เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เผยทุกอย่างหลังโทรเคลียร์ พ่อก็คือพ่อคนเดิม (คลิป)
แต่ในคลิปบอกว่าเป็นพี่สาวของพ่อ?
“หนูก็เพิ่งทราบจากแม่ค่ะ แม่บอกว่าเป็นพี่สาวของพ่อ”
คือเป็นพี่สาวของพ่อจริงๆ ใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ”
ตัวเราไม่เคยเจอหรือเขาไม่เคยเลี้ยงเรามา?
“ไม่เคยรู้จักอะไรกันเลยค่ะ หนูจำได้ว่าครอบครัวพ่อมีพ่อ มีปู่ มีย่า แค่นั้น
คุณพ่อไม่ได้อยู่กับเราตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ตั้งแต่หนูอายุได้ 2 เดือนค่ะ”
การที่คุณป้ามาโพสต์อะไรแบบนี้ เหมือนกับเรียกร้องเงิน มองไหมว่าพอเราดังปุ๊บทางครอบครัวคุณพ่อกำลังจะมาเกาะ เพื่อเอาเงินจากทางส่วนของเราไปใช้?
“หนูไม่ได้มองว่าพ่อมาเกาะอะไรอย่างนี้ค่ะ คือหนูไม่ได้โกรธพ่อเลยนะคะ แต่หนูน้อยใจที่ทำไมตอนข่าวออกใหม่ๆ เมื่อคืน พ่อเงียบอะไรอย่างนี้ แต่สุดท้ายวันนี้พ่อก็ออกมาแล้ว หนูก็ดีใจแล้วก็ขอบคุณค่ะ”
การดูแลจริงๆ คือเราดูแลคุณพ่อยังไง มีการโอนเงินให้ยังไงบ้าง?
“ให้มาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ มากน้อยแล้วแต่โอกาส และแล้วแต่เหตุผลที่คุณพ่อให้มา หนูเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องเงินมาก คนในครอบครัวจะรู้ดี คือถ้าจะให้ทำอะไรสักอย่าง จะต้องมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือและนำไปใช้ในสิ่งที่มันเป็นประโยชน์”
เวลาโอนเงินให้คือให้คุณพ่อคนเดียว ไม่เคยให้คุณป้าหรือคนอื่นในครอบครัวพ่อใช่ไหม?
“ค่ะ ความคิดหนูก็คือให้พ่อคนเดียว แล้วหนูก็เป็นคนโอนเองตลอด ซึ่งมีพ่อขอบ้าง ให้เองบ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราจัดแจงเป็นเงินเดือน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ลงตัวก็เลยกลับมามีปัญหากันอีก”
เริ่มให้เงินคุณพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่?
“2 ปีได้แล้วค่ะ”
มีเคสที่ว่าคุณพ่อเคยมาขอเงินเพื่อไปรักษาตัว แต่เอาเงินไปทำอย่างอื่น ทำให้ตัวเรามีปมตรงนั้นด้วยไหม?
“แอบน้อยใจค่ะ แต่ว่าจริงๆ ถ้าเราให้ไปแล้วก็คือให้ไปแล้ว แล้วแต่คุณพ่อจะเอาไปทำอะไร แต่ที่หนูต้องออกมาพูดเพราะคุณป้าเขาบอกว่าหนูไม่เคยไยดีอะไรพ่อเลย หนูออกมาปกป้องเอง ต้องบอกทุกคนว่าถ้าอันไหนที่หนูพูดแล้วมันทำให้พ่อดูแย่หรือทำให้ทุกคนดูแย่ หนูก็ต้องขอโทษด้วยเพราะว่าหนูก็ตื่นเต้นและเสียใจกับเรื่องนี้มากๆ ค่ะ”
จริงๆ อยากจะเคลียร์เรื่องนี้กับคุณป้าไหม?
“ไม่อยากคุย ไม่อยากเจอ แล้วก็ไม่อยากรู้จักด้วยค่ะ”
แล้วหลังจากที่คุณป้าโพสต์แล้วได้คุยกับคุณพ่อไหม?
