ด้านอดีตนางเอกสาว ต่าย สายธาร นิยมการณ์ หนึ่งในจิตอาสาของมูลนิธิร่วมกตัญญู ให้สัมภาษณ์ถึงการค้นหานักแสดงสาว ที่ตอนนี้ต้องทำงานภายใต้ความกดดัน อีกทั้งยังขอร้องให้ชาวเน็ตเลิกเถียงทะเลาะกัน รวมถึงไม่ปล่อยข่าวเฟกนิวส์ที่อาจทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ลำบากขึ้น

ความคืบหน้าในการค้นหา?
“ก็มีความคาดหวังว่าจะหาเจอค่ะ เดี๋ยวให้พี่ๆ เจ้าหน้าที่ทานข้าวกันก่อน”

ถือเป็นการกู้ภัยที่ยาวนานที่สุดไหม?
“ถ้าถามต่าย ตัวต่ายเองไม่ได้เป็นทีมนักประดาน้ำ แต่คิดว่าน่าจะมีเคสอื่นที่อาจจะนานกว่านี้ก็ได้”

พี่ต่ายร่วมกับทีมวางแผนยังไงบ้าง?
“ต่ายมาซัพพอร์ตในส่วนที่ซัพพอร์ตได้ ช่วยเรื่องอาหารการกิน ช่วยประสานงานเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านบนว่าต้องการน้ำหรืออะไร ก็จะประชาสัมพันธ์ว่าตอนนี้ถ้าใครมีโดรนก็มาได้เลยนะคะ ถามว่าต้องการอะไรบ้าง จริงๆ ต้องถามเจ้าหน้าที่ พี่ต่ายมาในส่วนที่ช่วยในศักยภาพที่ตัวเองทำได้มากกว่า เราจะไม่ก้าวก่ายกัน

เพราะว่าการทำงานตรงนี้ทุกคนทำงานภายใต้ความกดดัน ต่ายไม่ได้ลงน้ำไปเอง เราก็รู้สึกว่าทำงานภายใต้ความกดดัน เราห่วงทั้งน้อง เจ้าหน้าที่ คือก่อนที่เราจะไปช่วยเหลือคนอื่น ตัวเองต้องปลอดภัยก่อน ห่วงพี่ๆ สื่อมวลชน ห่วงทุกคนค่ะ เราไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ก็เลยต้องมีการขอพี่ๆ นักข่าวให้อยู่ในโซนนะคะ”

ตอนนี้ต้องการความร่วมมืออะไรบ้าง?
“จริงๆ แล้วไม่มีอะไรนะคะ พวกเรายังคงปฏิบัติหน้าที่กันต่อ เมื่อคืนมีบางทีมที่กลับไปเพราะมีงาน บางคนอยู่ต่อก็ยังไม่ได้นอน คือเจ้าหน้าที่เขาจะประเมินตัวเองได้อยู่แล้ว ในการทำงานควรพักเวลาไหน การที่เรามาเป็นเจ้าหน้าที่ตรงนี้เราจะไม่ฝืนร่างกายตัวเอง เขาจะทำงานเป็นสเตปอยู่แล้ว หลายๆ คนอาจจะห่วงใยและสอบถามมา ก็ขอบคุณแทนเจ้าหน้าที่ทุกท่านด้วย

และก็ขออย่าทะเลาะกันหน้าเฟซเลย รักกัน สิ่งสำคัญตอนนี้คือกำลังใจ คือกำลังบวกตอนนี้ที่เราต้องมี ไม่ใช่เฉพาะเรา เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องการ ถามว่าเขาเหนื่อยล้ามั้ย เขาเหนื่อยล้า ต่อให้เป็นหน่วยซีลก็เหนื่อยค่ะ เพราะมันค่อนข้างนาน แล้วก็ขนาดน้ำตอนกลางวัน เรายังเห็นว่ามันก็มีอุปสรรคแล้ว แล้วยิ่งตอนกลางคืนลงไปก็หนักเหมือนกัน พี่ๆ แต่ละคนก็ฝึกมาดี ค่อนข้างประเมินตัวเองได้อยู่แล้วค่ะ เราต้องขอปรบมือให้นะคะ”

อีกอันที่เป็นปัญหาคือเฟกนิวส์ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากลำบากขึ้น?
“ก็มีส่วนค่ะ แต่จริงๆ แล้วต่ายจะไม่มีเวลาเข้าไปอ่านตรงนั้นเลย คือถ้าสมมติว่าเจ้าหน้าที่ทำงานเกิดมีวิกฤติอะไรขึ้นมาจริงๆ คนนั้นคนนี้พูดใส่หูหรือเสียงดังๆ มันก็อาจเกิดการสับสนขึ้นมาได้ กรณีที่ลงโซเชียลเราไม่มีเวลาอ่านพวกนี้ แต่เราขอว่าอย่ามาเถียงกันด่ากันหน้าเฟซเราเพราะว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือใครก็แล้วแต่ในสังคม พวกเราต้องการกำลังใจกันหมด ต้องการเจอน้องเหมือนกันหมด ไม่แซะไม่แขวะไม่ว่ากันน่ะ มันจะน่ารักมากค่ะ”