จากหลักฐานคลี่คลายคดีแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตลงแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตมารวม 18 วัน ชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกตและพิรุธมีเงื่อนงำเป็นเหตุฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ กระทั่งอดีตนายตำรวจใหญ่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ปรามจารย์ด้านกฎหมาย ออกมาโพสต์เตือนสติตำรวจอย่าให้นักสืบโซเชียลชี้นำคดีแตงโม-นิดา การสอบสวนไม่ใช่โรงลิเกไม่ต้องทำตามกระแส ขณะที่ทีมพนักงานสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมตรวจเรือสปีดโบ๊ตคันเกิดเหตุอีกรอบนำไปเป็นหลักฐานประชุมลับสรุปคดี นอกจากนี้ยังมีรายงานแจงผลเนื้อเยื่อจากหน่วยงานอีกแห่งระบุว่า บาดแผลที่ต้นขาขวาเกิดก่อนตาย ส่วนบรรยากาศงานพิธีไว้อาลัยดาราสาววันสุดท้ายเป็นไปอย่างโศกเศร้า “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” อดีตสามีแตงโม-นิดา โผเข้ากอด“เบิร์ด เทคนิค” แฟนหนุ่มแตงโม น้ำตาคลอต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี กลุ่มแฟนคลับยังคงนำช่อดอกไม้มาวางที่โป๊ะท่าเรือเพื่อไว้อาลัยแตงโม-นิดา ดาราผู้ล่วงลับ ทำให้ช่อดอกไม้วางกองทับกันพะเนินสูง ด้านนายสุรินทร์ สะและสกุล อายุ 67 ปี ประธานชุมชนพิบูลสงคราม 1 เปิดเผยว่า ในส่วนเรื่องช่อดอกไม้ที่กลุ่มแฟนคลับและประชาชนที่นำมาวางบนโป๊ะท่าเทียบเรือ ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องความสะอาด แต่ประชาชนและแฟนคลับยังทยอยมาร่วมไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานจะมาเก็บกองช่อดอกไม้ออกจากโป๊ะคงทำไปตามหน้าที่ โป๊ะท่าเทียบเรือพิบูลสงคราม 1 ปัจจุบันแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมาก เรือด่วนที่ใช้ในการเดินทางไม่จอดรับส่งผู้โดยสารที่ท่าเรือแห่งนี้แล้ว จะมีเพียงแต่เรือหางยาวที่รับส่งผู้โดยสารข้ามฟากเท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อคนในชุมชน

นางสุเนตรตรา สุขะเกษ อายุ 69 ปี แฟนคลับแตงโม เปิดเผยว่า เดินทางมาจากเขตบางกอกใหญ่ ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสมาร่วมวางช่อดอกไม้ เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่อนุญาตให้วางช่อดอกไม้เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้าย รีบออกจากบ้านเดินทางมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อวางช่อดอกไม้ไว้อาลัย ที่ผ่านมาชื่นชอบในผลงานการแสดงตั้งแต่แตงโมเริ่มเข้าวงการบันเทิง และติดตามข่าวการเสียชีวิตของดาราสาวตั้งแต่วันเกิดเหตุ ส่วนตัวคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าปกติ

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอำนาจ สอนหมวก ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานนทบุรี พร้อมด้วยนายวรวุฒิ ศรีนนท์ สมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรีเขต 1 นายสมัชญ์ จรเสมอ สมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรีเขต 1 และนางบุบผา ขาวสิริ หัวหน้าฝ่ายบริการและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครนนทบุรี นำเจ้าหน้าที่เดินทางมาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 นายอำนาจกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เจ้าท่าและเทศบาลนครนนทบุรี จะเก็บช่อดอกไม้ที่อยู่บนโป๊ะเทียบเรือออกทั้งหมด จะคัดแยกดอกไม้นับพันช่อที่วางอยู่เลือกเฉพาะช่อดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งนำไปทิ้ง ส่วนช่อดอกไม้ที่ยังสดอยู่จะย้ายนำมาไว้บนศาลาท่าน้ำเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้นำไปทิ้งทั้งหมดและกลุ่มแฟนคลับที่รักอยากมาวางดอกไม้ เพื่อแสดงความไว้อาลัยยังสามารถเดินทางมาวางได้เป็นปกติ เป็นการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยเท่านั้น เนื่องจากโป๊ะท่าเทียบเรือยังมีประชาชนบางส่วนใช้ลงเรือเดินทางข้ามฟาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้ปริมาณช่อดอกไม้ที่มีแฟนคลับนำมาวางในแต่ละวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเต็มพื้นโป๊ะ ทำให้กีดขวางทางเดินอาจเกิดเป็นอันตรายกับผู้โดยสารที่ลงเรือได้และต่อตัวผู้ที่มาวางดอกไม้ เจ้าหน้าที่จะนำป้ายมาติดตั้งกำหนดจุดบอกให้ประชาชนและแฟนคลับนำมาวางบนศาลาพักผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย

นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความในคดีการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา เปิดเผยว่า หลังเสร็จงานพิธีไว้อาลัยแตงโม-นิดาวันสุดท้าย ที่โบสถ์คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพแล้ว ตนนำหนังสือคำร้องขอชันสูตรศพแตงโมเป็นครั้งที่ 2 ยื่นต่อว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ที่บ้านพักในช่วงเวลา 21.30 น. ระบุประเด็นสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงผลการชันสูตรร่างกายจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ท่านเลขาฯ รมว.ยุติธรรม รับปากว่าจะดูแลให้ความเป็นธรรมในประเด็นที่ครอบครัวดาราสาวยังติดใจสงสัย

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ไปออกรายการโหนกระแสให้สัมภาษณ์ในช่วงหนึ่งว่ากระทรวงยุติธรรมสามารถดำเนินการ 3 ส่วนคือ เรื่องแรกเงินเยียวยาโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำเนินการตั้งแต่ที่แตงโมเสียแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเยียวยา เรื่องที่ 2 ญาติมายื่นขอให้ผ่าชันสูตรศพอีกครั้ง หลังพบหลักฐานบาดแผลต้องสงสัยให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการ และเรื่องที่ 3 หากมีความประสงค์จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาช่วยร่วมสืบสวนสอบสวนด้วย จะกระทำได้ แต่ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างทำงานอยู่ ภายหลังทนายยื่นเรื่องไว้แล้วจะส่งเรื่องไปถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ตนเป็นประธานคณะกรรมการทำงานเรื่องนี้

ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม มอบหมายให้ทนายเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ผ่าชันสูตรซ้ำร่างของแตงโมเพื่อพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัยว่าตามกฎหมายอนุญาตให้ตรวจพิสูจน์ซ้ำได้ ต้องดูจากสภาพศพในขณะที่ส่งมาว่าจะตรวจชิ้นส่วนใด สภาพภายนอกร่างกายหรือเนื้อเยื่อ หรือสภาพกะโหลกศีรษะหากมีรอยร้าวตรวจอย่างไรก็พบ ทั้งหมดนี้จะต้องดูว่าญาติยังมีความข้องใจในประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ตามทราบว่า ขณะนี้ญาติมอบหมายให้ทนายยื่นหนังสือผ่านมาทางเลขาฯ รมว.ยุติธรรมแล้ว หากสถาบันรับหนังสือทางญาติอาจจะส่งศพมายังสถาบัน เพื่อให้ตรวจพิสูจน์ ก่อนหน้านี้แพทย์นิติเวชฯของสถาบันเข้าชันสูตรศพในที่เกิดเหตุและถ่ายภาพไว้ตั้งแต่ช่วงแรกแล้ว

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวอีกว่า ตามปกติพื้นที่การชันสูตรศพที่เกิดเหตุใน จ.นนทบุรี จะต้องส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์มีแพทย์นิติเวชของสถาบันผ่าพิสูจน์ แต่บางกรณีขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ตามปกติแพทย์ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุจะทำการตรวจสอบในเบื้องต้น ตามกฎหมายหากพนักงานสอบสวนสงสัยเขาต้องส่งผ่าศพ แยกธาตุ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พนักงานสอบสวนจะส่งไปที่ใดไม่สามารถบังคับได้ แต่จริงๆแล้วต้องส่งมาที่สถาบัน แต่เนื่องจากกรณีผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และมีประชาชนให้ความสนใจจึงส่งไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อสะดวกติดตามความคืบหน้าของผลชันสูตร

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากรับร่างของผู้เสียชีวิตมาแล้ว จะตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ตามข้อบังคับของราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์กำหนดไว้แล้ว มีไม่น้อยกว่า 3 คน เป็นแพทย์นิติเวชจากหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ และ รพ.ธรรมศาสตร์ และอาจมีผู้สังเกตการณ์เป็นบุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากญาติให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ คาดว่าจะใช้เวลาร่วมตรวจเพียง 1 วัน แต่ยังมีขั้นตอนการตรวจอวัยวะภายใน และตรวจในห้องปฏิบัติการทางเคมีใช้เวลา 30-45 วัน สำหรับกรณีนี้หากแม่แตงโมมีความข้องใจสาเหตุการตายสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ ในขณะที่แพทย์ทำการผ่าชันสูตรได้เพื่อให้สิ้นสงสัย ที่ผ่านมาเคยมีมารดาของผู้เสียชีวิตเข้ามาร่วมสังเกตการณ์แล้ว หรือทางครอบครัวจะตั้งใครมาเข้าร่วมสังเกตการณ์สามารถทำได้ สถาบัน ไม่ขัดข้อง พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าว

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อพิจารณากรณีนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของดาราสาว “แตงโม” ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมให้ กมธ.แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” เชิญ ผบช.ภ.1 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ ผบ.ตร. มาให้ข้อมูล แต่ทั้งหมดขอเลื่อนการมาชี้แจงต่อ กมธ. เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนเรื่องการชันสูตรศพแตงโมก่อน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. และ กมธ.สิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า กรณีที่มารดาของแตงโมจะขออายัดศพเพื่อชันสูตรรอบสองนั้นทราบว่าจะไปยื่นเรื่องต่อสถาบันนิติเวชในวันที่ 14 มี.ค.นี้ จะร่วมไปในนามของ กมธ. เพื่อไปร่วมดูและฟังการตอบคำถาม เช่น แผลที่ขา หากยังมีประเด็นข้อสงสัยควรชันสูตรศพใหม่ ถือเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนตัวจะไม่ลงไปเป็นผู้ผ่าชันสูตรศพเอง เพราะไม่อยู่ในฐานะที่ทำได้ แต่สามารถให้คำปรึกษา ตราบใดที่ยังมีลมหายใจจะขับเคลื่อนให้เปลี่ยนแปลงเชิงระบบให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลชันสูตรเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ระบุว่าบาดแผลที่ขาเกิดก่อนเสียชีวิต บ่งชี้อะไรได้บ้าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า อยากให้ดูที่ต้นตอข่าวว่าใครเป็นผู้ให้ข่าว ผู้ผ่าศพหรือผู้ตรวจชิ้นเนื้อในประเทศไทย หากต้องการตรวจชิ้นเนื้อ ผู้ผ่าศพจะเป็นคนแรกที่เป็นผู้เลือกชิ้นเนื้อแล้วส่งไปที่พยาธิแพทย์จะระบุเพียงว่า เลือดพบการอักเสบ จากนั้นหมอจะนำมาบอกว่าแผลเกิดก่อนเสียชีวิต ขณะที่หมอผ่าศพต้องรู้ว่าแผลนี้ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่จึงพูดว่าแผลนี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต ดังนั้นแพทย์ที่ตรวจชิ้นเนื้อไม่น่าจะให้ผลชันสูตรนี้ แปลได้ว่าแผลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต เป็นคำถามที่เคยถามว่าแผลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือเกิดตอนอยู่ในน้ำเป็นเรื่องยาก คดีนี้ไม่ยากอยู่ที่รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน ถูกต้อง ทันเวลาหรือไม่ การบอกว่าแผลเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกน้ำ ไม่ได้อยู่ที่ศพ แต่อยู่ที่เกิดเหตุ คือนิติวิทยาศาสตร์ เรือ และบุคคลทั้ง 5 คน การให้ชันสูตรรอบสองถือว่าชัดเจน เพราะแผลจะตอบได้ว่าเกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือในน้ำ กรณีหนึ่งสาธิตให้เห็นแล้วคือ การจำลองด้วยเรือว่าเรือที่มีความเร็วและแตงโมหล่นท้ายเรือแบบที่คิดว่าไปนั่งฉี่ ตัวจะกระเด็นออกไปไม่โดนอะไรเลย เป็นนิติวิทยาศาสตร์อีกสาขาหนึ่งที่นำมาประกอบในการสรุป

พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า มีข้อแนะนำคือการตรวจกระดูกบริเวณที่วัตถุไปโดน สามารถนำท่อนกระดูกไปตรวจด้วยกล้องของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับโลหะหรือใบพัด รวมทั้งขวดและแก้วไวน์ด้วย อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านมาหลายวันทำให้สภาพศพเกิดปัญหา เชื่อว่า การผ่าชันสูตรครั้งแรก ตอบไปได้มากแล้ว แต่ถ้านำมา ชันสูตรรอบ 2 แล้วสมมติถามว่า แตงโมมีแอลกอฮอล์หรือไม่ รับรองว่าตรวจไม่ได้ การตรวจรอบ 2 จะช่วยได้ ในช่วงบริเวณกระดูกรอยตัด ในวันที่ 16 มี.ค.จะเข้าไปดูเรื่องนี้กับครอบครัวแตงโมว่าตอบได้หมดหรือไม่ หากพบว่าตอบอะไรไม่ได้ จะไปถามในการชันสูตรครั้งที่ 2 คดีนี้ถือว่าแปลกแต่ต้น เพราะไม่ใช่วิถีที่จะทำให้เกิดความกระจ่างคือ การไม่เก็บหลักฐานของคนทั้ง 5 คนและเรือทันที เรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาขัดกับหลักนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องฟันหักเป็นเรื่องที่นิติเวชจะต้องตอบ

ต่อมาเวลา 13.30 น.นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงว่า ที่ประชุมมีมติให้ กมธ.เข้าตรวจสอบคดีแตงโมเพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ร้องเรียนซ้ำกับ กมธ.อื่น กมธ.ตรวจสอบตรงไปตรงมา ในวันที่ 21 มี.ค.จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐานมาให้ข้อมูล ยืนยัน กมธ.ไม่แทรกแซงการทำงานของตำรวจ วางกรอบการทำงานไว้ 1 เดือน เป็นการตั้ง กมธ.เต็มคณะ ประชุมทุกวันจันทร์ หากมีประเด็นใดที่ กมธ.ต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบจะมอบให้ตนและ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายคำนูณ สิทธิสมาน กมธ.ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพิสูจน์ศพรอบ 2 การตรวจกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานพระราม 7 เป็นต้น โดยเฉพาะการพิสูจน์ศพรอบ 2 จะให้ พญ. คุณหญิงพรทิพย์ไปเป็นผู้สังเกตการณ์ผ่าศพ และให้ข้อสังเกตต่างๆ กมธ.จะดูเฉพาะพยานหลักฐานที่มีความชัดเจน แต่อะไรที่เป็นเรื่องมโนตามโซเชียล คงไม่เก็บมาเป็นประเด็น เรื่องนี้ต้องยุติด้วยความเป็นจริง พิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทีมทนายความ เดินทางมาตามคำเชิญของพนักงานสอบสวน ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนและแพทย์นิติเวช เพื่อฟังผลการชันสูตร จะซักถามร่องรอยบาดแผลตามที่คุณแม่แตงโมสงสัย ทั้งส่วนของศีรษะ บาดแผลที่ขา และรายละเอียดผลการชันสูตรบาดแผลวันนี้จะต้องดูว่าพิสูจน์เจตนาอื่นๆได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาประมาท ต้องดูว่าบาดแผลร่องรอยจะทำให้ไปถึงข้อหาเจตนาได้หรือไม่ นอกจากจะฟังรายละเอียดรายงานผลการชันสูตรแล้ว จะต้องให้มีการอธิบายภาพศพประกอบด้วย ทั้งนี้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ฐานะอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จะเดินทางมาดูรายละเอียดผลการชันสูตรศพในวันที่ 16 มี.ค. หากหมอพรทิพย์มีความเห็นต่างจากความเห็นของทีมแพทย์นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ สามารถที่จะดูร่างของแตงโม ส่วนการผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 ประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเวลา 18.15 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม-นิดา พร้อมทีมทนายความให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับฟังการชี้แจงผลชันสูตรศพแตงโม-นิดาของทีมแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจนานเกือบ 3 ชั่วโมง นางภนิดากล่าวว่า หลังฟังคำชี้แจงมีความเชื่อมั่นในตำรวจและรู้สึกสบายใจมากขึ้น ไม่คาใจประเด็นชันสูตรแล้ว แต่ยังติดใจเรื่องคำให้การของคนทั้ง 5 คนบนเรือ โดยเฉพาะกระติกเพราะที่ผ่านมาโกหก ตำรวจต้องเรียกทั้ง 5 คนมาสอบปากคำอีก

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความที่ปรึกษา กล่าวว่า ส่วนของนิติเวช แพทย์ตอบทุกคำถามแล้ว โดยเฉพาะประเด็นฟันหัก การถูกตีที่ศีรษะ บาดแผลต่างๆ ไม่พบร่องรอยฟันหัก ไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย บาดแผลที่ขาไม่ลึกไปถึงกระดูกแต่ลึกถึงเพียงเส้นเอ็นเกิดจากของมีคม แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสิ่งใด เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่ไม่สามารถระบุว่าเกิดบนเรือหรือหลังตกเรือ ส่วนการเน่าเปื่อย ตาถลน ลิ้นจุกปากเป็นไปตามปกติ

นายเดชากล่าวอีกว่า ส่วนการสืบสวนสอบสวน คณะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชี้แจงสอบปากคำพยานไปร่วม 100 ปาก กล้องวงจรปิดอีกจำนวนมากและคลิปต่างๆ ในโซเชียล ตำรวจตรวจสอบทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นคลิปวงจรปิดที่บอกว่ามีการดึงผมหรือตีศีรษะกันบนเรือ เป็นวงจรปิดหลังจากแตงโมตกเรือไปแล้วไม่ใช่ความจริง คลิปทั้งหมดตำรวจเตรียมนำไปใช้เทคนิคเพิ่มความคมชัด เพื่อให้หลักฐานมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ภาพศพที่หลุดรอดออกไปทางโซเชียล เป็นภาพขณะที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดศพ ทำให้มีเศษต่างๆ ติดตามร่างกาย คล้ายรอยฟกช้ำ หรือบาดแผลต่างๆ แต่ในกระบวนการชันสูตรแพทย์ทำความสะอาดและลอกผิวหนังบางส่วนออก จะทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่มีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายตามที่มีประเด็นดราม่าในโซเชียล ดังนั้นข่าวที่แชร์กันไม่เป็นความจริง

“ขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการรอผลนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐานอีกกว่า 19 รายการ และหากมีพยานหลักฐานไปถึงใครบนเรือจะแจ้งข้อหาเพิ่ม ปัจจุบันยังไม่สรุปคดี ตำรวจชี้แจงว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือแล้ว และไม่ได้เชื่อปากคำของบุคคลบนเรือทั้งหมด แต่เน้นพยานหลักฐาน ยังไม่มีประเด็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ส่วนประเด็นเรื่องการนั่งปัสสาวะนั้น ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวน อย่างไรก็ตาม แม่แตงโมยังจะเดินหน้ายื่นเรื่องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ชันสูตรศพรอบ 2 เพื่อความโปร่งใส และไขข้อข้องใจของสังคม หากผลตรงกันก็ไม่มีปัญหา แต่หากไม่ตรงกันขึ้นอยู่กับว่าศาลจะพิจารณาผลตรวจของที่ใด” นายเดชากล่าว

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีของแตงโม กรณีที่ผลตรวจสารเสพติดออกมาแค่ 3 คน ขาดไป 2 คน นายรณณรงค์กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่บนเรือมีความสนิทชิดเชื้อกับผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ถึงสามารถเลี่ยงไม่ตรวจสารเสพติด หากมีเหตุที่อ้างไม่ตรวจอยากจะทราบว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายใด และ เจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้ดุลพินิจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 หรือไม่ หรือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีข้อกฎหมายเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติได้ หากพบว่ามีการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป หรือถ้ากฎหมายมีช่องว่างก็ขอให้มีข้อเสนอแนะไปยังสภาฯ ให้แก้ไขกฎหมาย ส่วนที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ไม่ให้ทำ ตามกระแสโซเชียล พล.ต.ท.อำนวยต้องดูว่าตำรวจไม่อายัดเรือ ไม่ตรวจสอบร่างกาย สารเสพติด ทำไมไม่ออกมาด่า แต่พอสังคมตั้งคำถามทำไมออกมาด่าสังคม ถ้าตำรวจทำครบถ้วนวันนี้คดีก็ปิด