มดดำ เตือนสติ ปุยฝ้าย แต่งงานมาครบอาทิตย์ ยังไม่ปฏิบัติภารกิจบนเตียง
ชีวิตหลังแต่งงาน ไม่เปลี่ยน เหมือนเดิมมาก เหมือนตอนยังไม่แต่ง เพราะปกติเหมือนเป็นเพื่อนกัน ความสวีตหวานแหววเหมือนเดิม แต่ที่รู้สึกว่าเปลี่ยนเหมือนเขา กล้าถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น พอแต่งเขาก็ประคับประคองเยอะขึ้น ปุยฝ้ายก็บอกว่าไม่ต้อง ไม่ได้ท้อง
เข้าหอคืนแรกเพื่อนบอกต้องทำตามประเพณี แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ยังไม่ได้ ง่วง เก็บไว้ก่อน ส่วนเรื่องมีน้อง ฝ้ายแพลนไว้กลางปีหน้า เพราะไปมูมา หมอบอกให้ดาวมฤตยูไป เขาอยู่กับฝ้ายมา 7 ปีแล้ว พระท่านบอกเดือนกรกฎาปีหน้า และราหูเข้าต่อ
เราตกลงกันแล้ว ให้ปั๊มออกมาใส่กระปุกไว้แล้วเอาไปแช่ตู้เย็น เมื่อไหร่พร้อมก็เอาไซริงค์ดูดแล้วฉีดเข้าไป ปีหน้าก็อายุ 35 ปี คลอด 36 ก็พอได้นะ เพราะเอาจริงๆ ตอนแรกฝ้ายไม่อยากมีลูก เพราะไปปฏิบัติธรรมมา เรารู้ว้ามันคือกองทุกข์กองใหญ่

แรกๆ สามีเขาก็ดราม่าอยู่ เพราะเขาอยากมี เขามองว่าการมีลูกคือจุดหมายใหญ่ในชีวิตเขา ก็เลยบอกเขาว่าถ้าฝ้ายตอบโจทย์เรื่องนี้ไม่ได้เปลี่ยนใจมั้ย ไปหาคนที่เขาพร้อม แต่เขาบอกว่าอย่าพูดแบบนี้ เขารักเรา ถ้าเราไม่มีเขาโอเค เอาไว้ให้ฝ้ายพร้อมค่อยว่ากัน
และสุดท้ายฝ้ายก็คิดได้ว่า ปฏิบัติธรรมมาตั้งนานแล้วดันกลัวการมีลูก กลัวว่ามันจะทุกข์ แสดงว่าที่ปฏิบัติธรรมมาทั้งหมดสอบตก แสดงว่าใช้งานธรรมะไม่ได้ ที่ไปฝึกมาว่าจะอยู่กับความทุกข์ทุกอย่างให้เป็น ปล่อยวางได้ ไม่คาดหวัง
พอมีลูกก็กลัวว่าเขาจะทำให้เราเสียใจ จะอยู่ได้มั้ย ถ้าเขาทำให้คาดหวัง เราจะเป็นอย่างไร เรากลัว แทนที่จะใช้ธรรมะที่ศึกษาเอามาปรับใช้ในวันที่มีลูก ก็เลยตัดสินใจมีก็มี เขาอยากมีลูก เพราะอยากสร้างคนๆ นึงขึ้นมาด้วยตัวเขา เขาอยากเลี้ยงลูกให้ดี
และพอไปหาหมอ หมอก็บอกว่ามีภาวะการมีบุตรยากเข้าไปอีก งานนี้ มดดำ คชาภา เลยสวดปุยฝ้ายชุดใหญ่ ว่าไม่ต้องรอ อายุก็เยอะ ใช้ว่าจะติดกันง่ายๆ งานนี้ทำเอาสาวปุยฝ้ายหันไปบอกสามีว่า อะ งั้นคืนนี้ก็ได้ ทำเอาทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน
ปุยฝ้ายเล่าให้ฟังถึงความรักของทั้งคู่ต่อว่า เมื่อก่อนไม่ชอบ เขาไม่ใช่ผู้ชายในสเปก เจอแล้วเฉยๆ ไม่ตื่นเต้น คนที่บอกว่าหน้าตาไม่ใช่สเปก ไม่เน้นหน้าตา คนนั้นตอแหลเพราะในที่สุด สิ่งที่ทำให้เราสนใจคือบุคลิกภาพหน้าตา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดูดี แต่เขาไม่ใช่สเปกเรา ไม่ใช่แบดบอย เขาเรียบร้อยมาก

