พี่แบงค์ตรวจเจอก้อนในตับ 4 เซนติเมตร คุณหมอใช้ความร้อนจี้ออกไปแล้ว น่าจะจบ ก็เหลือติดตามผลเพราะเนื้อก้อนนั้นเป็นเนื้อไม่ดี แต่เป็นระยะเริ่ม แต่ก็ต้องติดตามไปเรื่อยๆ จริงๆ เจอตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปตรวจสุขภาพเจอ คุณหมอแตกตื่นว่าเห็นเงาในตับ เป็นก้อนกลมๆ ขนาด 4 เซนติเมตร ก่อนหน้านี้ตรวจสุขภาพทุกปีมาตลอดไม่เจอ และที่หมอตกใจเพราะว่ามันโตเร็ว

หมอบอกมีสิทธิ์ที่จะเป็นเนื้อไม่ดีสูง คุณหมอก็ปรึกษาอาจารย์หมอหลายๆ ท่านก็ประชุมกัน พอทราบผลครั้งแรกช็อกมากค่ะ เพราะนิน่าคิดว่าเป็นเนื้อธรรมดา แต่ตอนที่ไปคุย คุณหมอบอกว่าเป็นเนื้อไม่ดี เราก็ช็อก แล้วก็ฟังหมออธิบาย ตอนนั้นก็เสียหลักไปเหมือนกัน ว่าทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับเรา

แล้วเราก็แยกต่างคนต่างไปทำงาน แล้วนิหน่าก็โทรหารุ่นพี่ที่เป็นหมอก็ถามว่าจะทำอะไรต่อ ต่อไปจะเป็นอย่างไร คิดฟุ้งซ่าน และพี่เค้าก็ให้สติบอกให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วก็บอกกับตัวเองว่าเราโชคดีที่เจอแต่แรกๆ หลังจากนั้นก็รักษาตัวมาเรื่อยๆ จนพี่แบงค์เค้าโพสต์ลงในอินสตาแกรมของตัวเอง

และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันเปลี่ยนชีวิตครอบครัวเรา เพราะก่อนหน้านี้เราใช้ชีวิตกันสบายๆ ไม่ได้เห็นคุณค่าในแต่ละวัน แต่พอวันนี้มารู้ว่าตัวเองป่วย ก็ทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตคืออะไร ก่อนหน้าที่จะป่วย พี่แบงค์ชอบนั่งอยู่ข้างล่าง ส่วนนิน่าก็พาลูกขึ้นนอน

แต่พอเค้าป่วย เค้าก็ต้องเริ่มนอนเร็วขึ้น ก็ขึ้นมาเล่นกับลูกข้างบน แล้วเค้าก็พูดว่า ก่อนหน้านี้ทำไมเสียเวลาอยู่ข้างล่างตั้งนาน มันทำให้เราเห็นจุดเปลี่ยนทั้งเค้าและเรา ตอนนี้พี่แบงค์ก็เลิกดื่มแอลกอฮอล์ ไปออกกำลังกาย มันเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีทั้งนั้นเลย

ยอมรับว่าเครียด แต่ก็แอ๊บไม่เครียด กลางคืนนอนไม่กลับ แต่พี่แบงค์เค้าก็ดูออก นิหน่าก็ตั้งสติ เลยพยายามหาอะไรทำ ไปโบสถ์ คุยกับคุณพ่อที่เป็นบาทหลวง อ่านพระคัมภีร์ หาอะไรดูแลจิตใจตัวเอง พอทำแล้วจิตใจดีขึ้นเค้าก็ให้ทำ

พี่แบงค์เปลี่ยนไปมากหลังจากที่ป่วย หันมาดูแลสุขภาพของตัวเองแบบดีดนิ้วสั่งเลย เมื่อก่อนถ้ากินข้าวเสร็จแล้วนิหน่าอยากไปเดินช็อปปิ้งเค้าก็จะนั่งดื่มเครื่องดื่มรอ แต่ตอนนี้เค้าชวนนิน่าไปนั่งคาเฟ่เพื่อกินกาแฟดำ ซึ่งเป็นชีวิตในฝันที่นิน่าอยากทำแบบนี้มานานแล้ว (หัวเราะ)