เริ่มจาก ถามถึงความสัมพันธ์ของเป้ยกับแตงโม? “ที่เป้ยจำได้ เกินกว่า 15 ปีค่ะ จะมียุคนึงที่มีงานอีเวนต์บ่อยๆทุกอาทิตย์ เป้ยกับโมจะเจอกันตามงานทุกอาทิตย์ เม้าท์กันบ่อยมาก พอเป้ยแต่งงานมีลูก เวลาเจอกันทีไร โมก็จะบอกว่าขอไปเล่นกับน้องโปรดที่บ้านหน่อย ไปเล่นที่บ้านได้มั้ย นั่นคือความน่ารักของเค้า ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เราก็ห่วงใย และเป็นกำลังใจให้กันตลอดเวลา”

เลยเป็นเหตุผลที่เราอยากมาสานต่อด้วยความเป็นเพื่อน? “โมตั้งใจกับเรื่องนี้มาก และโมเต็มที่กับเรื่องนี้มาก ในใจเป้ยถ้าเป้ยอยากให้ของขวัญอะไรโมซักอย่าง เป้ยว่าสิ่งนี้เป็นของขวัญให้โมได้ บอกตามตรงค่ะ ว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเป้ย กับการที่ต้องมาสานต่อหน้าที่นี้ ตอนที่ผู้ใหญ่ทางช่องติดต่อมาว่าเป็นละครที่โมได้ทำไว้แต่ยังทำไม่จบ พอเราทราบแบบนั้น ในใจเป้ยก็บอกตัวเองไป 70% แล้วว่า “ชั้นจะเล่น” ก็ขนลุกนะ ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะนึกถึง แต่เป้ยยังไม่กล้าตอบคอนเฟิร์มผู้ใหญ่ เพราะต้องกลับมาพิจารณาตัวเองก่อน อยากได้บทมาเพื่อทำการบ้านก่อน ว่าเราจะทำได้มั้ย กลัวเหลือเกินว่าจะทำไม่ดีเท่าโม เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องคาดหวัง จึงขอเวลาทำการบ้าน รีบอ่านบท รีบโทร.หาผู้กำกับ ว่าจะต้องทำยังไงให้คนเห็นความแตกต่างจากเรื่องที่แล้วคือเรื่องวานวาสนา เพราะคาแรกเตอร์ของตัวละครค่อนข้างใกล้เคียงกัน และจะทำยังไงให้โมมองมาแล้วแฮปปี้ ยอมรับว่ากดดันตัวเองมาก เพราะเราไม่เคยต้องมายืนในจุดนี้มาก่อน แต่สุดท้ายเป้ยกลับมาถามตัวเองว่า ต้องการทำเพื่ออะไร? คำตอบก็ออกมาว่า “ต้องการทำเพื่อโม” พอคำนี้เกิดขึ้นมาในหัว เราก็พร้อมจะเดินหน้าทำให้ดีที่สุด จึงกลับไปคอนเฟิร์มทีมงานว่าเราตัดสินใจรับเล่น เป้ยจะสานต่องานของโมในครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งที่เพื่อนจะทำให้เพื่อน การกลับมาเรื่องนี้เป้ยเชื่อว่าเค้าตั้งใจเต็มที่ เป้ยพอจะรู้อยู่แล้ว”

จากนั้น เมื่อ “เป้ย” ได้เห็นแชตข้อความที่แตงโม คุยกับทีมงานเบื้องหลัง ถึงความตั้งใจและความละเอียดของเธอกับบทบาทนี้ ก็ทำเอาเป้ย ร่ำไห้น้ำตาพรั่งพรู พูดออกมาว่า “เค้าน่าจะอยู่ตรงนี้ เค้าน่าจะเป็นคนที่ได้ทำมัน” และเผยต่อว่า “ตอนได้บทมาแรกๆเป้ยแทบไม่กล้าจับ
มันเลย มันกังวล เรากดดันตัวเองมากด้วยละครเรื่องนี้เป้ยคิดว่าเป้ยจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพื่อโม เป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้กับโม”

ถ้าวันนี้โมอยู่ตรงนี้และได้ยินสิ่งที่เป้ยพูด อยากบอกอะไรเพื่อนคนนี้? “โมให้กำลังใจเป้ยด้วยนะ ให้ทำมันออกมาได้ดี ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ มองลงมาแล้วยิ้มได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด สุดท้ายก็อยากบอกกับคนที่รักโมและแฟนๆทุกคนว่า เป้ยตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้มองว่าเรามาเล่นแทนโม แต่อยากให้มองว่าเป็นการมาเล่นเพื่อโมมากกว่า เพื่อที่เค้าจะได้ไม่ต้องกังวลอะไร เวลาที่โมมองมาจากฟ้า เค้าจะได้ดีใจ เป้ยจะทำให้ดีที่สุดเพื่อโม และถ้าวันนี้โมได้ยินในสิ่งที่เป้ยพูดก็อยากจะบอกกับโมว่า…โมไม่ต้องห่วงนะ เป้ยจะทำให้สุดความสามารถ”.