แต่งานนี้ด้านคุณสามีนั้นหวงสุดๆ ถึงขั้นเอารูปเมียรักมาเซนเซอร์ภาพพร้อมแสดงความเป็นเจ้าของทันที จนถูกแซวว่า คลั่งรักเมียอย่างมาก 

ล่าสุด เอ๋ พรทิพย์ ได้มาเปิดใจผ่านรายการ แฉ เล่าว่า ตอนนี้เป็นแม่บ้าน หน้าที่หลักคือรับส่งลูกไปโรงเรียนทุกเช้า ดูแลลูกคนเดียว ไม่ได้มีแม่บ้าน แต่จะมีผู้ช่วยคือคุณยาย อาชีพหลักคืออาชีพแม่ ไม่ได้รับเล่นละครมา 9 ปีแล้ว 

ที่ช่วงนี้ ป๋อ ดูรักเมียมากเป็นพิเศษ เอ๋ บอกว่า เอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้น เค้าไปกินอะไรมาก็ไม่รู้ ปกติเมื่อก่อน ป๋อ จะเป็นคนแข็ง เป็นคนไม่หวาน เพราะเค้ารู้ว่าเราเป็นคนดูแลตัวเองได้ แข็งแรง และเราจะเป็นชอบไปอ้อนเค้า

เค้าเลยรู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงเราก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเราคบกันมานานเกิน 10 ปีแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นมันจะเป็นความเคยชิน และต้องมีสักวันที่จะเบื่อกันไปข้าง เค้าก็เลยรู้สึกว่าเค้ายอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อเรา แต่ทำแล้วเกิดความเคยชิน เลยยิ่งทำมากขึ้น แบบจาก 0 แล้วมา 100 เลย

อย่างรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำ พี่ป๋อ เค้าบอกว่า ทำไมจะต้องแต่งแบบนี้ มีลูกแล้ว แต่งไปโชว์ใคร เอ๋ ก็จะบอกว่า ไม่เป็นไรเลย ใครๆ เค้าก็ใส่กัน ซึ่งเค้าก็จะให้ใส่แบบพอประมาณ ถ้าอันไหนที่เค้ารู้สึกว่ามันมากไป ก็ให้เอากางเกงมาใส่ ต้องใส่ให้เค้าดูก่อน ถ้าเค้าโอเคก็จะโอเค 

ที่ผ่านมาเราแต่งงานและรวมที่คบกันเป็นแฟนด้วยมา 15-16 ปี แต่พี่ป๋อเค้าเพิ่งจะมาหวงเมื่อช่วง 2 ปีหลัง ก็งงเหมือนกัน เอ๋ ก็ถามว่าพี่แกล้งรึเปล่า เค้าก็บอกว่า ไม่รู้สิ ก็พี่ปล่อยทิ้งขว้างเอ๋มานานแล้ว 

เมื่อถามว่า เกี่ยวมั้ยกับการที่คู่ของเราเคยหย่ากันไปครั้งหนึ่งแล้ว เอ๋ บอกว่าน่าจะเกี่ยว เพราะพี่ป๋อเค้าเคยมาสารภาพกับเอ๋ครั้งหนึ่งว่า รู้สึกไม่ดีเลย รู้สึกใจแป้วที่หย่า ถ้าจะจดทะเบียนใหม่แล้วเอ๋ไม่จดล่ะ เพราะเค้าเป็นคนเสนอเรื่องหย่าเอง ซึ่งหลังจากที่กลับมาจดทะเบียนกันอีกรอบ เค้าก็เปลี่ยนไป เช่น ก่อนออกจากบ้านก็จะมากอด ก่อนนอนก็จะมาจุ๊บ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นเลย 

พี่ป๋อจะเป็นคนประหยัดมาก เสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้านก็ตัวละ 50-60 บาท ใส่จนคุ้ม แม้ว่าจะขาด จนบางครั้งต้องแอบเอาทิ้ง แต่กับเมียเค้าจะเปย์มาก ทุกเทศกาลจะเซ็นเช็คให้เมียเป็นล้านๆ เลย แต่เราก็ไม่เคยขอนะ เค้าจะให้ตามเทศกาล ก็คือเหมือนแต่ก่อนเราเคยทำงานหาเงินเองได้ พอมีลูกก็ต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อมาดูแลลูก 

อย่างล่าสุดมีละครติดต่อมา เราก็มานั่งคุยกันว่าจะยังไง ซึ่ง พี่ป๋อ เค้าก็บอกว่า เอ๋ คิดดูดีๆ นะ เพราะพี่ทำงาน 7 วัน แล้วลูกจะอยู่กับใคร ถ้า เอ๋ ทำงานด้วย ลูกจะไม่ได้โตกับเอ๋ไม่ได้โตกับพี่เลยนะ ให้คิดดีๆ เราก็รู้สึกว่าจริง เพราะโมเมนต์นี้เราอยากจะตักตวงไว้ให้นานที่สุด เพราะถ้าลูกเค้าโตแล้ว เค้าก็จะไม่เอาเราแล้ว 

ทุกวันนี้เวลาเราจะออกไปข้างนอก ก็ต้องไปขอเค้าเหมือนเป็นพ่อเลย เค้าก็จะถามละเอียดยิบ ไปไหน กับใคร ทำอะไร กลับตอนไหน เพราะเค้ากลัวเราไปกับผู้ชายอื่น บางครั้งก็จะแกล้งเฟซไทม์หา เค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยออกไปไหน ชอบอยู่บ้าน จะออกไปข้างนอกแค่ไปทำงาน

ซึ่งปกติสมัยที่เป็นแฟนกัน พี่ป๋อ เค้าจะไม่เป็นแบบนี้เลย งงมากเหมือนกัน คือเราก็กลัวมากด้วย จนทุกวันนี้ต้องเช็กคิวก่อนว่าพี่ป๋อออกไปไหนมั้ย ถ้าไม่ได้ออกไปไหนเราก็จะไม่ออกไปข้างนอกเหมือนกัน เพราะเราเกรงใจเค้า 

ทั้งนี้ยังบอกต่อว่า พี่ป๋อเค้ากลัวเรามีกิ๊ก ขณะลูกสองแล้วก็ยังกลัว แล้วเราไม่มีประวัติเสียหาย ไม่ใช่คนเจ้าชู้ด้วย เค้าก็บอกว่าถ้าตราบใดที่เอ๋เดินก้าวออกจากบ้าน ผู้ชายก็เข้าหาเอ๋ตลอด.