โทนี่ รากแก่น รับเคยละเลยพ่อ มารู้ความจริงก็สายเสียแล้ว
เริ่มเข้มแข็งขึ้นมากแล้ว สำหรับครอบครัว รากแก่น ของหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ที่ได้สูญเสียคุณพ่อ เทพบุตร วิมลชัยฤกษ์ ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยอาการป่วยโรคมะเร็งตับ ซึ่งตอนนี้ทุกคนในครอบครัวทั้งคุณแม่ พี่สาว และตนเองก็ยังคงคิดถึงคุณพ่ออยู่ตลอด
โดยล่าสุดได้เจอหนุ่ม โทนี่ เจ้าตัวก็ได้มีโอกาสพูดถึงหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับคุณพ่อ ซึ่ง โทนี่ ก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมาตนเองกับคุณพ่อไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร ขัดกันตลอด เวลาพ่ออยากให้พาไปทานข้าวที่ไหน ตนเองก็มักจะบอกว่า ติดงานอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งพ่อล้มป่วย ถึงเพิ่งคิดได้ และอยากให้พ่อหายจะได้พาไปทาน ไปเที่ยวด้วยกัน เรื่องนี้จึงเป็นคำสอนให้ตนเองได้รู้ว่า ควรให้เวลากับครอบครัวให้มากกว่านี้
ขอถามเรื่องของคุณพ่อ ตอนนี้ครอบครัวเราเป็นอย่างไรบ้าง?
“ดีขึ้นมากครับ เพราะหลังจากที่เราได้ลอยอังคาร เราก็รู้สึกว่าคุณพ่อท่านน่าจะได้ไปในสถานที่ที่ดีขึ้นมากๆ เพราะตอนที่ท่านอยู่ ช่วงนั้นมันก็ทำให้เราเครียดมากๆ เช่นกัน เพราะมันก็มีหลายๆ เหตุการณ์ ที่ท่านดูเหมือนจะดีขึ้น แต่อยู่ดีๆ ท่านก็แย่ลง จริงๆ คุณพ่อท่านเป็นคนสู้นะครับ แต่มันก็มีบางโมเมนต์เหมือนกันที่ท่านแสดงออกว่าท่านไม่ไหวแล้ว”
ช่วงนั้นเราและทุกคนในครอบครัวต้องเข้มแข็งอย่างไรบ้าง?
“เราก็ไม่ได้ต้องเข้มแข็งอะไรนะ แต่เราพยายามทำความเข้าใจมากกว่า รวมถึงทำให้คุณพ่อเข้าใจด้วยเช่นกันว่าท่านอยู่เลเวลไหน และเราก็พยายามจะบอกกับท่านตลอดว่าสิ่งที่ท่านทำได้มากที่สุด ในตอนนี้ก็คือการอย่าเพิ่งไปคิดอะไรมาก พ่อไม่ต้องไปคิดเรื่องบ้าน ไม่ต้องไปคิดจุกจิกนู่นนั่นนี่ แค่ให้ท่านคอยสังเกตลมหายใจของตัวเองก็พอ คือให้ท่านอยู่กับความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด แค่นั้นเลยครับที่เราทำได้
หลังจากนั้นพ่อท่านจากไปแล้ว ผมถึงแม้จะเป็นน้องคนเล็กก็จริง แต่ผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งของครอบครัว ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาผมจึงพยายามที่จะตั้งสติตัวเองให้ได้มากที่สุด”

เราดูแลความรู้สึกของคุณแม่และพี่สาวยังไงบ้างในช่วงที่ผ่านมา?
“สำหรับตัวคุณแม่เอง ด้วยความที่ท่านเป็นคนที่เข้าใจธรรมะมากๆ เข้าใจธรรมชาติของทุกสิ่งอย่าง เข้าใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ท่านจึงดูเหมือนจะเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในครอบครัวเราด้วยซ้ำ ส่วนพี่สาวอีกสองคน เอ่อ…เขาก็อาจจะมีเรื่องของความรู้สึกเยอะหน่อย แต่เราทุกคนก็ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกันครับ ไม่ได้มีใครไปทำหน้าที่ดูแลใครเป็นพิเศษ”
ทุกวันนี้เรายังนึกถึงภาพเก่าๆ วันเวลาเก่าๆ อยู่ตลอด?
“มีบ้างครับ มีบ้าง อย่างบางครั้งเวลาที่ผมเลื่อนไปเจอภาพที่ถ่ายเอาไว้ในพิธีศพ หรือภาพที่ผมเคยโพสต์ลงบนอินสตาแกรมในช่วงที่ท่านยังมีชีวิต มันก็รู้สึกครับ รู้สึกคิดถึงท่านมากๆ ท่านเป็นพ่อที่น่ารัก
ท่านชอบมีมุกตลก มีเรื่องขำๆ มาเล่าให้ฟัง ซึ่งวันนี้พอผมรู้ว่าผมไม่มีท่านอยู่ด้วยแล้ว มันก็รู้สึกเหวออยู่เหมือนกัน คือไม่มีท่านอยู่กับเราแล้วจริงๆ เหรอ แต่ก็ไม่อยากจะคิดถึงท่านมาก เพราะกลัวว่าเดี๋ยวท่านจะมาหา”
จริงๆ คุณพ่อท่านเคยมาเข้าฝันเราบ้างไหม?
“ไม่มีครับ ไม่มี เหมือนท่านรู้ว่าผมค่อนข้างกลัวเรื่องพวกนี้”
ตอนนี้ทุกคนในบ้านก็ดูแลกันและกัน ดูแลคุณแม่?
“ใช่ครับ คุณพ่อท่านได้สอนเราไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และนั่นก็คือ ในเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ทำไมเราถึงไม่ให้เวลาท่าน เพราะที่ผ่านมาท่านมักจะพูดกับผมอยู่ตลอดว่า พาพ่อไปกินข้าวนู่นนี่นั่น แต่ผมเองก็จะบอกกับท่านว่า ผมติดงาน ผมติดนู่นนี่นั่นนะพ่อ
จนกระทั่งในวันที่พ่อเริ่มป่วย ผมจึงเริ่มมีโอกาสได้ไปหาพ่อมากขึ้น และเริ่มเห็นว่าพ่อเป็นพ่อที่น่ารัก พ่อไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดไว้ในตอนแรก เพราะเมื่อก่อนเราสองคนมักจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไร เหมือนเรามักจะขัดกันตลอด
แต่พอถึงวันที่พ่อเริ่มเปิดใจกับผมมากขึ้น จนผมรู้ความจริงว่าสิ่งเดียวที่พ่อคิดก็คือ พ่อรักลูก แต่พ่อเข้าหาลูกไม่เป็น ดังนั้นผมจึงรู้สึกได้ในตอนนั้นว่า ถ้าหากพ่อหาย ผมจะพาพ่อไปที่นั่นที่นี่ แต่สุดท้ายผมก็ไม่สามารถพาพ่อไปเที่ยวได้ เพราะพ่อไม่ไหวแล้ว ฉะนั้นตอนนี้เราก็เหลือแค่แม่กับญาติคนอื่นๆ ที่เขาดูแลเรามา ซึ่งพ่อเป็นคนสอนสิ่งนี้ให้กับผมครับ”
ตอนนี้เราก็พยายามทุ่มเวลาให้กับครอบครัว?
“ก็มีคุยกันครับ หรือถ้าหากคุณแม่ชวนไปเที่ยวที่ไหนก็จะไปกับท่านให้ได้มากที่สุด”.
ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง