บุ๋ม ปนัดดา เปิดใจ! หลังถูกฟ้องปมสัมภาษณ์ ไฮโซบี แย่งคฤหาสน์ 40 ล้าน (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

โดยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ได้รับหมายศาลคดีหมายเลขดำที่ 2884/2562 ระหว่างพลเรือเอกบรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวพิมพ์นรี โหตะไวทยากร จำเลยที่ 1, นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี จำเลยที่ 2 ในข้อหาหรือฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกร้องค่าเสียหายมูลค่า 5 ล้านบาท

บุ๋ม-ทนายษิทรา

จากนั้น บุ๋ม ปนัดดา พร้อมด้วยทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้แถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ณ สตูดิโอ v6 ปทุมธานี โดย บุ๋ม เปิดใจว่า ตนทำหน้าที่พิธีกรสัมภาษณ์คนที่หลากหลาย ล่าสุดมีหมายศาลมาถึงบ้าน เป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะตนทำหน้าที่สื่อมานานมาก อยู่ในวงการนี้มา 20 ปี ไม่เคยเจอแบบนี้เลย ทำด้วยความตั้งใจทุกครั้ง ทำทุกงานด้วยความจริงใจ คิดถึงคำว่าจรรยาบรรณสื่อมวลชนอยู่เสมอ 

เมื่อโดนหมายศาลโดยที่ตนเองไม่คาดฝัน ตรงนี้ขอให้ทางทนายเป็นคนให้รายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตนค่อนข้างเสียใจกับสิ่งที่เจอ เพราะว่าทำมาตั้งนานไม่เคยเจอแบบนี้ รู้สึกท้อและเสียใจมากๆ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ ในส่วนตนเองทำหน้าที่พิธีกร เราทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่ จะให้สัมภาษณ์ใครไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหายหรือเป็นผู้ร้าย หรือแม้แต่คนทรงเจ้าก็สัมภาษณ์ เราทำหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุด เพียงแต่ว่าแขกเป็นใคร มายังไง ก็แล้วแต่ทางทีมงานและรายการจัดมา ดังนั้นในส่วนตนเอง การทำหน้าที่ของเราก็เต็มที่

ที่สำคัญในรายการตนก็ระบุชัดเจนตอนท้ายรายการว่าเรื่องแบบนี้เราไม่ต้องฟังความข้างเดียว เวลามีข้อพิพาทอะไรก็ตาม ควรฟังความทั้งสองฝ่าย ทีมงานมีการติดต่อไปแล้วแต่ท่านไม่มา แล้วตนก็ย้ำแล้วว่าตนเปิดพื้นที่ตรงนี้ให้ท่านมาชี้แจงเช่นเดียวกัน แล้วประชาชนค่อยตัดสินเอาเอง แต่ท่านไม่ฟังอะไรเลยและฟ้องเลย ช็อกอยู่เหมือนกัน ซึ่งตนเองจัดรายการแบบนี้อยู่หลายรายการเหมือนกัน มีโอกาสสัมภาษณ์ไฮโซบีอยู่ 2 รายการ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาฟ้องรายการนี้รายการเดียว

เมื่อถามว่าคำถามที่บุ๋มถามมีความเป็นกลางและลักษณะไหนบ้าง บุ๋มตอบว่า ส่วนใหญ่แล้วด้วยลักษณะการถามจะเป็นการย้ำคำพูดมากกว่า โดยคำพูดส่วนใหญ่ที่ตนพูดในรายการก็จะอ๋อ อืมๆ ในการตอบรับคำตอบของอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่าที่จะไปชี้นำ เพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้ว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น รู้อย่างเดียวว่าฝั่งนี้พูดอะไร แต่ก็ย้ำในตอนท้ายรายการว่าอยากฟังอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่าด้วย เรื่องแบบนี้ตนว่ามันมีความจริงซ่อนอยู่ทั้งหมด

และในรายการไม่ได้มีการเอ่ยชื่อ แต่ในหมายศาลเขาพยายามโยงให้ได้ ซึ่งตนพยายามระวังมากเพราะเรียนกฎหมายมาพอสมควร อยู่ในวงการมานานมากที่จะไม่ทำให้ใครเสียหาย เพราะเรื่องการฟ้องร้องเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เพียงแต่เรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ พิธีกรอย่างตนก็มีหน้าที่ในการซักถามเช่นกัน

บุ๋ม ปนัดดา

กับคำถามว่าได้มีการติดต่อกับแขกรับเชิญหรือฝ่ายโจทก์หรือไม่ บุ๋มตอบว่าตนได้มีการแจ้งไปทางไฮโซบีเบื้องต้นว่าตนโดนแบบนี้ ทางนั้นก็ขอโทษมาเยอะมาก ตนก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด เขาก็คงไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ถามว่าแบบนี้จะมีผลต่อการจัดรายการต่อไปหรือไม่ ก็คงทำงานสไตล์ตนเองเหมือนเดิม เอาความจริงออกมาให้ได้มากที่สุด แต่คงระมัดระวังอะไรไม่ได้ คนจะหาจุดก็คงจะหาได้ ทั้งที่เราก็พยายามเลี่ยงให้มากที่สุดแล้ว แต่การเอ่ยคำพูดของแขกรับเชิญเราห้ามไม่ได้จริงๆ แต่ถามว่าเราใส่ความเขาไหม มันไม่มีความจำเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

เมื่อถูกถามว่ากังวลไหมกับการเชิญแขกรับเชิญในเคสคล้ายๆ กันแบบนี้ บุ๋มตอบว่า คงเป็นความกังวลของทีมงานมากกว่า เพราะหมายศาลฟ้องมาที่บุ๋มคนเดียวแต่ทีมงานไม่โดน กลายเป็นว่าทุกคนกังวลเป็นห่วงตนซะมากกว่าว่าจะรู้สึกยังไง และการทำงานของตน ตนแคร์ทุกคนมาก ทุกคนก็เครียดมากกว่าบุ๋มด้วยซ้ำไป ตนก็อยากให้ตนเองและทีมงานทำงานเหมือนเดิม เพราะมันมีข่าวมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ถ้าเจอแบบนี้บ่อยๆ ก็คงเหนื่อยใจอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงทำหน้าที่นี้ต่อไป

กับคำถามว่าบุ๋มอยากขอเจรจากับอีกฝ่ายก่อนหรือไม่ บุ๋มบอกว่า มันก็มีความคิดสองจิตสองใจ เพราะท่านก็เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เคยเจอกันตามงาน ทีมงานก็มีเจตจำนงที่เสนอว่าจะเชิญมาออกรายการ ตนเองก็จะเอาความจริงมาคุยกับประชาชนอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านไม่ตอบ ไม่มา แต่ฟ้องเลย ใช้วิธีการแบบนี้ ตนบอกตามตรงว่ากลัวที่จะเจอ

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด

ทางด้าน ทนายษิทรา ได้อธิบายว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ บุ๋ม ปนัดดา ได้จัดรายการแล้วได้เชิญ ไฮโซบี กำลังเป็นข่าวมีเรื่องพิพาทกับ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน แล้วปรากฏว่า ตอนที่ให้สัมภาษณ์ก็ได้พาดพิงถึงนายทหารท่านนี้ จนคิดว่าสิ่งที่มีการออกรายการทำให้เสียหาย แต่จริงๆ แล้ว ทาง บุ๋ม ได้เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจง ไม่ได้มีการปิดกั้นอย่างใด

และการที่คนเป็นพิธีกรได้สอบถามแขก ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า แขกจะตอบยังไง เบื้องต้นที่ถูกฟ้องมาตอนนี้เป็นคดีอาญา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสน นอกจากฟ้องคดีอาญา บุ๋ม เป็นจำเลยที่ 2 แล้ว ไฮโซบี เป็นจำเลยที่ 1 ก็ยังเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ก็คงจะไปสู้กันต่อไปในชั้นศาล ว่าสิ่งที่ออกรายการวันนั้นหมิ่นประมาทตามที่โจทก์ฟ้องมารึเปล่า และนอกจากนี้ ทนายษิทรา ยังบอกอีกว่า ถึงแม้โจทก์นั้นจะเป็นนายทหารยศใหญ่ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ถามว่า ในช่วงระหว่างที่กำลังรอขึ้นศาลนั้น จะสามารถเจรจากันได้มั้ย ทนายษิทรา ได้บอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะเป็นฝ่ายขอเจรจากับใคร ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมาขอนัดเจอกับ บุ๋ม มั้ย ก็ต้องอยู่ที่ตัวของ บุ๋ม ด้วย และ ทนายษิทรา ยังได้ฝากถึงนักฎหมายว่า ถ้าอยากจะฟ้องใครช่วยไตร่ตรองดูให้ดีก่อน ไม่ใช่ฟ้องหว่านทั่วไปหมด แล้วผลคดีมันออกมาอีกแบบหนึ่ง มันจะสร้างความเดือดร้อนทั้งสองฝ่าย อยากให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ดีก่อน

บุ๋ม-ทนายษิทรา

ส่วนคดีนี้อยู่ในขั้นตอนที่สามารถถอนฟ้องได้ เป็นเรื่องของโจทก์กับศาล เราไม่สามารถไปถอนฟ้องได้ แต่ถ้าคดีนี้มันมีมูลขึ้นมา บุ๋ม เป็นจำเลยก็ต้องไปสู้กันต่อไป โดยมีการนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกวันที่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 09.00 น. ณ ศาลอาญา รัชดา.

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง