แต่งานนี้แพทพูดถึงความสัมพันธ์กับ นาย ณภัทร นายตำรวจหนุ่มรุ่นน้อง ว่า “ตอนนี้ไม่รู้จักกันแล้วน่ะสิ ต้องไปติดต่อกันเองแล้วนะคะ ก็บอกแล้วให้อัปเดตวันต่อวัน” ก่อนจะบอกว่า ถ้ามีปัญหาก็ไปคุยกับตำรวจกันเองก่อน น้องยังไม่สามารถคุยอะไรใดๆ กับตำรวจได้ในตอนนี้ แต่หลังจากนั้น นาย ณภัทร ก็ออกมายืนยันว่ายังรักกันดี มีงอนกันนิดหน่อย แต่ปรับความเข้าใจกันแล้ว

ล่าสุด แพท ณปภา มาร่วมรายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 โดย 3 พิธีกร มดดำ คชาภา, ดาด้า วรินดา, น็อต วรฤทธิ์ มดดำถามว่าตำรวจบอกว่าเลิกแล้ว แพทตอบ “แพทยังไม่ได้ใช้คำนั้น” ดาด้าถามว่าทำไมล่ะ เห็นตอนแรกยังหวานกันอยู่เลย แพทบอกว่า “พี่ด้า มันก็มีหวานมีขม บางทีเธอก็เข้าใจสามี บางทีก็ไม่เข้าใจ อันนี้ก็เป็นฟีลแบบนั้นเหมือนกัน แต่ในความรู้สึกของแพท แพทคุยกันแล้วว่าอยากเบาลงทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ใช่แค่การออกสื่อ แพทอยากให้ลองถอยกันมาแล้วเบาลงกว่านี้หน่อย แพทใช้คำนี้เพราะว่าแพทว่าอาจยังไม่ถึงคำว่าเลิก คือตอนนี้เรายังมีคุยกัน ปรับความเข้าใจ แต่มันก็ไม่ได้ใกล้กันเหมือนเดิม แพทเลยใช้คำว่าเบาลงน่าจะดีกว่า”

มดดำถามต่อว่าหรืออยู่ในช่วงหมดโปรโมชั่นแล้วเหรอ แพทบอกว่าไม่รู้เป็นเขาหรือเรา ดาด้าบอกว่าขอย้อนไปช่วงลอยกระทง แพทพูดต่อ “คือเรื่องราวนี้จริงๆ ไม่ควรจะมานั่งตอบคำถามถ้าไอ้เรซ (น้องเรซซิ่ง) ไม่ฉีกหน้าแม่มัน แล้วรายการสด เราก็ปิดปากลูกไม่ทัน ก็แปลว่าลูกเลือกแล้วก็ไป ลุย” น็อตถามว่าตัดสินใจคบคนนี้เพราะลูก แพทตอบว่าใช่ มดดำถามว่าคบตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วรึเปล่า แพทบอกว่ารู้จักกันไม่นาน รู้จักเพราะน้องสาวจัดให้แนะนำให้รู้จัก “คือแพทจะทำรายการเอาคนโสดมาออก แล้วอยากได้อาชีพหลากหลาย นาฟก็บอกว่าหนูมีคนนึง โปรไฟล์ดีเลย แล้วเห็นว่าโสด เอามาออกรายการเรามั้ย คือคอนเนกชันมันเยอะ”

น็อตถามว่าสรุปแล้วรายการได้ทำมั้ย แพทตอบว่า “เขาไม่กล้ามาออกไง ตอนนั้นที่คุยกันก็ถามว่าโสดจริงหรือเปล่า ถ้าโสดจริงอยากเชิญมา ก็เลยเหมือนคุยกันต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนในที่สุดลูกมาโป๊ะในรายการ เราก็คิดว่าในเมื่อลูกโป๊ะแล้วจะต้องมีคนจับผิดเราแน่ๆ ที่เราไปไหนมาไหน แพทก็คิดว่าถ้าจะอยู่ตรงนี้ได้อย่าเลือกที่จะโกหก ก็เลยคิดว่าพูดไปเลย” มดดำบอกว่า แจ็ค แฟนฉัน เก็บความลับไว้นานมาก แพทบอก “แต่ไปบอกพี่มด รายงานแม่มันหมด”

ก่อนจะเล่าต่ออีกว่า “พอลูกพูดไปแล้วนักข่าวก็เริ่มโทรมาถามว่าลูกพูดถึงใคร เราก็คิดว่า 19 มันฤกษ์งามยามดีลอยกระทง เปิดในสตอรี่สักหน่อย คิดว่าไม่มีอะไร จำได้ว่าเปิดปุ๊บ 6 ชม. ต่อมาปิดเลย เพราะบางทีเรื่องราวการที่ให้โซเชียลรู้ โซเชียลก็เป็นหูเป็นตาให้เรานะ คือพอเราเปิด ตอนที่เราคุย เราไม่เคยถามเขาเรื่องอื่นเลย เราไม่เคยรู้อะไรเลย พอเปิดไปปุ๊บ ระหว่างที่นอนหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็อู้หู (ทำหน้าตกใจ) อะไรไม่รู้เยอะมาก ทั้ง DM ใต้คอมเมนต์ เยอะจนแพทแบบเดี๋ยวก่อน นี่คืออะไรก่อน

เราเลยตัดสินใจปิดเลย แล้วบอกว่าเปิดแล้วปิดแล้วนะคะ ทุกวันนี้แพทก็ยังไม่ลบรูปนั้นออก มันเตือนแพทไง คือหลังจากนั้นมีคนส่งข้อมูลมาว่า เฮ้ย ใช่เหรอ เรายังเห็นเขายังอยู่กับอีกคนนึงเลย เขาเลิกกับอีกคนแล้วเหรอ หรือเธอยังไง ตายแล้ว ฉันจะไปเป็นมือที่ 3 คนอื่นไม่ได้เด้อ บางคนก็มองว่าเวลารักๆ เลิกๆ ไม่ต้องให้คนอื่นรู้หรอก แพทก็ไม่อยากให้ใครรู้ แต่ในเมื่อมีเหตุจำเป็น เราอยู่ตรงนี้ มีคนถามแล้วแพทเป็นคนตอบตรง เป็นคนเลิ่กลั่ก

เราก็เพิ่งจะคุยกันตอนเช้าก่อนไปรายการแชร์ข่าวฯ คุยกันว่าจะเบาลง เราก็ยังอึนกับคำตอบก่อนจะเข้ารายการ สักพักเราก็คุยเรื่องฉ้อโกง พอคุยเสร็จแม่ปุ้ยก็โยนมาว่าถ้าใครมีปัญหาคุยกับแพทเลย แพทคุยกับตำรวจได้ เรายังอุ่นๆ กับเรื่องก่อนหน้านี้อยู่เลย เราก็เลยพูดไปว่าคุยเองเลย คุยไม่ได้แล้ว ไม่ได้คุยกับตำรวจแล้ว ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก ประจวบกับแคปชั่นเมื่อเช้าไม่รู้จะลงอะไร อยากลงเกี่ยวกับโควิด ไปเจอแคปชั่นนึงบอกว่า “อาการตอนนี้ไม่มีไข้ แต่อาการทั่วไปไม่มีแฟน” คนก็นึกว่าเรื่องจริง เลิกกันแล้ว แต่จริงๆ แพทไม่ได้พูดคำนั้น แพทว่ายังไม่ถึงคำนั้น แต่แค่อยากเบาลง”

จากนั้นแพทเล่าถึงวันที่มีคอมเมนต์เรื่องแฟนเก่าของนาย ณภัทร ว่า “เราถามเขาเลยว่าตกลงแล้วใครที่เขาพูดถึงกัน นางยอมรับหมดเลยว่าช่วงนั้นนางยังเคลียร์กับแฟนเก่าไม่ลงตัว อาจมีคนไปเห็นบ้างว่านางไปด้วยกัน แต่อยู่ในช่วงที่เคลียร์กันแล้วจริงๆ จนกล้ามาคุยกัน แต่ตอนนั้นที่เขามาคุยเขาไม่ได้ขอเราคบนี่ แล้วเธอเดือดร้อนอะไร แพทก็อ้าวเหรอ ฉันไม่ควรเดือดร้อนเหรอ แต่แพทรู้สึกว่าถ้าจะเริ่มคุยกับเราก็ต้องเคลียร์ให้หมด ไม่ใช่ให้คนมานั่งเมนต์เราแบบนี้ แพทเลยปิดไปก่อน ไปเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน

พอคุยกันมาเรื่อยๆ คนเรารู้จักกันก็ต้องเรียนรู้กัน การที่วันนี้แพทเปิดตัว แพทแค่ให้เกียรติเขาว่าวันนี้เราอยากศึกษาคุณ แต่วันนึงถ้าเราศึกษากันไปแล้ว เราเกิดมาคนละครอบครัว สังคมคนละแบบ วิธีการคิดคนละแบบ มันก็ต้องมีบ้างที่อันนี้ไม่ใช่ อันนี้ได้ เราก็แค่ชั่งน้ำหนักว่าคำว่าใช่หรือไม่ใช่ ข้างไหนหนักกว่ากัน หาตรงกลางให้เจอ”

ดาด้าถามว่าตอนนี้กำลังสับสนหรือเปล่าว่าจะอยู่คนเดียวหรือหาคนเป็นคู่ชีวิต แพทบอกว่า “เราผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ชีวิตเราตอนนี้เราคิดว่าจะไปต่อกับใครสักคน ถ้ามันจะไม่ใช่ก็ต้องหยุดเลย เพราะปีนี้อายุจะ 36 แล้ว เราผ่านการมีชีวิตคู่มาแล้ว เราไม่ใช่ผู้หญิงโสดปกติ เป็นผู้หญิงโสดลูก 1 เราผ่านช่วงชีวิตหวือหวามาแล้ว เคยมีงานแต่งงานแล้ว ตื่นเต้นกับตอนท้อง มีฟีลลิ่งตอนเห็นลูกมาแล้ว ชีวิตต่อไปคือชีวิตที่เราจะหาความสุข หาคนที่ไปด้วยกันในทุกที่

แพทใช้ชีวิตจนรู้สึกว่ามันเต็มที่เหลือเกิน เราเคยล้มลงไปเลย แล้ววันนึงเราลุกขึ้นมาใหม่ ความคิดเราเปลี่ยนเลยว่าชีวิตคนเรามันสั้น เราไม่รู้เลยว่าอยู่ดีๆ เราจะเป็นแม่ม่าย ซิงเกิลมัม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ เราเลยรู้สึกว่างั้นใช้ชีวิตไป ทำอะไรก็ได้ให้มีความสุข เพราะแพทคิดแล้วว่าความสุขเป็นพลังที่ทำให้แพทมีแรงเลี้ยงลูก มีแรงทำงาน”

น็อตถามว่าสรุปสถานะตอนนี้คือศึกษาต่อเรื่อยๆ แพทตอบ “ใช่ๆ แพทยังขออยู่ในช่วงเบาลงมาหน่อย คือบางทีเราก็เขินนะ เรารู้ว่าจริงๆ เราคุยกันแบบไหน แต่เวลาเราตอบ เราไม่รู้จะพูดยังไง เรารู้สึกว่ามันไม่ได้เลิก แต่แค่รู้สึกว่าก่อนหน้านี้มันหนักไป แล้วคนแซวเราเยอะมากจนเวลาทำอะไรแล้วมันบอกไม่ถูก ก็เลยมานั่งคุยกันว่าถ้ายังตีกันแบบนี้เราเบาลงมาดีกว่า ถ้ามันสามารถขยับขึ้นไปได้เดี๋ยวค่อยไปต่อ

คือพูดตรงๆ ว่าตลอดระยะเวลาก็ตีกันบ่อย แต่เราคิดว่าการที่เราคุยกันคือการเรียนรู้กันว่าความคิดเขาพอเราฟังแล้วโอเคมั้ย หรือฟังแล้วอันนี้ไม่ได้ เราก็ทดมาเรื่อยๆ แล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน แพทเองก็มองว่าเขายังไม่แก่ เขาอายุ 28 แต่เราห่างกับเขา 8 ปี คือการที่เราตัดสินใจพูดว่าเบาลง เราคุยกันแล้วว่าแพทอยากเป็นแบบนี้”

น็อตถามอีกว่าแต่ถ้าหาแฟนเด็กไปเรื่อยๆ มันก็ตรงข้ามกับสิ่งที่ต้องการ เพราะแพทอยากมีลูกอีกคน แพทบอกว่าคนที่อยากมีคือน้องเรซซิ่ง อันนี้แพทก็งงกับเขาเหมือนกัน แต่ถ้าแพทเจอคนที่ใช่จริงๆ ก็คงอยากมีลูกอีกคนเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังตะกุกตะกักอยู่เลย มดลูกไม่น่าจะถึงตรงนั้น คุณหมอก็แนะนำว่าให้เก็บไข่ ก็มีแนวโน้มว่าอาจไปเก็บไข่ เพราะคิดว่าถ้าหาแฟนแก่กว่าหรือเท่ากัน ตอนนี้ไม่มีใครว่างแล้ว.