“ดีใจนะ ก็รู้สึกเขินเหมือนกัน ไม่คิดว่าเค้าจะทำอะไรทำนองนี้ พื้นฐานเค้าเป็นคนไม่โรแมนติกเลย จะเป็นคนไม่บอกรัก เค้าจะเป็นคนที่จั๊กจี้กับอะไรแบบนี้ พอเห็นเค้าทำให้แบบนี้ เราก็รู้สึกแฮปปี้ แต่เราก็บอกไปแล้วนะว่าปีหน้าไม่ต้องให้แล้วนะช่อใหญ่ขนาดนี้ เก็บเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนก้อยก็ให้รูปภาพ วาดเป็นเค้ากับก้อยแล้วก็น้องไนร่า (สุนัข) ให้ศิลปินที่เค้าชื่นชอบวาดให้ เค้าก็จะเอาไปติดที่บ้านเค้า เพราะบ้านเค้าใกล้จะเสร็จแล้ว ปลายมีนาคมนี้”

“เป็นประโยคที่มองเผินๆเหมือนเค้ารักเรามาก แต่ถ้ามองลึกลงไปแล้ว เอิ่ม เค้าชอบพูดกับก้อยว่าเค้าชอบเล่นฉีก สมมติว่าคนอื่นเล่นกตัญญู เค้าจะบอกว่าเค้าเล่นกตัญญูมาชั่วชีวิตแล้ว เค้าอยากฉีกบ้าง ฉีกไปฉีกมาโดนด่าเลย (หัวเราะ) พี่อยู่ผ่อนต่อดีกว่านะ บ้านหลังนี้ก้อยก็มีส่วนออกไอเดียเยอะเหมือนกัน เค้าจะถามว่าก้อยชอบแบบไหนยังไง พี่นิกกี้จริงๆเค้าดูไว้หลายที่มาก แต่เราจะรู้สึกว่าราคาบางที่มันแพงมาก แล้วถ้าเค้าต้องใช้เงินทั้งชีวิตที่เค้าเก็บมา 80-100 เปอร์เซ็นต์เพื่อซื้อบ้าน 1 หลัง เงินเก็บที่เหลือมันจะน้อย เราก็
บอกเค้าว่าเราซื้อในราคาที่เราไหว แล้วเราเก็บเงินไว้ ก้อยว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เราก็แนะนำเค้าประมาณนี้”

“นางเว่อร์ นางมาไอเดียของนาง แต่เค้าจะถามตลอดว่าเวิร์กหรือไม่เวิร์ก แล้วเราก็มีทัศนคติ เราก็จะให้คำตอบไปว่าเป็นเราเราจะอย่างนี้นะ เป็นคุณคุณจะยังไง เค้าเป็นคนชอบปรึกษา เค้าก็จะถามความคิดของเรา แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างเป็นไอเดียเรานะ จริงๆมันเป็นไอเดียของนางแหละ”

“เค้าไม่ได้พูดอะไรจริงจังนะ เค้าคงคิดแหละว่าบ้านหลังนี้มันจะยังไงนะ แต่ก็ไม่รีบ คือถ้าจะมีวันนั้นจริงๆก้อยอยากทำอะไรให้มันง่ายๆ บ้านเค้าก็ซื้อแล้วก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องไปซื้อบ้านใหม่อีกมากมาย ถ้าบ้านที่มีอยู่มันอยู่กันแล้วมีความสุขก็พอแล้ว ถ้าถึงวันนั้นตัวก้อยเองก็มีบ้านอีกหลังนึงด้วย พี่นิกกี้ก็ซื้อบ้านพี่นิกกี้ ก้อยก็ซื้อบ้านของก้อย จริงๆปรึกษากันทั้ง 2 หลัง แต่พี่นิกกี้จะซื้อของเค้า ก้อยก็ซื้อของก้อย เราปรึกษากันว่าโซนไหนดี ตอนแรกเคยจะซื้อในหมู่บ้านเดียวกัน แล้วนางก็บอกว่าแล้วถ้าเลิกกันล่ะ เค้าบอกว่าเค้ารับไม่ได้นะ เราก็มาคิดมันก็จริง ก็เลยอยู่กันไกลเลย คนละโซนกันเลย”

“จริงๆแล้วเค้าเป็นคนที่รู้เรื่องนะ แต่ก้อยสังเกตว่าเค้าเจอกล้องแล้วเค้าจะสมองไหลเป็นพื้นที่ที่เค้าไม่จริงจัง อยากเอนเตอร์เทน แต่จริงๆเค้ารู้เรื่อง เพราะถ้าไม่รู้เรื่องมันก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง”

“หนูว่าต่างนะ จริงๆนางมีความขี้อาย ไม่ได้เจี๊ยวจ๊าวขนาดนั้น อยู่หน้ากล้องก็จะมีอำนาจมีองค์ของนาง พอหนูเห็นแล้วเค้าก็คือทำการแสดงในแบบนึงของเค้าหนูก็โอเค”

“ปลายเดือนนี้น่าจะ 2 ปีแล้ว”

“เค้าไม่หวาน และไม่พูดอะไรจริงจัง แต่หนูชอบไปได้ยินอะไรแบบนี้กับการที่เค้าไปพูดกับคนอื่น กับรายการอื่น แต่กับหนูไม่มี จะไม่พูดเลย”

“ตอนนี้เหรอคะ อย่าเพิ่งนะ (หัวเราะ) หนูว่าหนูไม่รีบ หนูว่าพอเราใช้ชีวิตไปด้วยกันสักพักมันจะเห็นเองว่าเราพร้อม ณ ตอนไหน ก็น่าจะเวลานั้นเอง”

“ปล่อยให้มันเป็นตามธรรมชาติแล้วกัน”

“คือพี่นิกกี้เนี่ย เค้าจะเป็นคน 0 กับ 100 เวลาเค้าอารมณ์ร้อน เค้าจะดีดขึ้นไปเลย หนูก็ไม่ยอมคนเหมือนกัน มันก็เลยเหมือนร้อนชนร้อน พอเราคุยกันเคลียร์กันได้มันก็เลยจบ”

“เค้าชอบ พี่โฟร์เป็นคนน่ารัก เค้าจะบอกว่าเค้าไม่ได้ชอบเลย แต่พี่โฟร์ชอบเค้า แต่สิ่งที่หนูเห็นในเทปเค้าคือโกหก เค้าชอบ และพี่โฟร์เป็นคนน่ารักมากๆ แต่หนูไม่ได้มีปัญหาอะไร หนูรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิที่จะชื่นชมคนในรูปแบบของตัวเอง”

“หนูว่าหนูมีความขี้หึงแต่ไม่ได้แสดงออกไปมาก แต่ถ้าถึงจุด ก็จะเป็นคนละเรื่องไป แต่เค้าไม่เคยทำตัวให้เรารู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่คุยกันมา”

“หนูว่าเกรงใจกัน เพราะหนูให้อิสระเค้าเยอะมาก อยากทำอะไรทำ ลุย เมื่อเค้าเกรงใจเรา เราเกรงใจกันมันเลยโอเค”

“เราก็มีแซว คนนี้ใช่ทางมั้ย จริงๆแฟนเราชอบใครเราจะรู้นะ ถ้าไม่ใช่ทางเราก็จะชิลเลย ถ้าใช่ เราจะพูดว่าเค้าเป็นใครอะ คือเห็นตาก็รู้แล้ว หนูจะไม่ได้ถามว่าทำไม แต่จะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มาเป็นเพื่อนกันหน่อย เรามารวมเป็นหนึ่งเดียวดีกว่า”

“ตามที่บอกไป เราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นเกิดการรอมชอมมาหลายรอบ การวิจารณ์มันต้องมีขอบเขตซึ่งกันและกัน วันที่เราเลือกทำแบบนี้ หลายคนบอกว่าเราเป็นคนในพื้นที่สื่อเราควรจะรับได้ แต่เราว่ามันควรมีขอบเขตของคำวิจารณ์ โมเมนต์ที่หนูเห็นอาจจะไม่เป็นใจ แต่แม่หนูที่เคยเส้นเลือดในสมองแตกอ่านอยู่ที่คนด่าลูก หนูเลยรู้สึกว่าคนเราควรมีเส้นนั้น หนูไม่ได้อยากทำร้ายกัน แต่รู้สึกว่าเค้าควรรับผิดชอบในคำพูดของเค้าบ้าง ตั้งแต่ที่ทำสิ่งนั้นก็ไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นกับก้อยเลยจนตอนนี้ค่ะ”.