ไอซ์ ปรีชญา เครียดมรสุมถาโถมจนวูบเข้า รพ. เงินเก็บหมดหลายล้านเพื่อรักษาพ่อแม่
เรียกว่าเจอมรสุมชีวิตหนักสำหรับนางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ซึ่งหลังจากเกิดประเด็นร้อนซื้อสารไซยาไนด์เพราะจะนำมาใช้กำจัดสัตว์เลื้อยคลานที่เข้ามาในบ้าน เจ้าตัวก็ถูกยกเลิกงาน ก่อนจะโพสต์ไอจีสตอรี่เศร้าๆ และเกิดอาการวูบจนต้องถูกนำตัวส่ง รพ. ซึ่งหลังจากรักษาตัวจนดีขึ้นแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวได้มาร่วมงาน Grand Opening New Product เปิดตัวสินค้าใหม่ในเครือบริษัทแฮวอน ณ Design Village เกษตร-นวมินทร์ ชั้น 2 นักข่าวจึงให้ไอซ์อัปเดตสภาพจิตใจ พร้อมทั้งเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ถามถึงสุขภาพใจเป็นยังไงบ้าง?
“จิตใจก็ดีขึ้นในระดับนึงค่ะ ที่ดีขึ้นน่าจะเป็นกำลังใจจากหลายๆ ฝ่าย คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว แฟนคลับค่ะ ทำให้ไอซ์ใจฟูขึ้นเยอะค่ะ ถามว่าปรึกษาแพทย์ไหมก็ปรึกษาแพทย์ค่ะ ก็ไปหาคุณหมอค่ะ”
ตอนนี้ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ไหม?
“ใช่ค่ะ ก็ยังดูแลกันอยู่ค่ะ ถามว่าให้คำแนะนำยังไงบ้าง จริงๆ ไม่มีอะไรมากค่ะ ก็ Follow-up เรื่องสุขภาพข้างใน เรื่องการพักผ่อน การทานอาหาร เรื่องความเครียดที่เราสะสมมาเยอะค่ะ ก็มีผลกับร่างกายค่ะ”
แสดงว่าเน้นเรื่องการพักผ่อน?
“ใช่ค่ะ ถามว่าต้องมากขนาดไหน จริงๆ ไอซ์เป็นคนที่เวลาเครียดเยอะๆ แล้วจะนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับก็จะทานไม่ได้ มันจะผิดเวลาไปหมด มันทำให้เราไม่มีสารอาหารไปเลี้ยง แล้วมันก็วูบได้ (มันส่งผลกระทบหมด?) อ๋อ ส่งผลแน่นอนค่ะ เพราะโดยตรงเรื่องความเครียดเป็นเรื่องที่คุมไม่ได้อยู่แล้ว สำหรับคนเป็นโรคนี้เองจะรู้ดีว่าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือความเครียดในวันที่เราเจอปัญหาได้ มันอาจจะทำให้เรานอนไม่หลับหรือทานอาหารไม่ได้เป็นเรื่องปกติค่ะ”
ที่ผ่านมามันถึงขั้นวิกฤติของโรคไหม?
“คิดว่านะคะ ถึงกับวูบไปเนี่ยคิดว่าวิกฤติแล้วแหละ เพราะว่ามันอาจจะเจอปัญหากับหลายๆ ด้านด้วย พอเราเครียดมากก็กลายเป็นเราไม่ได้ทาน ไม่ได้นอน นอนก็ไม่ได้หลับสนิทค่ะ ถามว่านอนไม่หลับกี่วัน คือมันนับเป็นวันไม่ได้ค่ะ แต่มันจะสะสม สมมติวันนี้ไอซ์หลับเกือบเช้า มันจะรู้สึกตัวง่าย บางทีเราหลับไปแต่ว่าเราอาจจะไม่ได้หลับลึก เหมือนหลับกลางๆ รู้สึกตัวตลอดเวลา คือเราคิดหลายๆ เรื่องตลอดเวลา บางทีมันก็วูบไปได้”
จริงๆ วันนั้นเราเป็นยังไงบ้าง?
