เตเต้ ผจก.พิ้งกี้ เผยเหตุของขึ้น ชี้หน้ากระติก เดือดทำไมไม่รักโม เหมือนที่โมรักมึง


ให้คะแนน


แชร์

เผยเหตุของขึ้น เตเต้ ผจก.พิ้งกี้ เล่านาทีเดือด ชี้หน้ากระติก กลางงานพิธีอาลัยแตงโม ลั่นไม่ช้าก็เร็วกรรมตามทันแน่ อยากรู้ทำไมไม่รักโม เหมือนโมที่รักมึง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เตเต้ ภาราดา ผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช เปิดใจในรายการแฉ ถึงคลิปวิดีโอที่ได้พูดคุยกับกระติก ท่าทางระหว่างพูดคุยค่อนข้างดุเดือด มีการชี้หน้า และใช้นิ้วจิ้มไปที่บริเวณขมับ ในงานอาลัยของแตงโม นิดา ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพฯ

ตอนแรกตั้งใจเดินไปทักทายนิก คุณาธิป แล้วเจอกระติกซึ่งหันมาทักทายยกมือไหว้ตนด้วย ตนก็ถามเขาเลย “กระติกเหตุการณ์บนเรือเกิดอะไรขึ้น”

เขาบอก โอเคหนูพูด เขาเล่าว่ามันสุดวิสัยจริงๆ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังหลายอย่าง ซึ่งเต้ไม่เข้าใจที่เขาเล่า แต่ที่เต้ของขึ้นคือ เขาบอกว่า แม่ก็หนูปวดท้อง จะไปเข้าห้องน้ำก็เลยไปขอเข้าบ้านลุงข้างๆ มันไม่ตรงกับที่เราถาม คำตอบที่ได้แค่นี้ แค่ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นเราถามว่าเหตุการณ์บนเรือเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมถึงไม่อยู่เฝ้า เขาตอบว่า ก็หนูปวดท้อง หนูก็เลยขอบ้านลุงเข้า เขาตอบแค่นี้

ที่ต้องใช้มือชี้หน้า เพราะเขาไม่ตอบอะไรที่มากกว่านี้ เราก็ขึ้นเลย ก็เลยบอกว่า ทำไมมึงไม่รอมันอยู่ตรงท่าเรือตรงนี้ รอไปสิ มึงอยู่ในเหตุการณ์มึงต้องรอ ต้องเฝ้า มึงทำอะไรไม่คิดเลย

ตอนนั้นกระติกก็บอกว่า แม่เอามือลงเดี๋ยวเป็นประเด็น กะเทยก็เอามือลง สักพักหนึ่ง ก็ขึ้นอีก ตามคาแร็กเตอร์เต้ คนรู้จักก็จะรู้ว่าออกท่าเยอะ เราก็บอกว่าทั้งหมดทั้งมวลถ้ามึงไม่ไปไหนแล้วอยู่ตรงนี้เหตุการณ์ก็จะไม่ร้ายแรง

แล้วสุดท้ายพอยต์ที่ทิ้งก่อนจะเดินออกมา ก็บอกว่า งานโมเป็นงานที่ศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ ถ้าพูดไม่จริงหรือโกหก เวรกรรมไม่เร็วก็ช้าต้องตามทันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พี่เต้จะบอกคือว่า ทำไมไม่รักโมเหมือนที่มันรักมึง ก็แค่นี้เอง”

เตเต้ กล่าวต่อว่า ก็ถามว่าทำไมไม่วนเรือ ต้องเฝ้าอยู่ท่าเรือห้ามไปไหน เราก็ชี้ๆ คนเราอยู่ด้วยกันหรืออย่างไรก็แล้วแต่มันต้องมีความรักและจริงใจ เรื่องนี้สำคัญสุดในวงการ ต่อให้อย่างไรเขาก็ดูแลมึงทุกอย่าง ก็ควรจะมีสำนึก เต้ก็เหมือนประชาชนทั่วไปที่เขาอยากรู้ ด้วยจังหวะเขาสวัสดีเรา เราก็ไม่ได้ตั้งใจไปหาเรื่องเขา เราไม่เข้าใจคำตอบของเขา ก็เลยว่าเขาไป แต่จริงๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ด้วยอารมณ์คาแร็กเตอร์ของเต้ในตอนนั้น ถามว่าเชื่อไหมกับคำตอบของเขา เต้ไม่เห็นด้วยกับคำตอบที่ได้มา และไม่เชื่อด้วย

“เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไรกับน้อง แต่อยากรู้ว่าทำไมไม่อยู่เฝ้าเท่านั้นเอง วันแรกที่เกิดเหตุ เต้โทรไปหากระติก ตัดสายทิ้ง ไม่รับสายเลย

ในงานวันนั้นมันโมโห อยากรู้คำตอบ แต่รู้แหละว่ายังไงนางก็ไม่ตอบแต่ก็อยากจะถาม ไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไรกับนาง ในงานคนเยอะ ทำอะไรก็ผู้ใหญ่รังแกเด็ก งานของโมพี่เอกับอั้มตั้งใจทำให้ จริงๆ ถ้าเขาไม่สวัสดีก็ไม่ทักเขา คนนั่งอยู่ในงานฮอลล์ใหญ่มาก เหมือนคนละฮอลล์เลย ใครซูมอย่างไรก็ไม่รู้ คนเห็นแต่ไม่ได้สนใจฟัง ปล่อยให้เราคุยกับกระติกเลย”

ทั้งนี้ พิ้งกี้ยังได้เล่าถึงความสนิทกับแตงโมว่า สนิทกันตั้งแต่เรียน เรียนร้องเพลงด้วยกัน โตขึ้นมาก็เป็นประมาณช่วงวัย 20 กว่าๆ ก็มาเป็นแก๊งเพื่อนเดียวกัน ก็มีช่วงหายไป เป็นช่วงที่หายไปจากทุกคน กลับมาดีตอนที่หายจากซึมเศร้า ก่อนหน้านี้นางให้พี่เต้มาบอกว่า ว่างๆ นัดกี้ไปกินข้าวหน่อยสิ ก่อนโมจะเสีย เขาก็จะนัดทุกคนกินข้าว พี่ไอซ์ อภิษฎา ก็บอกว่านัดกินข้าว แล้วทุกคนก็เสียใจมากเพราะไม่ได้ไปกินข้าวตามที่โมบอก

พี่แอนนาบอกโทรศัพท์โมที่เก็บไว้ เขาจะเก็บรูปที่กินข้าวกับมดดำ หรือเจอครั้งแรกไว้ในโฟลเดอร์เขา เขาเก็บไว้หมดทุกคน หนูเลยแบบ จริงเหรอพี่แอนนา ตกใจว่าทำไมโมละเอียดอ่อนได้ขนาดนี้ สมมติโทรศัพท์หาย ก็ย้ายข้อมูลมาจัดโฟลเดอร์เหมือนเดิม

ขอบคุณที่มา แฉ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6951091
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6951091