กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลและกลุ่มแฟนคลับ เมื่อไอดอลสาวชื่อดังระดับโลกชาวไทย “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีใต้ “แบล็กพิงก์” (BLACKPINK) เดินทางกลับมายังบ้านเกิดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงสายของวันที่ 22 มี.ค. แฟนคลับจำนวนมากทยอยเดินทางมารอรับ “ลิซ่า” นักร้องในดวงใจอย่างคึกคัก พร้อมเขียนป้ายข้อความต้อนรับลิซ่าและโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์จนแฮชแท็ก #มีนาแล้วมีลิซ่า และ WELCOME HOME LILI ขึ้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศไทยตลอดทั้งวัน

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนเดินทางมาถึงประเทศไทย ลิซ่าแยกกับทีมงานที่ประเทศอิตาลี โดยทีมงานส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศเกาหลีใต้ไปก่อน หลังจากเสร็จภารกิจการทำงานกับแบรนด์ดังบุลการี (Bvlgari) เจ้าตัวต้องบินจากประเทศอิตาลีไปต่อเครื่องที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางมายังประเทศไทย โดยลิซ่าเดินทางด้วยสายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ AF-166 ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อเวลา 10.35 น. โดยมีแฟนคลับเดินทางไปรอต้อนรับอย่างล้นหลามหลังเครื่องบินลงจอดลิซ่าเดินไปรับสัมภาระ และผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองปกติ โดยมีบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยดูแลความเรียบร้อยตลอดเวลา ระหว่างทางลิซ่าโบกมือทักทายแฟนคลับเป็นระยะ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเอง ท่ามกลางเสียงตะโกนทักทายและเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับตลอดเวลา ต่อมาลิซ่าได้โพสต์รูปท้องฟ้าลงในไอจีสตอรีของตัวเอง พร้อมกับปักหมุดสถานที่ประเทศไทย หลังจากที่เธอเดินทางถึงไทยอย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย

การกลับบ้านเกิดครั้งนี้ถือเป็นการกลับมายังประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 3 ปีของลิซ่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวเองเคยให้สัมภาษณ์ว่า คิดถึงประเทศไทยมาก และในครั้งนี้น่าจะเป็นการเดินทางกลับมาฉลองวันเกิดของตัวเองในวันที่ 27 มี.ค. กับครอบครัวด้วย แต่ไม่แน่ชัดว่าจะจัดขึ้นที่บ้านเกิดใน จ.บุรีรัมย์หรือไม่

ทั้งนี้ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” เพิ่งเสร็จภารกิจฐานะเป็น Global Ambassador ให้กับแบรนด์แฟชั่นหรูของประเทศอิตาลีอย่าง “Bvlgari” ลิซ่ามีส่วนร่วมกับการถ่ายแบบ ทำกิจกรรม ร่วมงานอีเวนต์และเป็นพรีเซนเตอร์ ลิซ่าถือเป็นศิลปินหญิงที่โด่งดังระดับโลก มีแฟนคลับจำนวนมากกระจายไปทั่วโลก สร้างปรากฏการณ์ความฮือฮาทั้งในวงการเพลงและวงการแฟชั่น มิวสิกวิดีโอเพลง “LALISA” และเพลง “MONEY” ของลิซ่ามียอดรับชมถึง 400 ล้านวิวบนยูทูบเร็วที่สุดในโลก สร้างสถิติใหม่โดยใช้เวลาเพียง 121 วัน และ 108 วันตามลำดับ

นอกจากนี้ยังกลายเป็นศิลปินดังระดับโลกเต็มตัว หลังร่วมงานกับ “ดีเจสเนก” “โอซูนา” และ “เมแกน ธี สตอลเลียน” ในผลงานเพลง Sexy Girl ซึ่งสาวลิซ่ามีส่วนในการแต่งเพลงด้วยตัวเอง หลังมิวสิกวิดีโอถูกปล่อยออกมาสู่สายตาประชาชน ทำให้เพลง Sexy Girl พุ่งขึ้นติดเทรน 1-3 ของทวิตเตอร์ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และยอดติดตามบนอินสตาแกรม @lalalalisa_m มีผู้ติดตามมากถึง 75 ล้านคน

ด้านจังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิดของลิซ่า บรรยากาศหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์จุดขายลูกชิ้นยืนกินยังมีคนมาซื้อไม่ขาดสาย หลังจากลิซ่าเคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 ว่า อยากกินลูกชิ้นยืนกิน ที่แม่พาไปกินตอนเด็ก ทำให้ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์กลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ผู้คนแห่มาซื้อจำนวนมาก ทำให้ยอดขายแต่ละเจ้าพุ่งทะลุจนฉุดไม่อยู่ เจ้าของร้านลูกชิ้นบางรายถึงกับหลั่งน้ำตา เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงระบาดของโรคโควิด-19 ขายของไม่ค่อยได้ หลังจากแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินทราบข่าวว่าลิซ่าเดินทางกลับมาเมืองไทย แต่ละคนต่างตื่นเต้น อยากให้แวะมากินลูกชิ้นอีกครั้ง

นางนิภาพร วิริยานุภาพ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านเจ๊พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ กับสูตรน้ำจิ้มพริกเผาต้นตำรับ เผยว่า ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์เป็นสัญลักษณ์ของคนบุรีรัมย์มานานกว่า 40 ปี เป็นที่รู้จักของคนจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง แต่หลังจากลิซ่าออกมาพูดคำเดียวว่า อยากกินลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ สิ่งที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น แต่ละร้านผลิตไม่ทันต่อความต้องการ ยอดขายพุ่งเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะร้านลูกชิ้นของตน จากเดิมมีสาขาเดียวมีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ไปขายเป็นจำนวนมาก ตอนนี้มีสาขาแล้วกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ต้องขอขอบคุณลิซ่าจากใจจริง ขออวยพรให้ลิซ่าจงมีความสุขในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 27 มี.ค.นี้ตลอดไป ถ้าลิซ่ามีโอกาส อยากให้มาแวะกินลูกชิ้น โดยเฉพาะลูกกรอบๆที่น้องชอบ วันนั้นจะเลี้ยงลิซ่าฟรีและแฟนคลับลิซ่าตลอดทั้งวันแบบไม่จำกัด

ด้าน น.ส.กัลยากร ทองเลิศ อายุ 38 ปี แฟนคลับลิซ่าชาวจังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า อยากให้น้องลิซ่ามาสัมผัสบรรยากาศลูกชิ้น ยืนกินที่บุรีรัมย์อีกครั้ง เพราะเปลี่ยนไปมาก ทั้งนี้ขออวยพรให้น้องลิซ่าจงมีความสุขตลอดไป