“คือวันนั้นจริงๆ ไอซ์ก็ใช้ชีวิตปกติค่ะ แต่พอดีมันมีเรื่องเข้ามาเยอะมากแล้วเครียด ก่อนหน้านี้มันเป็นการสะสมด้วยแหละค่ะ สะสมมาเป็นเวลานานหลายอาทิตย์ พอมันไม่ได้สารอาหาร ไม่ได้นอน มันก็เลยเหมือนกับว่าวูบไป”

ในวันที่อยู่ รพ. คิดอะไรอยู่บ้าง?
“ตอนแรกก็งงๆ ค่ะ เราก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเราเป็นอะไรไป คุณหมอบอกว่าเราอาจจะเพลียมากเกินไป แล้วก็บวกกับไอซ์เป็นความดันต่ำด้วย”
กับข่าวก่อนหน้านี้หลายคนเข้าใจว่าไอซ์กินยาเพื่อฆ่าตัวตาย?
“อ๋อ ไม่ถึงกับขนาดนั้นค่ะ ไม่ใช่ค่ะๆ (ส่ายหน้าแล้วยิ้ม) แต่ว่าเป็นความเครียดมากกว่า ส่วนยาไอซ์ทานอยู่แล้วค่ะ ถามว่ามีแวบคิดไหม มันก็มีแวบๆ บ้างอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น”
คุณแม่เคยบอกว่าด้วยความเป็นศาสนาคริสต์ การทำแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง?
“ก็ถูกอย่างที่คุณแม่บอก ไอซ์ก็ยังเป็นคริสต์เหมือนเดิม”
หลายคนก็เป็นห่วง เราได้รับกำลังใจยังไงบ้าง?
“โห ขอบคุณมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับหลายคนที่เข้ามาให้กำลังใจไอซ์เยอะมากๆ เลย ก็ขอบคุณอีกครั้งนึงนะคะ (ยกมือไหว้) เพราะมันเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับไอซ์มากเลย ไอซ์อ่านทุกคอมเมนต์นะ ดีใจที่คนให้กำลังใจไอซ์ เข้าใจว่าเราเป็นอะไรค่ะ”
ถือเป็นช่วงที่ดาวน์ที่สุดในชีวิตไหม?
“ดิ่งเลยแหละค่ะ ดิ่งที่สุดแล้วค่ะตอนนี้ ทุกอย่างมาภายใน 1 วันค่ะ”
ตอนนี้กลับมาแล้ว?
“กลับมาแล้วค่ะ เริ่มกลับมาแล้ว ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ หลายคนที่เข้าใจค่ะ”
ตอนวิกฤติหนักๆ ใครยื่นมือมาช่วยเหลือบ้าง?
“ก็เพื่อนๆ ค่ะ จริงๆ คนแรกที่ไปถึง รพ. ที่เจอวันแรกคือน้ำชา (ชีรณัฐ ยูสานนท์) น้ำชาเป็นคนที่จับมือไอซ์วันแรก”

ปัญหาหลักที่เครียดคือเรื่องเงินใช่ไหม?
“จริงๆ ไอซ์เครียดตั้งแต่เรื่องข่าวแล้วเนอะ มีคดีความ ซึ่งมันไม่มีคดีความอะไรเลย มันจบไปแล้ว หลังจากนั้นก็เครียดมาเรื่อยๆ เพราะเรื่องงานอีก มีปัญหาเรื่องคุณแม่ไม่สบายด้วย มันก็เลยบวกกันเข้ามาอีก”
เงินเก็บใช้หมดเลยจริงไหม?
“ใช่ ใช้เงินเก็บค่ะ ช่วงที่คุณพ่อผ่าตัดเป็นช่วงที่ไอซ์ต้องใช้เงินรักษาคุณพ่อหมดเลย (เงินอาจไม่ได้คล่องเท่าสมัยก่อน?) ใช่ค่ะ ก็ไม่ได้คล่องขนาดนั้น ตอนนี้ก็พยายามทำตัวเองให้แข็งแรง กลับมาทำงานให้ได้”
ตอนเงินร่อยหรอ เราลองหาวิธีที่จะทำให้มีเงินเข้ามาบ้างไหม?
“จริงๆ ก็หาหลายวิธี แต่ว่าตอนนั้นปัญหาเยอะมาก เราก็ไม่กล้าปรึกษาใคร ไม่กล้าปรึกษาคุณแม่เพราะคุณแม่ไม่สบาย คุณพ่อก็ไม่สบาย ก็ไม่รู้จะปรึกษาใครดี มันก็เลยกลายเป็นเราเครียดเอง”
มีคนรับฟังปัญหาของไอซ์บ้างไหม?
“คือไอซ์เป็นคนไม่ค่อยพูดค่ะ เป็นคนที่พูดน้อย ถ้าไม่สุดจริงๆ ไม่ไหวจริงๆ เราจะไม่พูดเลย ก็เลยไม่อยากจะเอาปัญหาของเราไปให้ใครหรือปรึกษาใคร เพราะกลัวเขาจะเครียดกับเรา เหมือนตัวไอซ์เองเวลาเพื่อนมีปัญหา เขามาปรึกษาไอซ์ ไอซ์รู้สึกเครียดไปกับเขาด้วย ไอซ์เลยรู้สึกว่าโอเคฉันไม่ไหว ล้มพับไปเลยแล้วกัน แต่ถ้าไหวอยู่จะไม่พูดอะไร”
มีคนเสนอไหมว่าถ้ามีอะไรก็เล่าให้ฟังได้?
“มีค่ะ แต่ว่าหนูรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาของเรา เราอยากแก้ปัญหาให้ได้ด้วยตัวเองก่อน เราเลยยังไม่อยากไปปรึกษาใคร”

ช่วงที่แย่สุดๆ เหลือเงินในบัญชีเท่าไร?
“ไม่กล้านับเลย มันก็เครียดอยู่แล้วเนอะ เงินเก็บเรา แต่ไอซ์รู้สึกว่าเสียสละเงินก้อนนี้ได้ มันไม่เป็นปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะไอซ์เอาไปรักษาคุณพ่อคุณแม่ ต่อให้ไอซ์ไม่มีเงินเหลือสักบาทก็ไม่เป็นไร ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งก็เป็นก้อนเลยค่ะ มันหายไปเลย ก็เป็นหลักล้าน ครั้งละ 3 ล้าน 5 ล้านค่ะ”
ทุกวันนี้ไอซ์มีภาระค่าใช้จ่ายยังไงบ้าง?
“จริงๆ จะเป็นค่ารักษาพยาบาลเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ค่ายา และก็ของตัวไอซ์เองด้วย คือไอซ์เป็นเสาหลักของบ้าน ไอซ์ก็ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทำงานเพราะเขาอายุเยอะแล้ว อีกอย่างเขาไม่สบายด้วย ไอซ์ก็เต็มที่ค่ะ ตอนนี้ก็พร้อมค่ะ ใครมีงานก็จ้างไอซ์ได้นะคะ พร้อมมากเลยค่ะ (ยิ้ม)”
จริงๆ งานในวงการบันเทิงก่อนหน้านี้ทำให้เราคิดว่ามันไม่ใช่ทางของเราแล้วหรือยังไง?
“อืม คือถ้าเข้ามาในจุดนี้แล้ว ไอซ์รู้สึกว่ามันต้องมีบ้างอยู่แล้วค่ะ เรื่องอะไรที่กระทบกระทั่งความรู้สึกเรา สภาพจิตใจเรา หรือบั่นทอนอะไรเรา แต่เราก็พยายามมองหากำลังใจจากคนที่เรารักมากกว่า”
ทุกวันนี้คิดว่ายังมีคนที่ไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นไหม?
“มีอยู่แล้วค่ะคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แต่ว่าไม่เป็นไร เพราะไอซ์รู้สึกว่าเราได้ชี้แจงทุกอย่างอย่างชัดเจนเรียบร้อยแล้ว เราก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นคิดว่าโฟกัสในเรื่องที่เราจะตั้งใจทำต่อไปดีกว่าค่ะ”
จะลดการเล่นโซเชียลลงไหม?
“ไอซ์ก็เคยทำนะ ช่วงที่เครียดมากๆ มีข่าวเยอะๆ ก็พยายามไม่อ่าน ไม่ดูอะไรทั้งสิ้นเลย ก็ดีขึ้นค่ะ ทุกคน คุณแม่ เพื่อน แฟนคลับ คุณหมอก็บอกว่าหยุดอันนี้ไปก่อนเลย เราพักใจก่อนเลย ไปต่างประเทศไหม หรือไปต่างจังหวัด ให้ไปพักผ่อนค่ะ แต่ด้วยความที่เราก็ทำงานตรงนี้อยู่ดี มันก็เลยเลี่ยงการเสพสื่อหรืออะไรในโซเชียลมีเดียไม่ได้”

ตอนนี้ความสุขของไอซ์คืออะไร?
“ความสุขของไอซ์คือการทำงานค่ะตอนนี้ ก็อยากกลับมาทำงานค่ะ เพราะว่ารู้สึกว่ามันทำให้เราได้แอ็กทีฟ ทำโน่นทำนี่ค่ะ”
ตอนที่ไอซ์ไปออกรายการ กับคำว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ คนก็มองว่ามีคนที่ลำบากกว่าเรา?
“อ๋อ มีอยู่แล้ว มีคนที่ลำบากกว่าไอซ์อยู่แล้ว แล้วใครไปเอาคำนี้มาเหรอคะ (นักข่าวบอกว่าคุณแม่) อ๋อ คุณแม่พูด คุณแม่อาจจะพูดไปในเชิงเปรียบเปรยมากกว่า แต่หนูไม่ถึงขั้นนางฟ้าหรอกค่ะ หนูก็คนธรรมดานี่แหละ แล้วหนูก็รู้ว่าคนที่ลำบากกว่าหนูก็มีเยอะมากๆ ซึ่งหนูก็ขอให้กำลังใจด้วย เพราะหนูเชื่อว่าคนเราเมื่อถึงจุดที่ลำบากที่สุดก็จะมีเรื่องที่ดีๆ เข้ามาเสมอ ก็อยากให้กำลังใจทุกคนที่ประสบปัญหาตอนนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องงาน เงิน ความรัก สุขภาพร่างกายตัวเอง ขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ”
ตอนนี้ไอซ์มองเห็นแสงสว่างในชีวิตตัวเองแล้ว?
“ค่ะ ก็เนี่ยได้กำลังใจจากพี่ๆ ทุกคน (ผายมือไปที่สื่อมวลชน) ทุกคนน่ารักหมดเลย ขอบคุณมากๆ ที่มาวันนี้ (ยกมือไหว้) และมาให้กำลังใจค่ะ”
ล่าสุดมีคนชมว่าหน้าเราสวยมาก?
“อ๋อ ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) ได้หยุดงานพักผ่อนนี่แหละค่ะ พยายามนอนเยอะๆ ทานอาหารเยอะๆ ที่มีประโยชน์ เพราะตอนนี้ผอมลงน่าจะ 5 กก. แล้วค่ะ ภายในประมาณ 1 เดือนมั้งคะ”
อยากทำงานอะไร ภาพยนตร์ ละคร พรีเซนเตอร์?
“ก็ได้หมดนะคะ หนูทำได้หมดเลยค่ะ ร้องเต้นเล่นหนูทำได้หมดค่ะ ตอนนี้ก็มีเข้ามาค่ะ”.
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2713350
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2713350