จากนั้นมดดำ ก็จัดไปอีกชุดใหญ่ว่า ที่เจ็บมาก่อนหน้านี้ยังไม่พออีกเหรอ เมื่อก่อนเห็นนั่งร้องไห้อยู่ที่ป้ายรถเมล์ตรงลาดพร้าว เพราะไปตีกับผู้ชายมา งานนี้ ปุยฝ้าย เลยรีบพูดว่า เห็นใครก็ได้นะทั้งโลกนี้ ไม่น่าเป็นคนนี้เลย ไม่ควรเลย
และปุยฝ้ายก็เล่าต่อว่า แต่เขาเป็นผู้ชายที่คุยด้วยแล้วสบายใจที่สุด ทำให้สงบ เลยคิดว่าหรือว่าจะเป็นเขา บอย พิษณุ เป็นพ่อสื่อ เขาบอกมีผู้ชายจะติดต่อให้คนนึง เราก็บอกว่าไม่เอา กำลังสนุกกับการทำงานและกำลังฮอต แต่พี่บอยบอกนิสัยดีมากจริงๆ ลองคุยดู ก็เลยตกลง
คุยวิดีโอคอลแล้วรู้สึกว่าพี่เขาซื่อๆ ดูไม่มีพิษมีภัย แต่ก่อนหน้านี้ไปขอกับท้าวเวสสุวรรณ เขาให้ขอได้ 1 ข้อ เลยขอว่าถ้าชีวิตหนูจะมีคู่กับเขาขอให้เจอคนที่มีธรรมะ ขอให้เขาเมตตาเรา และขอให้เขามีศีลเหมือนที่เรามี บุคลิกหน้าตาไม่ได้ระบุ แต่พอออกจากวัดพี่บอยโทรมาเลย คนนี้ครบที่ขอ เกินด้วย
งานนี้ ตาม เธียรวิชญ์ ก็เล่าว่า รักปุยฝ้ายตั้งแต่สมัยประกวดเอเอฟ แต่ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า เพราะหน้าอ้วนมาก เห็นครั้งแรกชอบ จ้ำม่ำมาก เขาน่ารักดี เห็นแล้วถูกใจ พอมาเจอตัวจริง เขาเรียบร้อย
และตามเล่าต่อว่า ไม่รู้อะไรดลใจทำให้นึกภาพผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วบอกพี่บอยว่าชอบเขา ติดต่อให้หน่อย แล้วพี่บอยก็บอกว่า มันแปลกนะ แต่นิสัยดี แต่แปลกหน่อย
จากนั้น ปุยฝ้าย ก็เล่าต่อว่า ผู้ชายพาไปกินโอมากาเซะ 38,000 บอกเขาไปว่าไม่อิ่ม เพราะฝ้ายสายกิน แต่งานนี้สามีของสาวฝ้ายก็บอกว่า ตัวเองก็เป็นคนกินเยอะ พอมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกว่าเขาไม่แอ๊บดี กินด้วยกันจะได้เอนจอย กินไม่อิ่มใช่มั้ย ก็กินให้อิ่มเลย สั่งมา
วันที่ฝ้ายใจอ่อน ใช้เวลาคุยกันหลายเดือนเหมือนกัน มันค่อยๆ ซึม เพราะเขาถามว่าเมื่อไหร่เราจะได้เป็นแฟนกัน นี่ก็โกรธเพราะเหมือนถูกเร่ง กลัวว่าตัวเองจะไปเจอคนที่หวือหวากว่าแล้วชอบ และจะทำให้คนนี้เสียใจ ก็บอกว่าอย่าเร่งเรา แต่ฝ้ายก็ศึกษาเขาแค่คนเดียว ถ้าใช่ไม่ใช่ก็จะบอกเลย
จากวันที่คุยกันมันก็ยาวมาเรื่อยๆ มีคนเข้ามามั้ย แต่รู้สึกว่าเขาดีที่สุด ก็เลยคบกันมาโดยปริยาย และตอนนั้นก็เจอกันทุกวัน ก่อนคบก็พาผู้ชายไปบวช (หัวเราะ) ปฏิบัติธรรมเยอะขึ้น.


ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2265436
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2265436