แต่ก่อนหน้านั้นจำไม่ได้ว่าปีหรือสองปีก็ทานปูเหมือนกัน แต่ตอนนั้นมีอาการตาปิด แต่ตอนนั้นคิดว่าเขากินเป็นบุฟเฟต์อาหารทะเล คิดว่าอาจมีการเจือปน แต่ตัวเองคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก อาจจะโดนจากน้ำจิ้มหรือมีการสัมผัสกุ้ง ก็ไม่มั่นใจ โทษอะไรไม่ได้ แต่พอมากินปูอีกก็ไม่ได้ออกอาการในช่วง 2 วันที่กิน แต่วันนั้นสัญญาณเตือนมันมาจากหลังจากกินไปไม่ถึง 20 นาทีก็ออกอาการแล้ว พอถึงบ้านก็ตาปิดเลย

ทีนี้ 2 วันนั้นที่กินไป พออีกวันนึงนอนแล้วตื่นขึ้นมาปากเจ่อเลย นิ้วเริ่มมีตุ่มพอง ที่ขาก็เริ่มขึ้น ฝ่าเท้าก็เริ่มขึ้นเยอะ เริ่มขึ้นที่แขน ก็เลยซื้อยามาทาเอง อาทิตย์แรกใช้ยายี่ห้อนึง ซื้อยาทานเองก็แพ้ อาทิตย์ที่ 2 ก็เปลี่ยนยา ให้เภสัชดู แล้วบอกข้อมูลการแพ้ยาว่าแพ้กี่ตัว เภสัชก็จัดยามาให้ แล้วเอายาแก้แพ้มาทานด้วย แต่ก็ยังขึ้นอยู่ดี อาการเริ่มเยอะขึ้น คันมากขึ้น นอนไม่ได้มากขึ้น

พอไปหาหมอ ทาง รพ.ก็ให้ไปหาที่ รพ.ผิวหนังโดยตรง หมอก็ให้ทานยา 1 อาทิตย์ และให้ทานสเตียรอยด์วันละ 2 เม็ด ตัวยาทาก็เป็นสเตียรอยด์เหมือนกัน ปรากฏว่ายิ่งขึ้นมาอีก เริ่มนอนไม่ได้มากขึ้น อาการหนักขึ้น ก็แจ้งคุณหมอไปว่าไม่น่าจะทานได้แล้ว หมอคนแรกก็ให้ผ้าก๊อซกับน้ำเกลือเอาไว้ซับน้ำเหลือง และนัดให้ไปตรวจภูมิแพ้ และนัดตรวจว่าแพ้สเตียรอยด์หรือเปล่าอีกทีคือเดือน ธ.ค. แต่ก็ยังอยากให้ทานยา ซึ่งร่างกายมันบอกเองว่ากินไม่ได้แน่ๆ เพราะยิ่งกินยิ่งขึ้น แต่หมอบอกว่าตรงขาเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่แขนก็ยังขึ้น คือมันให้ผลที่ไม่เหมือนกันในแต่ละแผล เลยคิดว่าแพ้แน่ๆ และทำให้นอนไม่หลับด้วย

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Pee Hijack

ก็เลยมานั่งศึกษาด้วยตัวเอง นั่งสมาธิรักษาจิตใจไม่ให้เจ็บป่วยไปมากกว่านี้ และบังเอิญไปเจอคลิป ศ.ดร.นพ วิชัย เอกทักษิณ แห่งบ้านอาศรม ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาจมีปัญหาในเรื่องอาหารเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ เลยตัดสินใจเลิกเนื้อสัตว์ก่อนไปหาคุณหมอ และเริ่มทานอาหารเจตั้งแต่วันนั้น พอไปหาคุณหมอก็ไปทำเอ็มอาร์ไอ แล้วทานน้ำส้มที่ได้มา ปรากฏว่าอาการคันมาทันที เลยเล่าให้คุณหมอฟัง ซึ่งพอทำเอ็มอาร์ไอ ผลการตรวจภายในปกติดีทุกอย่าง คุณหมอก็ดูว่ามีการอุดตันหรือคั่งตรงไหนบ้าง

ทีนี้มันก็ฟ้องว่าผีมีปัญหาที่ข้อเท้าแน่ๆ คุณหมออธิบายว่าอาการต่างๆ ที่มันมา เวลาเราแพ้อะไร แล้วถ้าเรามีแผลอะไรเล็กๆ น้อยๆ เวลามันเล่นงานเรา มันจะมาทันที แล้วถ้าเราแพ้มันอยู่แล้ว เวลาเจออาหารแสลงแล้วเราไปกินมัน มันอาจจะมีโอกาสเล่นงานเรา ต้องระวัง จึงรักษากับคุณหมอวิชัย พอแผลที่แขนและขาหาย คุณหมอไปต่างประเทศ เลยกลับมารักษาตัวเองที่บ้านโดยใช้วิธีคุณหมอ

แล้วช่วงนั้นอยากไปกินก๋วยเตี๋ยวเจมาก แล้วสั่งลูกชิ้นทอดเจ เต้าหู้ทอด มีทั้งพริกไทย ของทอดทั้งนั้น พอกินไปอีกวันมาเป็นจุดแดงๆ ที่แขน เริ่มขยายตัวจากข้างขวามาข้างซ้ายด้วย และเป็นในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกันมาก หลังจากนั้นก็บานปลายเลย พอคุณหมอกลับมาก็ไปรักษา แล้วใช้แผ่นที่รองแปะแผลอีกทีก่อนแปะผ้าก๊อซ ปรากฏว่าแพ้แผ่นอันนี้อีก

ตอนนั้นยังไม่มีความรู้เรื่องอาหาร เลิกแค่เนื้อสัตว์ แต่พอเริ่มศึกษาจึงได้รู้ว่าอะไรควรกินไม่ควรกิน อาหารอันไหนร้อนเย็น จึงเริ่มมาปรับใช้ ตอนอาทิตย์สุดท้ายที่ไปหาหมอ กำลังทรัพย์เริ่มไม่ไหว เลยเอาผ้าก๊อซตัดครึ่งนึงมาแปะแทน และเอาผ้าก๊อซจริงๆ มาซับอีกที เวลาน้ำเหลืองไหลก็แกะด้านบนออก ส่วนด้านในก็ล้างเอา เอามันออกตอนอาบน้ำ จากนั้นก็รักษาตัวเองมาตลอด เรียนรู้มาตลอด

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Pee Hijack

ผีเล่าถึงความลำบากเมื่อมีอาการแพ้ว่าย่ำแย่ นอนไม่ได้ คัน 8-9 เดือนที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน อาการก็เพิ่มขึ้น จนมาเริ่มหาวิธีพันผ้าให้หนาขึ้น พันรอบ 2-3 ก็ไม่คัน พอใช้สักพักก็กลับมาคันอีก อากาศก็มีผล นอนห้องแอร์ก็ไม่ได้ ต้องอยู่ห่างแอร์ จะรับแอร์จากความเย็นที่แผ่มา ไม่ใช่ลมตรงๆ ส่วนทางด้านจิตใจก็นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด เพราะความเครียดส่งผลกับโรค พยายามพันผ้าไว้ทำให้อบอุ่นขึ้น นอนได้นานขึ้น

แต่ถึงแม้จะป่วยจนใช้ชีวิตค่อนข้างยาก ผีบอกว่าเขามีความหวังเสมอว่าเอาชนะมันได้แน่นอน ถ้าภายในเริ่มดี มันก็เริ่มส่งผลให้แผลภายนอกขึ้นมาใหม่เริ่มน้อยลง แผลมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นในการหาย เชื่อมั่นว่าถ้าแผลหายทั้งหมด ปลดพันธนาการจากตรงนี้ได้ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างต้องสมดุล ให้ร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเอง แต่ใช้เวลาอีกนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จะอยู่กับมันอย่างมีความสุข.