ใส่ใจในทุกรายละเอียด! กรณ์-ศรีริต้า แพลนอนาคตด้านสุขภาพ น้องกวินท์ “เพราะโอกาสสำคัญมีเพียงครั้งเดียว”
ใส่ใจในทุกรายละเอียด! กรณ์-ศรีริต้า แพลนอนาคตด้านสุขภาพ น้องกวินท์ “เพราะโอกาสสำคัญมีเพียงครั้งเดียว”
วันที่ 21 ธ.ค. 2564 เวลา 17:48 น.
กรณ์-ศรีริต้า ดูแลสเต็มเซลล์แรกเกิด ของขวัญชิ้นสำคัญเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของ น้องกวินท์ และทุกคนในครอบครัว
“ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีสิ่งที่ขาด จนกระทั่งได้มีครอบครัวมาเติมเต็ม…..”
สำหรับคู่รักสุดน่ารักแสนอบอุ่นระหว่าง กรณ์ ณรงค์เดช กับ ศรีริต้า-เจนเซ่น ณรงค์เดช หลังจากแต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหวานฉ่ำ ไม่ว่าจะวันไหนหรือเทศกาลใดก็ดูแลกันไม่ห่าง โดยทั้งคู่เพิ่งจะมีข่าวดีครั้งใหญ่ เมื่อ ศรีริต้า ได้คลอดเจ้าชายตัวน้อย น้องกวินท์-อัศวิน เจนเซ่น ณรงค์เดช มาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เติมเต็มความสุขความอบอุ่นของครอบครัวยิ่งขึ้นไปอีก
ด้านคุณพ่อป้ายแดงอย่าง กรณ์ ณรงค์เดช ถึงกับยิ้มไม่หุบหมั่นคอยดูแลไม่ห่างพร้อมช่วยแบ่งเบาเอาใจใส่ในทุก ๆ เรื่อง ถึงแม้งานนอกบ้านธุรกิจจะรัดตัวแค่ไหน ก็ไม่ลืมทำหน้าที่สามีและคุณพ่ออย่างเต็มกำลัง จัดสรรบริหารเวลาได้เป็นอย่างดีเป็นหัวหน้าครอบครัวที่น่ารักครบเครื่องจริง ๆ
ย้อนไปเล่าในช่วงที่เริ่มบทบาทคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ กรณ์-ศรีริต้า ได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมวางแผนสุขภาพในอนาคตสำหรับครอบครัวที่เป็นที่รักเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เผื่อมีเหตุจำเป็นเกิดขึ้นก็อุ่นใจ ด้วยการตัดสินใจเลือก ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ “ไครโอวิวา” ให้ดูแลจัดเก็บสเต็มเซลล์ เพราะหากวันใดที่ลูกน้อยและคนในครอบครัวมีความจำเป็นต้องใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรคและฟื้นฟูดูแลร่างกายจากกลุ่มโรคความเสื่อมได้อีกด้วย โดยตั้งใจศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนมั่นใจและวางใจเลือก ไครโอวิวา เพราะเป็นธนาคารจัดสเต็มเซลล์ที่ได้การรับรองมาตรฐานในระดับสากล และมีความมั่นคงในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรณ์-ริต้า ได้แชร์ประสบการณ์การครั้งนี้ไว้ว่า…
กรณ์ : ช่วงนี้ค่อนข้างเหนื่อยแต่มีเป็นการเหนื่อยที่มีความสุขที่สุดในชีวิตครับ… รู้สึกโชคดีที่น้องกวินท์เลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแง ส่วนในเรื่องเตรียมความพร้อมในการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องให้เครดิตคุณริต้าล้านเปอร์เซ็นต์เลยครับ ตั้งแต่วันแรกที่เขารู้ตัวว่าตั้งครรภ์ และระหว่างท้องก็ดูแลตัวเองดีมาก ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงปรึกษาคุณหมอและตรวจทุกอย่าง ใส่ใจทุกโปรแกรมเพื่อให้วางใจว่าการตั้งครรภ์สมบูรณ์ที่สุด หนึ่งในนั้นคือเรื่องของเทคโนโลยีการเก็บ “สเต็มเซลล์” ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทั้งคู่ถูกใจมาก เนื่องจากเป็นกระบวนการจากธรรมชาติที่มาจากแม่และลูกของเราเอง ไม่ได้มาจากสารเคมีและประโยชน์ระยะยาว ซึ่งสเต็มเซลล์สามารถช่วยดูแลได้ทั้งตัวของน้องกวินท์เอง ช่วยดูแลทั้งครอบครัวในยามที่มีความจำเป็นต้องใช้ และยังเก็บไว้ได้ยาวนานถึง 20 ปีขึ้นไป
ศรีริต้า : การเก็บสเต็มเซลล์จากรกเป็นอะไรที่คนนิยมกันมาก ซึ่งเราต้องเลือกบริษัทที่เชื่อใจได้และน่าเชื่อถือมากๆค่ะ โดยตัดสินใจเลือก “ไครโอวิวา” เพราะว่าเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก AABB ไม่ใช่เรื่องการจัดเก็บอย่างเดียวแต่เรื่องของการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ที่จะนำมาใช้ด้วย ตรงนี้ก็สำคัญเวลาทำการบ้านค่ะ
เราต้องมั่นใจได้ว่าบริษัทนี้เชื่อถือได้และจะอยู่ยาวๆ พอได้มาลองคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ มีผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านของ “ไครโอวิวา” ได้รับคำแนะนำหลายอย่างที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่ามาก
กรณ์ : อย่างแรกก็คือตัว “CB : Cord Blood” การเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ อันนี้คือประโยชน์กับลูกเราโดยตรง เพราะสามารถรักษา 85 โรคได้ และอนาคตน้องกวินท์ เขาก็มีสเต็มเซลล์ที่เราเก็บไว้ซึ่งครอบคลุมไปแล้ว 85 โรค
อย่างที่ 2 ก็คือ “MSC” คือเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย (Rejuvenate) การเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ ชนิดนี้คนในครอบครัวสามารถนำมาใช้ดูแลฟื้นฟูกลุ่มโรคความเสื่อมของร่างกายได้หมด และอย่างที่ 3 เรียกว่า “Amnion” การเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก คือได้ผลดีในเรื่องของระบบประสาท จะช่วยเรื่องการฟื้นฟูร่างกายโดยเฉพาะ ทั้งนี้การเก็บสเต็มเซลล์ครั้งนี้ก็เพื่อทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น “ตัวผมเอง คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย” ให้ทุกท่านมีความสุขด้วยกันในทุกช่วงเวลา
ศรีริต้า : อย่างสุดท้ายที่ส่วนตัวริต้าชอบมากก็คือ “ADSC” จัดเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันของริต้าเอง เมื่อวันที่ผ่าคลอดเลย เพื่อนำมาบำรุงให้แม่กลับมาสดใสจากภายใน สำหรับใครที่สนใจอยากให้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและทำการบ้าน ตัดสินใจให้ดีศึกษาข้อมูลตรงนี้เยอะๆ เพราะเราเก็บได้ครั้งเดียวตอนที่คลอด มันมีประโยชน์มากๆ เลย แล้วอย่าลืมเลือก “ไครโอวิวา” เท่านั้นค่ะ
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/671487
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/671487