“ไม่ได้คุยค่ะเพราะหนูเชื่อว่า…หนูรอให้พ่อทักมา รอให้พ่อโพสต์ รอให้พ่อทำอะไรสักอย่าง เพราะพ่อรู้ว่าที่ผ่านมาหนูทำอะไรบ้าง”
คิดที่อยากจะไปคุยกับคุณพ่อจริงจังไหม เผื่อว่าจะได้คุยกับคุณป้าด้วย?
“กับป้านี่ไม่อยากรู้จักค่ะ แต่กับพ่ออาจจะต้องใช้เวลา แต่ยังคงเหมือนเดิมเสมอ ถ้าพ่อยังคงต้องการความช่วยเหลือ แต่ก็ยังคงยืนยันว่าต้องอยู่ในขอบเขตและให้คุณแม่สบายใจด้วย”
จริงๆ เราคิดว่ากับคำว่าเนรคุณแรงเกินไปไหม?
“แรงมากค่ะ เพราะคำนี้ไม่มีอยู่ในหัวสมองของหนู หนูเป็นคนหาเงินก็จริง แต่หัวหน้าครอบครัวเป็นแม่ หนูให้สิทธิ์การตัดสินใจของแม่ทุกอย่าง ที่ผ่านมาหนูแอบโอนเงินให้พ่อ แม่ก็แอบดุทุกครั้ง แต่สุดท้ายแม่ก็ใจอ่อนเพราะเราอยากให้”
ความห่างเหินระหว่างเรากับคุณพ่อมันขนาดไหน?
“หนูเป็นคนตามหาพ่อเอง หนูเข้าหาพ่อเองตลอด หนูไม่เคยทิ้งพ่อ และพ่อก็ไม่เคยส่งเสียหนู อันนี้ไม่ใช่ความผิดค่ะ เพราะพ่อเขาก็ลำบากและก็มีครอบครัวใหม่ มีลูกสี่ห้าคน การที่จะมาดูแลหนูมันก็ยาก แล้วตอนนี้หน้าที่ของลูกๆ ก็คือต้องช่วยแบ่งเบาภาระพ่อ ไม่ใช่หนูคนเดียว หนูก็พูดถึงน้องๆ ของหนูที่หนูเพิ่งรู้นะคะ ต้องดูแลตัวเองแล้วก็ต้องช่วยพ่อบ้าง”
เรามองไหมว่าถ้าวันนี้เราไม่มีชื่อเสียงไม่มีตังค์มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น?
“มองค่ะ ก่อนหน้านี้ที่หนูลำบากไม่มีใครเห็นหนูค่ะ หนูเพิ่งมามีแล้วคุณป้าคนนั้นก็เป็นใครก็ไม่รู้”
กลัวคุณป้าฝั่งนู้นจะไม่ยอมไหม?
“หนูไม่จำเป็นต้องกลัวคนไม่ดี ป้าต้องกลัวหนู เพราะหนูไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ป้าไม่รู้ว่าตอนหนูให้”
จะบอกว่าเงินและชื่อเสียงเป็นเหตุใช่ไหม?
“ก็น่าจะประมาณนั้น เพราะคุณป้าให้สัมภาษณ์เมื่อวานว่าเศษเงิน 1,000 บาท เศษเงิน 1,000 บาทนี่คือเศษเงินเหรอคะ ตอนหนูอยู่ ป.3 ป.4 หนูใช้ได้ทั้งเทอมเลยนะคะ 20 บาทสำหรับหนูก็มีค่า หนูเป็นคนที่ขยันทำงานและขี้งกมาก การที่จะให้พ่อไปแต่ละครั้งเหตุผลต้องมาก่อน ไม่ได้ให้มา 2 เดือน แต่เพิ่งให้ไป 3 วันที่แล้ว
ปัญหาเกิดจากอีก 2 วัน คุณพ่อก็โทรมา คนก็เลยมองว่าเพิ่งให้ก็เลยมีปัญหากัน หนูก็เลยถามพ่อตรงๆ ว่า พอแล้วมั้ยพ่อ หนูเสียความรู้สึกแล้ว พ่อเอา 3,000 ไปทำอะไร แล้วพอหนูพูดว่าหนูเสียความรู้สึก คำเดียวเท่านั้น ปัญหาก็มาเลย หนูไม่เคยมองพ่อเป็นขอทานนะคะ หนูมีผู้มีพระคุณอีกหลายคน ที่หนูลำบากหนูไปขอข้าวกินอะไรอย่างนี้ หนูก็ตอบแทนทุกคน แต่ทำไมคนที่ให้กำเนิดหนูมาจะทำดีด้วยไม่ได้”
หลังจากนี้จะส่งเสียพ่อเหมือนเดิมไหม?
“อันนี้อยู่ที่คุณพ่อ”
สาเหตุที่ไม่ให้?
“สาเหตุที่ทะเลาะกับคุณพ่อคือหนูให้เงินพ่อไปแล้วแต่ยังไม่พอสำหรับคุณพ่อ มันก็เลยบั่นทอนจิตใจคุณพ่อ แล้วก็น้อยใจว่า โอเค ถ้าพ่อแย่มากไม่ต้องมาคุยกับพ่อ แล้วพ่อคุยอย่างนี้ตลอด เรางอนกันมาตลอดสุดท้าย แพ้ภัยตัวเองเห็นพ่อลำบากก็จะทักหา แต่ครั้งนี้มันมีคุณป้าคนนั้นเข้ามาในช่วงที่หนูมีเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ”
อย่างนี้เราให้คุณแม่เข้าไปเคลียร์ไหม?
“ไม่ค่ะ หนูไม่อยากให้แม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตอนนี้หนูต้องขอบคุณแม่ด้วยซ้ำที่ในวันที่หนูล้มหรือลุก หนูก็มีแค่แม่ที่อยู่ข้างๆ”
มีตกลงกันไหมว่าจะให้คุณพ่อเดือนละเท่าไร?
“อันนี้ต้องอยู่ที่คุณพ่อค่ะ แต่หนูอยากจะบอกว่าหนูยังคงรอพ่อเสมอค่ะ ถ้าวันหนึ่งพ่อลำบากหนูก็ช่วยพ่อได้เสมอ”
เหมือนตอนนี้คือเราจะไม่เอาเงินไปให้คุณพ่อแล้วให้คุณพ่อมาเรียกเองดีกว่าใช่ไหม?
“คือใช่ค่ะ เพราะสบายใจกว่า อย่างที่ผ่านมาเราตั้งกฎตั้งเงินเดือนสุดท้ายแล้วไม่เป็นผลดีเลย พอตั้งเป็นเงินเดือนไม่พออีก ก็มาขอกันเรื่อยๆ คือถ้ามีเรื่องเงินเข้ามาเมื่อไหร่มันก็ไม่ใช่การให้ใจแล้ว ตอนนั้นหนูก็เลยมองว่าขอหยุด แต่ก็ยังอยากมีพ่อเหมือนเดิมค่ะ”
อย่างเรื่องเพลงใครเป็นคนแต่ง?
“เพลง เลิกคุยทั้งอําเภอเพื่อเธอคนเดียว หนูแต่งคนเดียวบนรถตอนไปเล่นคอนเสิร์ต และคุณแม่ก็เป็นคนฟังอยู่ตลอด และเมื่อแต่งเสร็จหนูเองก็เป็นคนที่ส่งให้คุณพ่อฟัง และหนูก็ยังถามว่า ลูกสาวเก่งไหม เพราะหนูภูมิใจมากที่หนูแต่งเพลงนี้เสร็จแล้ว ที่เขาบอกว่า ค่าจ้างแต่งเพลง หนูรับรีวิวสินค้าผ่านทาง YouTube มาตลอด แล้วแต่ละคลิปหนูจะมีเพลงที่สอดแทรกเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการเราอีก
ก็จะให้คุณพ่อเป็นคนแต่งราคาอยู่ที่ 3,000 ถึง 5,000 บาทแล้วแต่เนื้อเพลง แล้วแต่ราคาที่หนูได้มาจากลูกค้า ให้พ่อทุกเดือนทุกงาน แต่ถ้าเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอไม่เกี่ยว”
ทุกครั้งจ่ายเงินให้พ่อหมด?
“ถ้าเป็นเรื่องงานแต่งเพลง จ่ายให้ทุกงาน เพราะหนูก็มองว่าได้มาหนูก็ควรจะแบ่ง”
พ่อแต่งประมาณกี่เพลง?
“ก็มีซิงเกิลแรกแต่มันไม่ดัง ที่ให้พ่อแต่งให้เพราะเป็นนักร้องครั้งแรกและหนูก็อยากเข้าหาพ่อด้วย เพราะตอนนั้นเราไม่สนิทกันคุณพ่อเขาแต่งให้ค่ะ”
ตอนนี้เราค้างค่าแต่งเพลงคุณพ่ออีกไหม?
“ไม่มีค่ะ ที่คุณพ่อโทรมาล่าสุดคือขอเบิกล่วงหน้า แต่มันไม่ได้ หนูเพิ่งให้ ถ้าหนูยังไม่ให้แล้วมาขอเบิกล่วงหน้า ไม่มีปัญหาค่ะ”
คิดว่ากรณีนี้จะเป็นรอยร้าวระหว่างเราและคุณพ่อไหม?
“ถ้าใจเราผูกพันกันจริงๆ หนูว่าเรื่องนี้จบง่ายมาก เราแค่กลับมาเริ่มใหม่ แล้วไม่ต้องไปสนใจคนอื่นอีก คนอื่นในที่นี้ก็เช่นคุณป้าคนนั้น หนูบอกเลยว่า หนูโกรธมาก กว่าหนูจะมีวันนี้ได้มันยากมาก อย่างที่ทุกคนน่าจะรู้ค่ะ”
คิดว่าการมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้จะปลดล็อกสิ่งที่อัดอั้นมานานไหม?
“ใช่ค่ะ แล้วก็หวังว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็คงจะขอจบในครั้งนี้วันนี้ แต่หนูก็ไม่ได้มั่นใจตัวเอง เพราะหนูไม่ได้เก่งในการอยู่วงการบันเทิง เมื่อคืนหนูกลัวมากว่า ถ้าวันนี้หนูมาสัมภาษณ์จะกลายเป็นเด็กเนรคุณไหม พูดแล้วจะมีผลเสียต่อพ่อไหม แต่สุดท้ายแล้วหนูก็ขอพูดความจริง ในส่วนที่จะปกป้องหนูได้ ว่าหนูไม่ใช่คนเนรคุณ คำว่าเนรคุณไม่มีอยู่ในสมองของหนู”
จะไปถอนแจ้งความเมื่อไหร่?
“ก็ต้องคุยกับทนาย ก็คงจะต้องถอน เพราะเป็นความต้องการของคุณพ่อ แต่ที่หนูแจ้งความเพราะจะได้เป็นตัวอย่างของเคสต่อไป อยู่ๆ มาโพสต์กล่าวหากัน สิ่งที่คุณป้าโพสต์ไม่เป็นความจริงสักอย่างเลย ทั้งเรื่องเพลง ทั้งพ่อส่งเสียหนู คนอะไรจะมองพ่อตัวเองเป็นขอทาน ถ้ามองพ่อเป็นขอทานคนเราก็ไม่เจริญนะคะ”
คุณพ่อทำงานอะไรนอกจากแต่งเพลง?
“ตอนนี้ไม่สบาย อยู่บ้าน ก็มีขายกล้วยทอดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้หนูก็ช่วยลงทุนให้บ้าง แต่หนูไม่จำเป็นต้องมาโพสต์บอกทุกคน ว่าหนูโอนตังค์ให้พ่อเท่าไร คือหนูให้แล้ว รู้กันระหว่างพ่อลูกก็พอ”
กลัวเรื่องจะไม่จบไหม?
“กลัวค่ะ กลัวจะมีเพิ่มมาอีก แต่พ่อบอกให้จบ หนูก็จบ ส่วนเรื่องหนูกับพ่อจะเป็นยังไงต่อไป ขอให้มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว จะดี จะรักกัน พ่อจะทักมา หนูจะทักไป ก็ขอให้เป็นเรื่องของครอบครัว เพราะหนูสงสารแม่ กับน้องมาก”
แม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง?
“เมื่อวานแม่ก็ร้องไห้ เพราะแม่เพิ่งผ่าตัดมา สภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดี แล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งหนูปรึกษาแม่มาตลอด เราก็กอดกันร้องไห้ เมื่อวานเล่นคอนเสิร์ตก็เป็นฟีลที่ยากมาก การเป็นนักร้องไม่ใช่เรื่องง่าย”
แฟนเพลงให้กำลังใจยังไงบ้างเพราะเห็นมีทั้งคนเข้าใจ และคนที่ซ้ำเติม?
“หนูก็สนใจแค่คนที่เข้าใจแล้วค่ะ ตอนนี้ แต่ตอนแรกยอมรับว่าเสียใจมาก แต่สุดท้ายเอาคนที่รักเราก็พอ เพราะหนูทำดีที่สุดแล้ว หนูมั่นใจว่าหนูทำดีที่สุดแล้ว หนูไม่เคยทิ้งพ่อ”
อยากบอกอะไรคุณป้าไหม?
“เขาไม่ใช่ญาติหนูค่ะ”
ฝากบอกอะไรคุณพ่อไหม?
“สำหรับพ่อหนูเหมือนเดิมเสมอ รอพ่ออยู่ที่เดิม แล้วก็ขอโทษนะคะที่ผ่านมาดูแลไม่ดีพอ แต่หนูอยากให้พ่อเข้าใจว่าสุดท้ายแล้ว หนูก็ต้องเลือกแคร์ความรู้สึกแม่ เพราะแม่คือคนที่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็ก”
การที่เราให้เงินพ่อเท่ากับเราต้องแบกรับครอบครัวของพ่อด้วย?
“หนูไม่ทราบค่ะ แต่ว่าอย่างที่บอกไป เงินที่หนูให้ไป หนูให้พ่อคนเดียว แต่มันไม่พอ เพราะพ่อมีครอบครัวใหญ่ หนูไม่รู้ว่าพ่อเอาไปทำอะไรบ้าง”
ไม่เคยถามเขาใช่ไหม?
“ก็มีถาม พอถามก็มีปัญหากัน ก็เลยเลือกที่จะไม่ถาม”
ก็เลยเลือกที่จะให้เลย?
“ค่ะ แต่มันคงจะน้อยไปมั้งคะ ถ้าเทียบกับรายได้หนูตอนนี้ แต่ตอนที่หนูไม่มี หนูกับแม่ กับน้อง ยังดิ้นรนกันได้เลย แล้วทำไมฝั่งนั้นไม่ดิ้นรนบ้าง”
คือเราคิดว่าให้เงินแล้วอีกฝ่ายก็ควรจะดิ้นรนด้วยตัวเองบ้าง?
“อันนี้ไม่ได้หมายถึงคุณพ่อ หมายถึงป้าๆ น้าๆ ที่เขาว่าหนูกัน ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเองค่ะ”
ให้เยอะที่สุดเท่าไร?
“2 หมื่น ตอนพ่อบวชค่ะ แต่ไม่ได้บอกญาติเขา เขาเลยด่าว่าตอนบวชไม่สนใจ”
เราไม่เคยไปเจอญาติฝ่ายพ่อเลย?
“ไม่เคยค่ะ เคยไปขายรองเท้า แล้วแม่บอกว่าบ้านย่า ก็เลยแวะไป ก็เจอย่า เจอปู่ ก็ดีใจ แต่ก็แปลกๆ ว่าเรามีย่ามีปู่ด้วย”
เขาพูดคุยกับเรายังไงบ้าง?
“พูดคุยค่ะ บอกว่า คนนี้หลานย่าหรอ”
แม่ไม่ได้ปิดกั้นใช่ไหม?
“แรกๆ ปิดค่ะ แต่แม่เป็นคนบอกหนูว่า ทำบุญที่ไหน ไม่เท่ากับคนในบ้าน หนูก็เอาคำนี้มาพูดกับแม่ว่าขอเถอะ ขอให้หนูได้ให้พ่อ เพราะเขาก็คือคนที่ให้หนูเกิดมา”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง