เดียร์ ปริษา เผยมรสุมชีวิต เกือบหมดอนาคตในวงการ เจอเสี่ยควัก 3 ล้านจ้างกินข้าว
เดียร์ ปริษา เปลือยชีวิตหลังเจอมรสุมชีวิต ถูกใส่ร้ายสารพัด เกือบหมดอนาคตในวงการ เจอหนุ่มใหญ่ควัก 3 ล้าน จ้างกินข้าว หวิดโดนข่มขืน
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
นางเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ เดียร์ ปริษา ทนาวิวัฒน์ เผยเรื่องราวมรสุมชีวิต หลังถูกอดีตแฟนเก่าของสาวหล่อที่ตัวเองคบ ใส่ร้ายจนไม่เหลือชิ้นดี ทั้งกุข่าว ทำแท้ง ค้ายา จนเกือบหมดอนาคตในวงการบันเทิง พร้อมเผยเส้นทางความรักกับนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่ดูใจกันมา 3 ปี อีกทั้งยังย้อนเล่าเหตุการณ์สุดระทึกเกือบโดนข่มขืน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ผลงานเยอะอยู่แล้ว แต่ที่เยอะกว่าคือเสี่ยชอบมาเสนอ? เดียร์ : “ก็จริง ที่ผ่านมาเราอาจจะมีข่าวกับสาวหล่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตรงนี้หรือเปล่า เขาเลยอยากติดต่อ อยากลอง เขาก็ติดต่อหลากหลายมากเลย ผ่านคนรู้จัก ส่ง SMS มาส่วนตัว เราก็ไม่รู้เขาเอาเบอร์มาจากไหน”
อย่างนี้เขาเสนอราคาเลยไหม? เดียร์ : “เสนอ แบบชวนไปทานข้าวให้ 7 หลักอะไรแบบนี้ คือเดียร์ไม่ใช่แนวนี้อยู่แล้ว พอเจอรู้สึกตกใจนะ คิดว่า เฮ้ย…เราต้องมาเจอแบบนี้ แต่จะปฏิเสธแบบนุ่มนวลไปว่าเราไม่ใช่แนวนี้พี่ขอเชิญทางอื่น”
ส่วนใหญ่จะเป็นคนระดับบิ๊กๆ ไหม? เดียร์ : “ก็มี ถ้าพูดชื่อก็รู้จัก แล้วนักธุรกิจก็มี”
ที่เขาเสนอให้สูงสุดเท่าไหร่? เดียร์ : “3 ล้าน เขาบอกไปทานข้าว แต่มันไม่ใช่หรอกพี่ คือเรารู้กันอยู่ว่าคุณจะให้เรา 3 ล้านไปทานข้าวเฉยๆ มันไม่มีทาง หรือเสนอมาว่าอยากได้อะไรก็ให้หมดเลย”
แล้วที่บอกว่าเกือบโดนข่มขืนจริงเหรอ? เดียร์ : “เคยไปงานโชว์ตัวหนึ่งที่ต่างจังหวัด เป็นงานของผู้ใหญ่คนหนึ่ง เราเรียนหนังสือมาเรารู้ว่าการที่คนติดยาเสพติดมันจะเป็นแนวไหน เขาเหมือนลุกลี้ลุกลน ทำไมดูแปลกๆ เป็นงานวันเกิดเขา เขาจะให้ดาราไปร้องเพลง จบก็พาไปทานข้าวเหมือนเขาเปิดผับอยู่ที่นั่น เราสังเกตพี่ผู้ใหญ่คนนี้จะเอายาอะไรใส่ในแก้วน้ำ ซึ่งเราเห็นพอดี เพราะเดียร์เป็นคนช่างสังเกตอยู่แล้ว เราก็หันไปบอกดาราอีกคนหนึ่งว่า อย่ากินนะ เพราะเดียร์เห็นเหมือนเขาจะใส่อะไรลงไป แล้วพอจะกลับโรงแรมนอน เขาให้เดียร์ห้องล่างสุด ห้องอื่นเขาให้ชั้นบน เราก็ถามว่าทำไม อยากนอนด้วยกันปกติไปโชว์ตัวก็นอนรวมๆ กัน เขาบอกไม่ๆ นายบอกให้นอนชั้นล่าง มันเริ่มแปลกๆ ละ พอเราเข้าห้อง ก็มีคนมาเคาะประตูบอกว่านายมาให้ติดต่อนะ ขอ อะไรอย่างนี้ เดียร์ก็เลยรีบโทรไปบอกพี่ผู้จัดการ บอกว่าเดียร์ไม่โอเค ก็ลากกระเป๋าออกจากโรงแรมตอนตี 3 ติดต่อพี่ที่รู้จักแถวๆ นั้นให้มารับไปนอนที่อื่น”
พอเขาติดต่อปั๊บ ความรู้สึกแว้บแรกเป็นยังไง? เดียร์ : “ก็กลัว เพราะมันเป็นพื้นที่เขา เขาค่อนข้างใหญ่มีอิทธิพล”
ที่เดียร์เบรกด้วยคำว่า ขอ ทางบ้านอยากรู้ว่าเขาขออะไร? เดียร์ : “ก็ขอมีอะไรด้วย ขอนอน เราบอกว่าไม่ เรารับงานมาโชว์ตัวอย่างเดียว”
ค่าจ้าง ค่าโชว์ตัวเขาจ่ายหรือยัง? เดียร์ : “จ่ายๆ เพราะต้องให้โอนก่อนอยู่แล้ว”
หลังจากนั้นเจอเรื่อยๆ ไหมกับเหตุการณ์แบบนี้? เดียร์ : “ไม่ค่ะ เพราะว่าหลังๆ ไม่รับอะไรแบบนี้แล้ว กลัว”
แสดงว่ามาตรฐานในการรับงานเราสูงขึ้น? เดียร์ : “สูงขึ้น แต่จริงๆ งานนั้นคนที่ติดต่อมาก็เป็นคนรู้จักนะคะ แล้วเราเห็นชื่อผู้ใหญ่ในงานวันเกิดเขา เหมือนไว้ใจได้ ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้”
เราคิดว่าส่วนไหนที่ไปโดนใจเขา? เดียร์ : “เดียร์ไม่รู้เหมือนกัน”
ยังมีเรื่องราวโดนใส่ร้ายอีก? เดียร์ : “เรื่องนี้นานมาแล้วเดียร์เด็กกว่านี้ เดียร์เคยคบอดีตสาวหล่อคนหนึ่ง เหมือนอดีตของเขาที่โตกว่า เขียนจดหมายให้ผู้ใหญ่ของแฟนเดียร์ เขียนว่า เดียร์ ปริษา ค้ายา ค้าอาวุธ ทำแท้งมาก่อน คืออะไรที่ไม่ดีเขียนมาเยอะมาก แต่เป็นลายมือเด็กนะคะ เพราะเดียร์ได้เห็นจดหมายอันนั้นด้วย คือเหมือนเขาใส่ร้าย ตั้งใจจะทำลายชื่อเสียงเรา เพราะตอนนั้นเดียร์ตั้งใจจะมาทำงานกับบริษัทนี้เหมือนกัน”
ทางบริษัทว่ายังไงบ้าง? เดียร์ : “เขาไม่ได้บอกเดียร์โดยตรง แต่เขาบอกแฟน แล้วให้จดหมายกับแฟนเดียร์มา แล้วเขาก็เอาจดหมายมาให้ดู”
ได้เข้าไปเคลียร์หรือไปคุยไหม? เดียร์ : “กับผู้ใหญ่ไม่ได้เข้าไปเคลียร์ ไม่ได้คุยเลย เพราะเดียร์คิดว่าผู้ใหญ่น่าจะมีวุฒิภาวะพอว่ามันเป็นอะไรยังไง เพราะว่าเรื่องอะไรที่มันไม่ดี มันเขียนรวมมาในผู้หญิงคนนี้หมดเลย คือบ้านหนูจะค้าอาวุธเหรอ มันก็ไม่ใช่”
เห็นจดหมายแว้บแรกโกรธขนาดไหน? เดียร์ : “โกรธมาก ตอนนั้นอาจจะเด็กกว่านี้ วุฒิภาวะมันก็น้อย เดียร์เป็นคนที่ถ้าอะไรไม่จริงเราจะสู้ เป็นคนแบบไม่เฉยอ่ะ เรารู้สึกว่าทำไมเขาทำแบบนี้ แต่แฟนเราเขามองว่าไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ทำ”
แล้วทำไมเราถึงมั่นใจว่าเป็นคนเก่าของเราทำ? เดียร์ : “เพราะว่าก่อนหน้านี้มันมีเรื่องราวอีกมากมาย ซึ่งมันเล่าไม่ได้ เพราะว่ามันจะกระทบถึงครอบครัวเขา มันมีเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดจากผู้หญิงคนนี้”
ตอนที่เห็นจดหมาย เรารู้เลยไหมว่าต้องเป็นคนนี้แน่นอน? เดียร์ : “แว้บแรกรู้เลย สัญชาตญาณคือใช่เลย เพราะว่าเหมือนก่อนหน้านี้มันก็คือเขาที่ทำเรื่องราวต่างๆ”
แล้วได้ไปถามแฟนเก่าเราไหม? เดียร์ : “ถาม แล้วเดียร์ก็บอกว่าเป็นคนของเธอแน่นอน คนเก่าของเธอ เขาไม่เชื่อ ไม่ใช่”
พอเขาไม่เชื่อ เรารู้สึกยังไง? เดียร์ : “โกรธมาก เลิกเลย แต่หลักๆ เรารู้สึกว่าคบกับเขาแล้วทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยจังเลย ฉันเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมาย จริงๆ มันมีเรื่องเยอะมากที่ไม่สามารถเล่าออกสื่อได้จริงๆ”
แล้วเรื่องนี้ได้ดำเนินคดีไหม? เดียร์ : “ไม่ได้ดำเนินคดี เพราะว่ามันเป็นบัตรสนเท่ห์เข้ามา ไม่มีชื่อ แล้วลายมือก็เป็นลายมือเด็ก ถ้าดำเนินคดีได้ ตอนนั้นก็อยากทำ เพราะว่าแต่ก่อนเดียร์เป็นคนไม่ยอมคน ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงเราก็จะสู้ว่าฉันบริสุทธิ์นะ ซึ่งผู้ใหญ่ไม่ได้เรียกเราเข้าไปคุยเลย”
ได้ข่าวว่าอดีตสาวหล่อก็ทำอะไรกับเราไว้เยอะเหมือนกัน? เดียร์ : “เยอะมาก แต่มันเล่าไม่ได้ เพราะมันพัวพันถึงครอบครัวเขาด้วย เดียร์ก็เลยไม่อยากจะพูดถึงมันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ตอนนั้นคบกันประมาณ 2 ปีกว่า”
ตอนคบแรกๆ โดนกระแสอะไรไหม? เดียร์ : “โดน ตอนนั้นคนยังไม่ค่อยเข้าใจว่าผู้หญิงกับผู้หญิงคบกัน คนก็จะมองเราแปลกประหลาด ก็มีคนเม้าธ์ว่าเรา แต่ว่าเดียร์ไม่ได้สนใจไง ตอนนั้นเราเปิดเผยด้วย เป็นข่าวก็เป็นข่าว ไปไหนก็เปิดเผย คบ 2 ปีกว่า ถามว่าแฮปปี้ไหม ตั้งแต่คบก็มีเรื่องราวมาตลอด ว่ามันมีบุคคลที่สามเข้ามา คือไม่ใช่เขามีชู้นะคะ แต่มันเป็นอดีตของเขาที่ไม่จบอะไรอย่างนี้ ถามว่าแล้วทำไมเราถึงทนคบ ก็เพราะรัก”
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราได้อโหสิให้เขาไหม? เดียร์ : “อโหสินะคะ แต่คงไม่กลับไปอยู่ในวังวนอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
พอคบผู้หญิงมาก่อน แล้วมาคบผู้ชาย บางคนก็บอกว่ากลับมาตายรังอยู่ดี เรารู้สึกยังไงบ้าง?
เดียร์ : “สำหรับเดียร์ไม่ใช่เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ ไม่ใช่ฉันเกิดมาต้องเป็นดี้แล้วชอบทอม ไม่ใช่ แต่เดียร์คบกับคนที่เขารักเดียร์จริงๆ คนไหนที่เรารู้สึกว่าเขารักเราและดีกับเรา แล้วไปด้วยกันได้ เราก็จะคบคนนั้น”
เพราะมันจบไม่สวย เรียกว่าเข็ดกับรูปแบบความรักแบบนั้นไหม? เดียร์ : “เข็ด”
จริงไหมที่เขายังตามง้ออยู่? เดียร์ : “ก็ง้ออยู่ หลายปีแล้ว ก็ง้อมาตลอด เขาเคยบอกเดียร์ว่า วันนั้นพี่ไม่น่าตัดสินใจให้เดียร์เดินออกจากชีวิตพี่แบบนั้นเลย เขาตามง้อตามมาที่บ้านก็มี แต่เดียร์ไม่ให้เข้า เขาก็น่าจะรู้นะคะว่าเรามีคนใหม่แล้ว เพราะเขารู้จักเพื่อนของเราด้วย”
แฟนคนปัจจุบันรู้ไหม? เดียร์ : “พอมีรู้บ้าง แต่เราไม่ได้เล่าดีเทลอะไรทั้งหมด คือเราไม่ได้มาใส่ใจเรื่องนี้ไง”
บางคนเวลาไม่ได้อะไร จะเปลี่ยนความรักเป็นความโกรธ กลัวไหมสักวันเขาหลุดทำร้ายเรา?
เดียร์ : “เดียร์คิดว่าคงไม่ขนาดนั้น แต่แค่อาจจะตื๊อ ลองเผื่อได้”
แต่ก็ไม่ทันแล้ว เราจะสละโสดแล้ว อายุห่างกันเท่าไหร่? เดียร์ : “7-8 ปี คือเดียร์เป็นคนมีแฟนเป็นผู้ใหญ่มาตลอด ไม่เคยมีเด็กกว่า สเป๊กชอบคนโตกว่าอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ยาก เขาเป็นคนนอกวงการ”
ไม่ค่อยเห็นรูป แทบไม่มีเลย? เดียร์ : “จริงๆ หนูไม่อยากพูดในรายการเลย เพราะหมอดูทักอย่าแถลงข่าว อย่าออกรายการ อย่าลงรูป ในไอจีหนูไม่มีรูปแฟน นอกจากทำบุญรวมๆ กันหลายๆ คน แต่ถ้ารูปคู่กันไม่เคยมี”
เสียใจไหม เมื่อมีคนทักเราแบบนี้? เดียร์ : “เสียใจ แต่จริงๆ เราไม่ใช่คนที่ป่าวประกาศให้โลกรู้ รู้สึกว่ามันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องระวังตัวขนาดนั้นเลยเหรอ คือมันระแวงไปหมด”
อาจารย์เป็นหนึ่ง : “กรณีที่โดนทักแบบนี้ให้เราหารูปปั้นคู่รักมาวางไว้บริเวณสวนหน้าบ้าน หรือวางไว้ตรงบริเวณหน้าบ้าน เพื่อส่งสัญญาณว่าคู่รักของเราพร้อมแล้ว ดังนั้นเมื่อเราวางปุ๊บ เราจะบอกใครก็ได้ว่าเรามีความรักแล้ว หาตัวแทนมาเป็นคู่แค่นั้นเอง”
แล้วมาเจอคนนี้ได้ยังไง? เดียร์ : “เพื่อนสนิทแนะนำ เขาเป็นพี่ชายของเพื่อน ครั้งแรกถามว่าปิ๊งเลยไหม ไม่ เฉยๆ เขาก็ไม่”
แล้วมาชอบกันได้ไง? เดียร์ : “มันใช้เวลาคุยกันมากกว่า แล้วเวลาเรามีปัญหาเขาจะช่วยซัพพอร์ตดูแล ถ้าเรามีปัญหาเราโทรหาคนนี้คนแรก ตอนนี้คบกันมา 3 ปี”
แล้วมีข่าวท้องก่อนแต่ง? เดียร์ : “ใช่ อาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยลงรูปแฟน คนก็เลยคิดว่าเพิ่งคบกัน แล้วพอคนรู้ว่าจะแต่งงาน คำแรกที่ถามเลยท้องเหรอ เดียร์บอกไม่ท้อง ยังๆ เราก็ไม่ได้ซีเรียส”
แฟนเป็นนักธุรกิจ เราเป็นนักแสดง มีปัญหาอาชีพที่แตกต่างกันไหม? เดียร์ : “มีเรื่องเวลาอยู่แล้ว เพราะว่าเขาจะเป็นคนยุ่งมาก แต่บ้านอยู่ใกล้กัน ตอนเช้าเขาก็จะมาหาเราก่อนไปทำงาน”
มีทะเลาะกันบ้างไหม? เดียร์ : “เขาบอกไม่ทะเลาะ แต่เดียร์ทะเลาะ ส่วนใหญ่ก็เรื่องไม่มีเวลานี่แหละ”
จริงไหมที่เขาบอกว่าคุณบอมไม่ให้น้องเดียร์ทำงาน? เดียร์ : “มันก็ไม่ขนาดนั้น ช่วงนี้ที่เดียร์ปฏิเสธละครไป เพราะว่าเดียร์อยากดูแลคุณยาย คุณยายเดียร์ป่วยก็อยากให้เวลาเขาเต็มที่”
ถ้าแต่งงาน เขาบอกเลิกเล่นละคร อยู่บ้าน เดี๋ยวให้เงินเอง? เดียร์ : “ไม่เอา เพราะว่ารักในวงการ อยากทำงานมากกว่า ไม่ชอบให้ใครมาเลี้ยงด้วย”
คิดว่าเราอยากอยู่ในวงการอีกนานเท่าไหร่? เดียร์ : “ก็ยินดีรับบทแม่”
กะจะเล่นละครทั้งชีวิตเลย? เดียร์ : “ใช่ค่ะ ถ้าเขายังจ้างนะคะ เพราะว่าเราเล่นมานานตั้งแต่อายุ 15-16 ปี เรารู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ แล้วเราก็ชอบเล่นละคร”
ตอนที่เดียร์บอกว่ามีปัญหาแล้วจะคิดถึงเขาคนแรก ทำไมต้องคิดถึงเขาคนแรก? เดียร์ : “เขาคุยได้ทุกเรื่อง เขารู้ทุกอย่าง”
จริงไหมที่บอกว่าเดียร์เป็นคนใจร้อน คุณบอมเป็นคนใจเย็น? เดียร์ : “ใช่ เดียร์เป็นคนใจร้อน ถ้าโกรธปุ๊บขึ้นเลย เขาก็ถามว่าโกรธอยู่ใช่ไหม เราบอกว่าใช่ เขาก็ถามว่าโกรธเรื่องอะไร เหมือนเขาพูดให้เราใจเย็น ตั้งสติก่อน หายใจลึกๆ แต่ตอนนี้เราก็ดีขึ้นเหมือนเราก็โตขึ้น มันก็เพลาๆ ลง คนรอบข้างก็ทักเธอใจเย็นบ้างนะ เมื่อก่อนหนักมาก”
ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก อะไรทำให้เราโกรธ? เดียร์ : “ทุกเรื่องสมมติมีเรื่องบัตรสนเท่ห์เข้ามาแบบนี้หนูแบบวีนแตกเลย”
ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่? เดียร์ : “ต้นปี คุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักดี อยากมีหลาน เราเองก็พร้อม”
ตอนที่ถ่ายละคร เจอผีด้วยเหรอ? เดียร์ : “ใช่ แต่ไม่รู้เป็นวิญญาณหรือผี แต่เป็นคนมีเซ้นส์มาก เหมือนอยู่ในโรงถ่ายลาดหลุมแก้ว ก็จะเห็นคนใส่ชุดขาวบ่อย คือเรารู้ว่าเป็นเจ้าที่หรืออะไรสักอย่าง ไม่เห็นหน้า เห็นเป็นแค่ชุดขาว ขับรถออกมาอย่างนี้ระหว่างเราขับรถอยู่ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดปกติ เราขับระยะทางเร็วเหมือนกัน ก็ตามเรามา หันไปเหมือนเขาอยู่บนฟุตบาท แต่เดินตามเรา เราก็ตกใจแล้วหันไปถามคนที่ไปด้วย ว่าเห็นเหมือนเราไหม เขาบอกเห็น กลัวแล้วสวดมนต์กัน รีบขับ ตื่นเช้าไปทำสังฆทานให้เขา”
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6787296
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6787296
