“เดอะ ทอยส์” คัมแบ็ก รับตรุษจีนตามหา “อาหมวยหาย” เล่ายึดติดทำเพลงในห้องนอน


ให้คะแนน


แชร์

“มันเริ่มจากว่าได้ยินเสียงระฆัง ไปทำบุญที่วัดจีนแล้วเสียงระฆังเพราะ ผมก็เลยหยิบมาทำเป็นเพลง ผมรู้สึกว่ามันยูนีคดี มันชัดเจน จากนั้นก็กลับบ้านมาแล้วมันก็ยังดังอยู่ในหัว เลยพยายามเอามาทำเป็นเพลง เลยเป็นเพลงอาหมวยหาย เพลงนี้ขึ้นมา”

คอนเซปต์เพลงเป็นมายังไง? “ก็ตามเสียงระฆัง อาหมวยก็เป็นคนจีน เวลาเป็นเพลงก็ต้องเป็นเพลงรักความรักแบบจีน เลยเป็นอาหมวยแล้วกัน”

เนื้อเพลงสื่ออะไร? “ในเพลงก็จะบอกเทียบกับวันวาเลนไทน์ แต่ผมไม่มีดอกไม้ให้คุณสักดอก ใส่ซองก็ใส่ไม่ได้เท่าเค้า ไม่ได้ร่ำรวย แค่นี้เลย สุดท้ายเค้าก็หายไปเพราะเราไม่ดีพอ เลยเป็น “อาหมวยหาย””

ตอนเราทำเสร็จฟังทีแรกชอบเลยมั้ย? “ทำไปเรื่อยๆ ประมาณอาทิตย์นึงถึงจะชอบ มันติดตรงเราอยากได้มุกจีนๆ เครื่องดนตรีจีนแบบกู่เจิง แต่ผมก็ไม่ได้รู้เยอะขนาดนั้น ก็เลยศึกษา พอเราเอามาปรับใช้ ก็เท่ดี เพลงนี้เอาเครื่องดนตรีจีนมาใส่ด้วยพิณผีผา กู่เจิงใช้คอมพิวเตอร์กดเอา”

ตอนแรกคิดว่าจะเข้ากับเพลงเรามั้ย? “ก็คิดว่าเข้าแหละ เพราะมันขัดกันมาก คือจังหวะมันเป็นฮิปฮอปดิสโก้ผสมบ้าง พอมันมีเครื่องดนตรีจีนเข้ามามันแปลกดี มันอยู่ด้วยกันได้”

ทำไมถึงอยากกลับมาทำจริงจัง? “ผมว่าเพลงนี้มันน่าสนใจ มันเริ่มจากการลอง อย่างที่บอก พอวางทุกอย่างเสร็จมันน่าสนใจ เลยมีไฟที่จะทำเพลงนี้”

ลุ้นกับกระแสมั้ยเพราะเป็นซาวด์ใหม่ๆของเรา? “คิดว่าน่าจะมีอารมณ์ไม่เข้าใจด้วย เหมือนเดิม ก็พยายามให้มีทั้งมุมที่เข้าใจได้ และก็อาจจะมีมุมใหม่ๆที่ยังไม่เข้าใจ แต่อยากให้เปิดใจฟังดูก็ได้”

คาดหวังกระแสจากแฟนเพลงมั้ย? “ผมตามสบายเลย เรารู้อยู่แล้วว่าปล่อยเพลงไปก็จะมี ทั้งคนเข้าใจและไม่เข้าใจเหมือนเดิม แต่สำหรับคนที่เข้าใจ ผมดีใจนะที่เราฟังเสียงเดียวกัน อยู่ในโลกเดียวกันได้”

ล่าสุดได้ไปเล่นคอนเสิร์ตมาเป็นยังไงบ้าง? “ดีใจครับที่ทุกอย่างดีขึ้น”

ไม่ได้ออกไปเจอแฟนๆ นานความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง? “เกร็งนะ พูดรัวมากเพราะตื่นเต้น”

งานเริ่มกลับมารึยัง? “กลับมามากขึ้นครับ”

เราก็ป้องกันตัวเองสุดๆ นักดนตรีถอดแมสก์ แต่เราใส่แมสก์เล่นดนตรีร้องเพลงตลอด? “ใช่ครับ ผมใส่แมสก์ตลอดเป็นความตั้งใจ”

กลัวเลยตั้งใจป้องกัน? “ผมว่ามันเท่”

ลำบากกับการร้องเพลง? “ไม่ลำบากครับ อาจจะมีนิดนึงตรงเรื่องหายใจ แต่เรื่องไมค์เสียงยังชัดเจนปกติ ก็ใส่ไปยาวๆก่อน จนสถานการณ์คลี่คลายอาจจะดูก่อน อาจจะยังใส่อยู่ก็ได้”

โควิดที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง? “คล้ายๆ เดิมครับ ทำเพลง เล่นเกม”

แบ่งเวลาเล่นเกมกับ ทำเพลงยังไง? “หันหลังสลับกัน ครับ เพราะคอมพ์ทำเพลงมันอยู่ข้างหลัง เราก็หันหลังไปทำเพลง คือเล่น 1 เกมจบ ก็หันหลังไปทำ มันจะมีอยู่แค่นี้ ผมรู้สึกแฮปปี้และเวลาหันไปทำเพลงก็นานอยู่ใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ถ้ามีจังหวะที่คิดไม่ออก เราก็หันกลับมาเล่นเกมต้องรีเฟรชตลอดเวลา มันเป็นความสุขที่ต้องเติมพลังจากการเล่นเกม”

เล่นจนได้เป็นพรีเซนเตอร์เกมเลย? “(ยิ้ม) เล่นเกมจนได้ดี เจ๋งดี ถามว่าเกร็งมั้ยพอได้มาเป็นพรีเซนเตอร์ ก็มีบ้าง เราต้องนำเสนอให้ดี ก็อยากได้เพชรในเกม เพิ่มขึ้น (ยิ้ม) แล้วเค้าก็ให้มาด้วย”

เริ่มทำเพลงจากห้องนอน ทุกวันนี้ทุกเพลงก็ยังเกิดจากห้องนอน? “ใช่ครับ พอได้เงินมาก็เอาเงินไปทำห้องอัด ก็ราคาแพงอยู่เกือบ 2 ล้านกว่าบาท สุดท้ายก็ทำในห้องนอนเหมือนเดิม (ยิ้ม) เพราะการทำเพลงที่อื่นกับเพลงในห้องนอนมันต่างกันนะ เวลาทำในห้องนอนมันอุ่นใจกว่า ที่เรามีเตียง แต่ก่อนจะมีแค่คอมพ์กับมิดี้คีย์บอร์ดใบ้ ผมใช้แค่นี้ทำเพลงในคอนโดฯห้องเล็กๆ ละตอนนี้ห้องอัดมันมีทุกอย่างแล้ว มีกีตาร์ มีเครื่องเป่า มีกลอง มีทุกอย่างครบ แต่ก็กลับมาทำเหมือนเดิม (ยิ้ม) ซึ่งตอนนี้ผมก็กลับไปเช่า คอนโดฯห้องเดิมที่เคยทำเพลงมาตั้งแต่เริ่มแรก มันก็โอเค ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเลย บรรยากาศเหมือนเราคิดถึงโรงเรียนเก่า เรากลับไปโรงเรียนเก่า ได้กลิ่นอาย มันได้ความสุขทางใจ”

แล้วห้องอัดตอนนี้ใช้ทำอะไร? “ตอนนี้ใช้ไปยังไม่ถึง 200 เลย (ยิ้ม) ตอนนี้ใช้เป็นห้องถ่ายรูปแทน เป็นห้องเช็กอินตามมุมต่างๆ”

ทุกวันแฟนคลับก็ยังเปิดรับความเป็นเดอะทอยส์ได้ทุก เมื่อที่เรากลับมาพร้อมเพลงใหม่? “ดีใจครับที่รอฟังเพลงเรา”

มีช่วงที่เราต้องเปลี่ยนตัวตนเพื่อตามกระแสและดึงแฟนๆมั้ย? “ก็มีนะครับ ค่ายก็บอกตลอด ว่าคอนเซปต์มาให้ เราต้องแอ็กทีฟขึ้น เราต้องเรียนพูด เรียนจริงจังเลยนะ แต่สุดท้ายแล้วเหมือนผมโฟกัสเรื่องเพลงมากเกินไป แต่จริงๆแล้วมันมีเรื่องอื่นที่เราต้องโฟกัสด้วย ไม่ว่าจะเรื่องพูด เรื่องเอนเตอร์เทนบนเวที เราก็ปรับมาตลอด ได้เข้าใจในมุมอื่นที่นอกเหนือจากเพลงที่เราทำ มันน่าจะดีขึ้น”

เราเล่นเกมแบบนี้ อยากจริงจังในด้านนี้มั้ย? “ผมเล่นเพื่อคลายเครียด จริงๆมันเป็นวิธีบำบัดสไตล์เรา คนอื่นอาจจะไปเที่ยว อาจจะไปช็อปปิ้ง แต่เราบำบัดเพราะบางทีเราก็คิดเพลงไม่ออก คิดโปรดักส์ไม่ออก ผมว่าวิธีบำบัดของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ผมชอบอยู่ในห้อง อยู่คนเดียว แฮปปี้ครับ”

แต่เกมมันคือการแข่งขันไม่ยิ่งกดดันเหรอ? “มันมี 2 แนวคิด เราจะเล่นเพื่อการแข่งขันหรือเราจะเล่นเพื่อดึงตัวเราไปอยู่ในโลกที่อิสระ อยู่ในโลกที่ไม่มีใครรู้จักเรา มันเป็นการไปเที่ยวในรูปแบบของตัวเราเอง ผมไม่ได้เล่นเพื่อการแข่งขัน”

กิจกรรมอื่นที่เราทำ? “ตอนนี้เราเอาหินมาทับดินที่เคยปลูกต้นไม้หมดแล้ว (ยิ้ม) มีเลี้ยงน้องหมาตัวนึงและก็ออกกำลังกายบ้าง ดูหนังบ้าง ออกกำลังกาย ก็นานแล้วนะครับ แต่ว่าผมออกวันละนิดวันละหน่อย ผมวิดพื้น ผมไม่รู้ว่ามันเหนื่อยขนาดไหน ผมลงไปประมาณ 2 ที ก็รู้สึกว่ากลับไปทำเพลงดีกว่า ผมรู้สึกว่าทำเพลงไม่เหนื่อยนะ แต่วิดพื้นทีสองทีมันเหนื่อยแล้วนะ”

แล้วมันแข็งแรงขึ้นมั้ย? “โอเคนะ มันก็รู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้น”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2299076
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2299076