วมมือกับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จัดงาน “วัดร่องขุ่นไลท์เฟส ตอน ปฐมบท” ผสมผสานผลงานสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ระดับโลกกับนวัตกรรมสุดล้ำระดับโลก เป็นโชว์มัลติมีเดียแห่งปี ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.-22 ธ.ค. 2562
ให้ 2 พันล้าน
ทำ ‘ร่องขุ่น 2’ ?
Thairath Talk : มีวัดนี้อยากสร้างวัดอื่นอีกไหม
มึงมันโง่ คนถามแบบนี้คือคนโง่ ไม่คิดเลยว่าอายุ 65 สร้างสิ่งยิ่งใหญ่แบบนี้จะสร้างอย่างอื่นอีกทำไม มึงนี่โง่ จำไว้เลยคนอื่น กูไม่ใช่คนบ้าที่จะไปสร้างวัดอื่นอีก มีคนที่มีคำถามอย่างมึงมากมาย พ่อมึงเหรอ อายุ 65 จะไปสร้างอะไรอีก คิดว่าสร้าง 2 ปี กูสร้างมา 21 ปี กูจะอยู่อีก 21 ปีข้างหน้าเหรอ บ้าแล้ว แล้วมึงจะล้มเหลวทันที มึงต้องเป็นมนุษย์ที่ไม่ล้มเหลว ด้วยการประมาณตัวมึง ร่างกายกูไม่พอ อาจจะทำได้แต่ร่างกายไม่พอ แล้วจะไปบ้าอะไรอีก เมื่อเป็นนักการเมืองแก่ๆ มึงควรเลิกได้แล้ว ให้คนรุ่นใหม่ทำ ก็เหมือนกันมึงให้กูสร้างวัดใหม่ทำไม กูสร้างเด็กของกูให้ไปสร้างวัดใหม่ไม่ดีเหรอ คนอย่างกูจะไปสร้างวัดใหม่ มึงรู้ไหม ประเทศจีนจ้างกูไปสร้างวัดใหม่ 2 พันล้าน กูยังไม่ไปเลย
Thairath Talk : ตอบเขาว่ายังไงฮะ
เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรมศิลปากร กูเป็นเอกชน ต้องหาเงินด้วยตัวเองเพื่อสร้างถวายท่าน กูไม่ต้องการเอาเงินจากใคร กูต้องมั่นใจว่าไม่อยู่ใต้ตีนใคร
65 ปี ลมหายใจ
สุดท้ายของชีวิต
Thairath Talk : มองอนาคตอาจารย์ไว้อย่างไร เห็นว่าเตรียมงานศพของตัวเองไว้แล้วด้วย
ใช่ๆ ความตายกู ห้ามกูตายที่อื่น ต้องโรงพยาบาลรัฐที่เชียงราย วันเผาศพเขียนไว้ทั้ง 26 ข้อในการทำศพกู
Thairath Talk : ไม่กลัวความตายเหรออาจารย์
(ถอนหายใจ) คนโง่พวกนี้กูเบื่อ พวกมึงนี่นะกลัวความตาย โง่ไงเลยกลัว เกิดมาก็เพื่อตาย ความตายเป็นสิ่งที่งดงามที่สุด และเป็นเวลาที่กูรอคอยที่สุด ความตายคือการเปลี่ยนภพชาติ กูจึงพยายามทำดีในเวลาที่เหลืออยู่ ทำเสร็จแล้วกูก็จะตาย กูรักษาสุขภาพเพื่อทำศิลปะไว้เพื่อชาติบ้านเมือง หลังจากนั้นกูก็จะตาย กลัวทำไมความตาย กลัวยังไงก็ตายอยู่ดี จำไว้หลักธรรมคือสิ่งที่ดีที่สุด ชีวิตของมึงจะงดงามไปสู่ความตายที่งดงาม ประสบความสำเร็จทางโลกียวิสัย และอุตรปัญญา สู่ความตายที่งดงาม
Thairath Talk : ถ้าเฉลิมชัย เป็นศิลปะต้องวาดตัวเองเป็นศิลปะจะวาดเป็นแบบไหน
ชีวิตกูมันเป็นตัวอย่างของคนทั่วไปอยู่แล้ว การดำรงชีวิตของกูมีความสวยงามกว่าภาพเขียนอยู่แล้ว มันละเอียดอ่อนและสัมผัสได้มากกว่ารูปเขียนของกู เข้าใจง่ายและสวยงามมากกว่า
Thairath Talk : อยากให้คนจดจำอาจารย์ในรูปแบบไหน
มึงจะไปจำอะไร จะจำหรือไม่จำไม่เกี่ยวกับกู ความจดจำไม่ใช่สิ่งที่บังคับ ความดีงามที่สร้างต่างหากเป็นสิ่งที่เขาจดจำนั่นเอง ขึ้นอยู่กับการกระทำ ทุกวันนี้กูใช้ชีวิตมีความสุขของกู ทำประโยชน์ และก็ตาย ความพึงพอใจของกูที่สุด มากกว่ารอให้คนมาจดจำ
Thairath Talk : ความท้อแท้เป็นเรื่องของคนกระจอก
ถูกต้อง มึงจะท้อแท้หวังพึ่งผู้คน มึงคือคนกระจอก ถ้ามึงทำดีจริง คนมันจะจำเอง ไม่ต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นของมวลชน คนทั้งโลกที่เขาจดจำคนยิ่งใหญ่ มึงบังคับเขาเหรอ ผลงานของเขาต่างหาก
Thairath Talk : ร้อยปีมีคนเดียวเลย อาจารย์เฉลิมชัย
ไม่หรอก กูคิดว่านะ ชีวิตกูเนี่ยเป็นที่น่าศึกษาสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเหมือนกู ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองแล้วตาย กูไม่เคยเครียด อยากฆ่าตัวตาย กูไม่เคยมีความผิดหวัง มันคือชีวิตที่น่าสนใจที่สุด ทางเดินชีวิตของกูคือเกิดมาเพื่อชนะความทุกข์ทั้งหมด กูรู้จักว่าอะไรที่สุขและทุกข์ กูปฏิบัติตนเพื่อให้กูพ้นจากตรงนั้น เพื่อเป็นความว่างนั่นคือความตาย คือเป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่การสร้างวัดร่องขุ่น.
ภาพ : Facebook กลุ่มคนรักอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์
ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง