“ซาร่า-ชัชชญา” เปิดใจคบ “มิกกี้” นักฟุตบอลทีมชาติไทย เข้าใจมีผู้หญิงเข้าหาเยอะ
เลยต้องสำรวจความฮอตของ ซาร่า เริ่มจาก รู้สึกยังไงที่มีละคร 4 เรื่องรวด?
“ต้องขอบคุณผู้ใหญ่และพี่ๆที่เอ็นดูหนู ตอนแรกคิดว่า 3 เรื่อง เรื่องที่ 4 มาแบบนาทีสุดท้าย เราชอบตรงนี้ รู้สึกว่าการเป็นนักแสดงท้าทาย เป็นคนอื่นต้องศึกษาตลอดเวลา เหนื่อยแต่ก็รักงานนี้ เวลาอยู่กองถ่ายแฮปปี้มาก 10 ซีนไม่ได้นั่งเลยก็มี วันไหนไม่ได้ทำงานนั่งซึมมาก เลยบอกคุณแม่ว่าขอคิวงาน 7 วันเลยได้มั้ย อยู่บ้านเหมือนไร้ค่า มันเครียดกว่าอีกค่ะ”
ถามถึงความรักกับหนุ่มมิกกี้ไปเจอกันได้ยังไง?
“เจอกันในโซเชียลค่ะ เค้ามากดไลค์รูปหนู แล้วกดรัว เราเลยไปถามน้องชายเพราะเห็นเป็นนักฟุตบอลเหมือนกันว่าคนนี้ใคร เค้าบอกว่าพี่เค้าอยู่สโมสรนี้เป็นนักฟุตบอล เราก็อ๋อๆ แล้วก็ปล่อยผ่าน จนวันนึงเป็นแมตช์ทีมชาติไทยไปแข่งที่ดูไบ น้องชายนัดแนะว่า 5 ทุ่มลงมาดูนะ เราเป็นคนชอบดูบอลอยู่แล้วเพราะคุณตาเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย แต่น้องก็เทซะงั้น เราเลยนั่งดูบอลคนเดียว พอเราเห็นพี่เค้าก็จำได้ เราดูบอลตลอดไม่เคยเห็น คิดว่าเค้าเพิ่งติดทีมชาติครั้งแรก เลยถ่ายเป็นสตอรีแล้วแท็กไปให้กำลังใจ สู้ๆนะคะ เห็นเค้ามาไลค์รูปเรา หลังจากนั้นเค้าก็รีสตอรี แล้วหนูไปกดฟอลโลพี่เค้าก่อน เค้าฟอลกลับมา ทีนี้เหมือนหนูลงสตอรีเค้าตอบมาก็เลยทำให้ได้คุยกันค่ะ”

สานต่อมาคุยกันยังไงในเมื่อตัวเค้าเดินทางบ่อย?
“ช่วงนั้นคุยกัน 8 เดือนไม่เจอกันเลย มีวิดีโอคอล แชตกันตลอด ด้วยความหนูกับพี่เค้าเป็นคนตรงๆ ทั้งคู่ บอกกันเลยว่างานหนูเป็นแบบนี้ ถ้าเราคุยกันแล้วงานเราไม่คลิกกันก็ไปด้วยกันไม่ได้”
แล้วบอกแม่ตอนไหนว่าคุยกับพี่เค้า?
“ไม่ได้บอกค่ะ แม่เค้าสืบเองค่ะ งงมาก สืบรู้ลึกรู้จริง” ถึงตอนนี้คุณแม่เสริมว่า “ด้วยความมีรุ่นน้องและคุณตาเป็นนักฟุตบอล รู้ว่า เล่นบอลอยู่กับใครแค่โทร.หาคนนี้ๆ คุณตาเพิ่งมารู้ตอนมีข่าวเราก็จะบอกว่าคือคนนี้ๆ คุณตาพูดมาคำนึงว่าไหวเหรอ เพราะว่าอย่างที่รู้กันนักฟุตบอลไม่ธรรมดาซักคน ตอนแรกก็ถามเลยว่ามีแฟนรึยัง นิสัยยังไง รุ่นน้องเคยเล่นกับเค้าบอกว่า 90% น่ารักนิสัยดี ดูแลพ่อแม่ แม่เลยมาบอกลูกสาวว่าแม่รู้แล้วนะ แม่โอเค ปล่อยให้เป็นเรื่องของเราค่ะ”
วันที่แม่รู้แต่ไม่ได้บอกเรา พอเรารู้แล้วแอบช็อกเลยมั้ย?
“ไม่ค่ะ หนูรู้นิสัยแม่อยู่แล้วค่ะ หนูแอบของแม่ไว้ตรงไหนแม่ยังรู้เลย เลยรู้สึกคงไม่มีอะไรยากสำหรับแม่แล้ว”
ด้วยความต่างสายอาชีพ เวลาไม่ตรงกัน เป็นอุปสรรคในการคุยมั้ย?
“ไม่ค่ะ เราทำงานแล้วเค้าก็ทำงาน เราเข้าใจง่ายคนเหนื่อยเป็นยังไง รู้ว่าถ้าไม่มีเวลาไม่เป็นไร แค่ทำอะไรแค่บอกให้รู้วันนี้เราทำอันนี้ ถึงเวลาโทร.คุยกันให้กำลังใจกัน โอเคมากๆ ต่อให้ไม่มีเวลาเลยแต่เราเข้าใจกันคือจบ”
ทะเลาะกันบ้างมั้ย?
“มีค่ะ บางทีเราอารมณ์ร้อนทั้งคู่ ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราเลือกคุยกันเลย ถ้ามันไม่เคลียร์จะติดในใจจะทำให้เราไม่สบายใจ จะพูดทุกครั้งว่ามีปัญหาต้องรีบเคลียร์นะ คือเราทำงานไม่ได้ เราแยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัวได้แต่มันไม่เต็มที่ไง ก็จะยังคิดเรื่องนั้นอยู่”
แอบมีความระแวงบ้างมั้ย เพราะเค้าเป็นนักฟุตบอลที่หน้าตาดี มีเรื่องสาวๆเข้ามาเป็นประเด็นกันบ้างมั้ย?
“คือจริงๆ ก็มีผู้หญิงเข้าหาเค้าเยอะเลยแหละ อย่างที่รู้สำหรับนักฟุตบอลก็คือปกติ ถามว่าหนูรู้สึกอะไรมั้ย ก็ไม่ค่ะ ถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้มีอะไรก็ถามตรงๆ เค้าก็จะอธิบายตอบทุกคำถาม ทำให้ความสัมพันธ์มันง่าย กลายเป็นเราเข้าใจกันมากกว่า หนูเป็นคนที่ถ้ามีอะไรถามเลย ต่างคนต่างไว้ใจซึ่งกัน และกัน”
กังวลเรื่องนักฟุตบอลจะเจ้าชู้มั้ย?
“เรียกว่าบริหารเสน่ห์มากกว่าค่ะ บางคนแต่งงานแล้วเรายังรู้สึกว่าเค้ามีเสน่ห์จังเลยเป็นเรื่องปกติมันอยู่ที่คนของเราและผู้หญิงที่เข้ามา เรื่องแบบนี้ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง”
งานเยอะแบบนี้ปีนึงได้เจอกันกี่หน?
“เจอหน้าประปรายมั้งคะ มีไปกินข้าวด้วยกันบ้าง งานเราไม่ฟิกซ์ทั้งคู่ กินข้าวแป๊บนึง ก็โอเคแล้ว”
คำที่คุณตาบอกว่าจะไหวเหรอ มีผลในการคบกันมั้ย?
“หนูมักคิดว่าทุกอย่างทำให้มันดีที่สุด ทำให้มันเต็มที่ที่สุด ถ้าวันนึงมันไม่ได้อย่างที่เราหวังก็จะไม่เสียใจ เพราะว่าเราทำเต็มที่แล้ว แล้วเราก็แค่รู้สึกรับไม่ได้เรื่องมือที่ 3 ทะเลาะอะไรกันก็แล้วแต่ถ้ามีเรื่องมือที่ 3 คือรับไม่ได้ ถ้ามันมีก็จบ เพราะเราไม่ชอบความไม่ซื่อสัตย์และเรื่องโกหกที่บ้านรับไม่ได้”.
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2433222
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2433222