แฟนคลับฟิน "อี ซึง กิ" ซุป’ตาร์เก่งรอบด้าน
ขอบคุณคนชื่นชม เผยชีวิตในวงการถึงจุดเติบโต
“ส่วนตัวผมเองชอบเมืองไทยอยู่แล้ว ก่อนจะมาก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเพราะตัวผมเองก็ชอบอาหารไทยและประเทศไทยด้วย ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เจอแฟนๆและแฟนมีตติ้งครั้งนี้ เป็นแฟนมีตติ้งหลังจากที่ผมได้มีผลงานใหม่ล่าสุดคือซีรีส์เรื่อง Vagabond เลยถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้พูดคุยเรื่องซีรีส์ Vagabond กับแฟนๆด้วย”
งั้นถามถึงซีรีส์ Vagabond ที่มาของชื่องานแฟนมีตติ้ง ซึ่งเรื่องนี้คุณได้กลับมาร่วมงานกับสาวแบซูจีอีกครั้ง ประทับใจยังไงบ้าง?
“พูดได้เลยว่าเรื่อง Vagabond ถือว่าเป็นซีรีส์ที่สนุกมาก เป็นแอ็กชันซีรีส์ที่เป็นสไตล์เกาหลีสุดๆ ผมเคยร่วมงานกับแบซูจีมาก่อนแล้ว ทำให้ในการถ่ายทำครั้งนี้ราบรื่น เนื่องจากเราผ่านประสบการณ์การถ่ายทำละครมาเยอะแล้ว ทำให้มีทีมเวิร์กที่ดีด้วยเช่นกันครับ”
ตัวละคร Cha Dal Gun มีความเหมือนหรือต่างจากตัวจริง อี ซึง กิ ยังไงบ้าง?
“สิ่งที่เหมือนกัน มีแค่เรื่องเดียวเลย คือทั้ง Cha Dal Gun และตัวผมเวลาที่ตั้งใจทำอะไร ก็จะโฟกัสเรื่องนั้นเต็มที่ไม่สนใจเรื่องอื่น นอกเหนือจากนั้นนิสัยของตัวบทกับผมก็ไม่มีความเหมือนกันเลย”
มีบทบาทไหนที่คุณอยากลองท้าทายฝีมือการแสดงอีกบ้าง?
“อยากรับบทเกี่ยวกับอาชีพเฉพาะทาง เช่น ทนายความ ตำรวจ หรือแพทย์ ยังไม่เคยทำมาก่อน เป็นอาชีพที่ดูฉลาด เมื่อเทียบกับผลงานเก่าๆ ผมจะเน้นเรื่องแอ็กชัน ผมอยากลองแนวนี้ด้วยเหมือนกัน ก็เป็นมุมที่ไม่เคยโชว์มาก่อน”
คุณได้รับฉายาว่า Triple Crown เพราะว่าเป็นดาราเกาหลีที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งในฐานะนักร้อง นักแสดง เจ้าพ่อวาไรตี้ และดนตรี คุณรู้สึกยังไงกับฉายานี้?
“ก่อนอื่นเลยรู้สึกขอบคุณที่ตั้งนามแบบนี้มาให้กับผม แรกๆที่ผมเข้าวงการก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำหลายๆด้านขนาดนี้ แต่เนื่องจากผมได้เดบิวต์เป็นนักร้อง ต่อด้วยผลงานนักแสดงและวาไรตี้ก็ทำให้แฟนๆหรือผู้ชมก็มีการติดตามและชื่นชอบ รู้สึกขอบคุณด้วย ครั้งต่อไปผมก็ตั้งใจที่จะทำงานต่อไปเพื่อรักษานามนี้ด้วยเช่นกันครับ”
แล้วในแต่ละบทบาทที่ว่ามา มีด้านไหนที่ถนัดที่สุดมั้ย?
“จริงๆฉายา “Triple Crown” จะให้เลือกแค่ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ยากเหมือนกัน เพราะเป็นฉายาสำหรับคนที่ทำทุกด้านให้มันเก่งใช่มั้ยครับ”
นับตั้งแต่เข้าวงการมา สิ่งที่คุณประทับใจที่สุดคืออะไร?
“ถ้าให้พูดถึงประสบการณ์หรือสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด จะพูดยากนิดนึง เพราะทุกครั้งที่ผมมีผลงานใหม่ๆ ทำรายการใหม่ ก็รู้สึกแปลกใหม่และรู้สึกชอบทุกครั้งและประทับใจด้วย และถ้าไม่พูดถึงผลงานในวงการ พูดเลยว่าชีวิตหลังเกณฑ์ทหารมา เป็นจุดที่ทำให้ความรู้สึกหรือมุมมองของผมเปลี่ยนไปด้วย ช่วงหลังๆ ผมรู้สึกว่าได้รับบทเรียนที่ดีใหม่ๆด้วย”
ที่ว่ามีมุมมองที่เปลี่ยนไปนั้นเปลี่ยนไปในด้านไหน?
“จริงๆชีวิตหลังเกณฑ์ทหารมาก็ไม่ได้มองว่ามีการเปลี่ยนแปลงในฐานะนักแสดง แต่เปลี่ยนแปลงในฐานะที่เป็นคนคนนึง ผมรู้สึกว่าความคิดของผมเติบโตขึ้นด้วย”
แล้วถ้าพูดถึงเมืองไทยจะคิดถึงอะไรมากที่สุด?
“ผมชอบอาหารไทย เวลาผมอยู่เกาหลีก็ชอบไปทานอาหารไทย เวลาที่ผมมาเมืองไทยก็ชอบไปเดินตลาดนัดกลางคืน เวลาที่ผมได้ออกไปเดินตลาดเมืองไทย ก็รู้สึกว่าเรามีอิสรภาพครับ”
มีอาหารไทยจานโปรดบ้างมั้ย?
“มีอาหารเบสิก 3 อย่างที่ผมต้องทานคือ ข้าวผัด ผัดไทยและปูผัดผงกะหรี่ เป็นเมนูที่ต้องห้ามพลาด”
คุณเองก็มีแฟนคลับชาวไทยมากมาย เคยเห็นข้อความหรือการสนับสนุนจากแฟนๆชาวไทยบ้างมั้ย มีเรื่องไหนประทับใจคุณที่สุดมั้ย?
“ผมขอพูดโดยรวมของแฟนคลับของผม สำหรับแฟนต่างชาติ ถึงแม้อยู่คนละประเทศก็ตาม เค้าติดตามผลงานของผมเป็นเรียลไทม์มากเลยไม่ต่างจากแฟนๆ เกาหลีเลย รู้สึกประทับใจด้วยเช่นกันครับ”.
ทีมข่าวบันเทิง
ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง