"ดิว-อริสรา" ยอมใจ "เซบาสเตียน" เจ้าพ่อเซอร์ไพรส์ เผยความรักชวนอิจฉาทุกทริป
เริ่มจากที่ดิวชอบเพลง Too Good At Goodbyes ของ Sam Smith?
“ดิวชอบเปิดเพลงนี้ สารภาพเลยว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยความรัก พอเจอเพลงที่เกี่ยวกับความรักก็จะอินเหลือเกิน แล้วเราไม่ได้กลัวว่าจะเจ็บจากความรักด้วยนะ ถ้าเรื่องความรักเราจะไปให้สุดคิดว่าการเลิกไม่ใช่ทางออกของเรา และความจริงความรักไม่ใช่เรื่องง่าย ความรักเป็นเรื่องยากที่เราต้องปรับไปเรื่อยๆ เราเลยเป็นคนที่พร้อมที่จะแก้ ไม่ได้รู้สึกว่าฉันคือ “ดิว-อริสรา” นะเราเคยมีโมเมนต์อ้อนวอนให้ไม่เลิกก็เคยทำมาหมดแล้ว”

อีกเพลงหนึ่งที่ชอบคือ Scared To Be Lonely-Martin Garrix Ft.Dua Lipa?
“จริงๆเพลงนี้เป็นความรักในช่วงวัยรุ่นของเราที่ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ว่า มีเค้าอยู่เพราะกลัวที่จะเหงาหรือว่าเพราะว่าอะไรกันแน่ ทำให้เราเสียเวลาไปเพราะแค่เราไม่อยากจะเหงาอยู่คนเดียวไม่ได้ ก็ต้องมาถามตัวเองว่าสิ่งที่ต้อง การในชีวิตคืออะไร เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในชีวิตของผู้ชายหรือผู้หญิง เวลามีความรักก็ควรมีเป้าหมาย”
ตอนนี้เป้าหมายความรักของเราคืออะไร?
“ดิวอยากเลือกหรืออยู่กับใครก็ได้ที่เห็นภาพในอนาคตว่าเค้าจะทำให้ลูกเราในอนาคตเป็นคนดีได้ยังไง ไม่ใช่แค่ดีกับเรายังไง แต่ต้องมองว่าเค้าจะเป็นพ่อแล้วเค้าจะเลี้ยงลูกยังไง จะสอนลูกยังไง แล้วเค้าวางแผนในชีวิตลูกยังไง เพราะตอนนี้ดิวรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กังวลเรื่องอะไรแล้ว ในวัยเด็กเราอาจจะอยากได้ผู้ชายเปย์ ผู้ชายเทกแคร์ แต่ในวันนี้เราสามารถซัพพอร์ตตัวเองได้ประมาณหนึ่ง เราเลยคิดไปไกลกว่านั้นว่า วันหนึ่งถ้ามีลูกเขาจะพาลูกเราไปในทิศทางไหน”
ถ้าถามอนาคตเรื่องแต่งงาน ดิวยังไม่แน่ใจว่าพร้อมที่จะเสียสละใช่มั้ย?
“ถ้าพูดถึงความเป็นแม่เรายังมีความกลัวอยู่ว่าจะเป็นแม่ได้ดีไหม แต่ก็รู้แหละว่าถ้าวันนั้นมาถึงเราคงรักลูกเรามากๆ วันนี้ถ้าถามว่าพร้อมมั้ยดิวว่าเราทั้งสองคนพร้อม แต่อยู่ที่ใจอย่างเดียวแล้วว่าจะไปถึงหรือเปล่า”

รู้มาว่าทริปอเมริกา เซบาสเตียนทำเซอร์ไพรส์ทุกวัน?
“ตอนแรกที่คุยกันเค้าถามว่าดิวชอบอะไร เราก็ตอบว่าชอบความเซอร์ไพรส์ ไม่ต้องถูกหรือแพงก็ได้ หลังจากนั้นเลยเซอร์ไพรส์ไม่หยุดจริงๆ ตื่นเต้นตลอดเวลา มีครั้งหนึ่งบอกว่าพาไปฮาวาย แต่พาไปโผล่อามานกิรี แล้วเสื้อผ้าที่เราเตรียมมาคือชุดว่ายน้ำ แต่อามานกิรีคือ 2 องศาตอนกลางคืน ที่ทุกคนเห็นว่าใส่ชุดว่ายน้ำไม่มีใครรู้ว่าฝรั่งมองว่าเป็นบ้าหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่ดิวว่าทุกเวลาของเค้า เค้าให้ความสำคัญกับความสุขของเราเยอะมาก ทั้งทริปไม่มีอะไรเลยที่เค้าอยากทำ ทั้งหมดคือของดิวทั้งหมดแล้ว ทริปนั้นยังไม่จบ เค้าวางแผนทริปใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้ยาวไปจนถึงทริปเดือน มี.ค.-เม.ย.แล้วนะคะ ซึ่งแต่ละทริปน่าจะประมาณ 1 เดือน ไม่ได้นานเหมือนครั้งก่อน”
พูดถึง 14 ปีในวงการของ ดิว-อริสรา บ้างกับเปลือกนอกที่คนไม่เข้าใจ?
“บางสิ่งบางอย่างไม่ใช่อย่างที่เห็น แต่ดิวว่าสุดท้ายแล้วทุกคนจะค่อยๆรู้กันไปเอง จริงๆ แล้วพอโตขึ้นเราไม่ค่อยอยากจะทะเลาะกับใครหรอก โตขนาดนี้แล้วแต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราต้องมองตัวเองก่อนว่าเราทำผิดอะไร ถ้าทำผิดก็จะแก้ไขเพราะต้องบอกว่าความผิดพลาดตอนเด็กๆทำให้เราคิดได้ในวันนี้ ดิวรู้สึกว่าทุกๆเรื่องที่มันแย่ ยังมีเรื่องดีๆ เพราะทำให้เราได้เห็นอะไรเยอะ ได้เห็นมุมดาร์กๆของตัวเองว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าไม่ได้ปรับปรุงวันหนึ่งก็อาจจะสายเกินแก้ก็ได้ แต่ต้องยอมรับว่าบทเรียนแต่ละเรื่องหนักหน่วงทั้งนั้นเลยนะคะ (หัวเราะ) จุกๆทั้งหมด ไม่รู้เหมือนกันว่ารอดมาถึงวันนี้ได้ยังไง แต่ดิวเชื่อว่าเรามีทุกวันนี้เพราะเรามีคนรอบข้างที่ดี ไม่ใช่แค่ดิวคิดได้หรอก”.

ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2260450
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2260450