เป้ย เข้าฉากเล่นละครให้ แตงโม ถึงกับร้องไห้ หวังให้ความจริงปรากฎ


ให้คะแนน


แชร์

ล่าสุด ได้มีการเปิดให้สัมภาษณ์ เป้ย ปานวาด ที่มารับเล่นเรื่องนี้พร้อมกับเผยถึงความรู้สึกที่เข้าฉากละครเรื่องนี้ครั้งแรกให้ได้ฟัง ณ บ้านปลายนา ซึ่งเป้ยได้เล่าว่า 

ณ วันที่ผู้ใหญ่ติดต่อมา แพลนของเป้ยหลังจากจบละครเรื่องล่าสุดที่จบไปที่เป้ยกลับมาเล่นละครอีกครั้ง ตั้งใจว่าจะพักก่อน จะอยู่กับลูกก่อนและอยู่ในช่วงระหว่างดูบทด้วย ก็คิดว่าจะกลับมารับละครอีกทีช่วงพฤษภาคมเป็นต้นไป

แต่ผู้ใหญ่โทร.มาเรื่องนี้ ตอนนั้นก็ 70% แหละ เราก็มีในใจอยู่แล้วว่าเราน่าจะเล่น แต่ก็ไม่ได้แจ้งผู้ใหญ่ไปเพราะว่าอยากจะขอดูบทก่อนเพราะว่าสามารถเล่นได้มั้ย ขอทำการบ้านก่อนที่จะรับปาก

เพราะถ้าอยู่ๆ เรารับปากไปเลยแล้วเราทำไม่ได้ มันก็คงไม่ดีเท่าไรกับการที่จะมาสานต่อแทนโม ก็เลยขอผู้ใหญ่ว่าขอทำการบ้านก่อนที่จะให้คำตอบดีกว่าค่ะ

แล้วพอทำการบ้านแล้ว ได้อ่านบทแล้ว ก็ต้องมานั่งคุยเรื่องคาแรกเตอร์กับผู้ใหญ่ กับผู้กำกับด้วยว่าจะต้องเล่นออกมาในรูปแบบไหน เพราะว่ามันค่อนข้างจะใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ที่จบไปจากเรื่องที่แล้ว ก็จะต้องเล่นยังไงให้แตกต่าง ก็ต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะ

อยากสานต่อความตั้งใจของแตงโมทุกอย่าง?

คือก่อนหน้านี้เป้ยต้องบอกตรงๆ ว่า เป้ยก็มีการคุยกับผู้ใหญ่อยู่แล้วเบื้องต้น คือเป้ยกับโมกลับมาในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกันมาก โมห่างหายจากการเล่นละครไป 2 ปี ส่วนเป้ยก็ 10 ปี

ในช่วงระหว่างที่รับละครมันเป็นช่วงที่ใกล้กันเลย ก็เลยถามผู้ใหญ่ว่าโมเป็นยังไงบ้าง ก็ฝากส่งกำลังใจ และเป้ยได้อ่านข้อความที่โมส่งหาผู้ใหญ่

ความรู้สึกเหมือนเราที่ก่อนจะเปิดกล้องเรื่องที่แล้ว ก็เลยรู้สึกถึงความตั้งใจของโม ที่วางคาแรกเตอร์ของบทที่อยากให้เป็นแบบนี้ พอเรามาสานต่อก็อยากตั้งใจทำให้เหมือนที่โมวางไว้ก็คือเล็บแดง ปากแดง

เพื่อที่คนดูจะได้เพิ่มความอิน ผมก็เป็นสีเข้ม เป้ยก็มีไปตัดผมและย้อมสีผมให้เข้มขึ้น จริงๆ ก่อนที่รับปากจะเล่นตอนที่เห็นบทก็นึกถึงโม ก็นึกในใจขออนุญาตเขาก่อน ถ้าอนุญาตให้เล่นก็ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ก็คิดในใจแบบนั้นไป

พอได้มาเล่นก็ฉากแรกที่เข้าไปวันก่อน น้ำตาไหลเลยหลังเล่นเสร็จ มันมีความรู้สึกกังวลหลายๆ อย่าง กดดันหลายๆ อย่าง คือเรากดดันตัวเราเองนะ สภาพแวดล้อมพี่ๆ ทีมงานทุกคนให้กำลังใจเราดีมาก

แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างพอเราอยู่จุดนี้มันเป็น ความเบื้องหลังมีความคิดที่ต่อสู้กับเรา มีคำถามว่าเราจะเล่นได้มั้ย มีความกังวล มีความกลัวไปทุกอย่าง จะทำได้ดีหรือเปล่า คนจะให้โอกาสเรามั้ย

ความกังวลนั้นมันเลยกดดันแล้วทำให้เป้ยค่อนข้างเครียดในการทำการบ้าน เล่นฉากแรกออกมาก็น้ำตาไหลเลย แต่พอถ่ายไปแล้วเรารู้สึกว่ามันต้องไม่ใช่แบบนี้ดิ เป็นต้องไม่กดดันตัวเอง

เรารีบมาคุยกับตัวเองเลย วันแรกที่เรารับที่เรามีคำตอบแล้วว่าอยากเล่น 70% คืออะไร เราตั้งใจจะทำให้โมไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับกลายมาเป็นกดดันตัวเองแบบนี้ มันไม่ดีเลย

มันทำให้เราเล่นไม่ดี ก็เลยต้องเปลี่ยนความคิดว่าจะต้องมีความสุขที่ได้ทำให้โมมากกว่ากดดันแล้วทำให้ตัวเองเครียด ก็ต้องรีบเปลี่ยนความคิด โชคดีอย่างที่บอกทีมงานทุกคนรวมถึงนักแสดงทุกคนให้กำลังใจ ก็เลยดีขึ้น

ตอนได้บทวันแรกไม่กล้าจับเลย เราอาจจะคิดเยอะด้วยแหละ แต่ว่าระยะเวลาทำให้ดีขึ้นและความตั้งใจ พอเราจับจุดเราได้แล้วว่าเราเริ่มเครียด เริ่มกดดัน คนรอบข้าง สามี ลูก บอกทำไมดูเครียดกว่ากลับมาเล่นละครเรื่องล่าสุด

กลายเป็นว่าเรื่องดูเครียด พอมีคนรอบข้างเริ่มทัก เราก็คิดว่าไม่ได้ๆ เรารู้ว่าภายใต้การแสดงถ้าเรามีความเครียดหรืออะไรสักอย่างมันจะทำให้ผลงานออกมาไม่ดี

สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้โมก็จะกลายเป็นว่าทำไมไม่ได้ และทำได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นเราต้องรีบปรับตัวเองให้ได้ทันที เป้ยก็บอกคนอื่นว่าพอมายืนอยู่จุดนี้ บอกตรงๆ ว่ามันก็ยากที่จะทำยังไงให้มันได้ดี และเต็มที่อย่างที่เราตั้งใจไว้

เป้ยเคยบอกตั้งใจมาเล่น ไม่ได้มาเล่นแทน?

ใช่ค่ะ ความคิดของเป้ยไม่อยากให้คนมองว่ามาเล่นแทน แต่ให้มองว่าเป็นการเล่นให้ หรือเป็นการมาเล่นเพื่อโม มาสานต่อสิ่งที่โมทำค้างไว้ให้สำเร็จไปได้ด้วยดี

เพราะเป้ยเห็นความตั้งใจของโม คงไม่สบายใจแน่ๆ ถ้าสิ่งอะไรที่เรายังทำค้างไว้อยู่ ไม่อยากให้โมต้องเป็นห่วงตรงนี้ จะทำให้ดีที่สุด

ความกดดันก็ลดลงแล้ว คือต้องรีบเปลี่ยน ซีนแรกเรารู้แล้วว่าไม่ได้นะ เราก็รีบเตือนตัวเองเพราะไม่อย่างนั้นมันจะกลายออกมาเป็นว่าสองสามสี่มันจะไม่ดีขึ้นเรื่อย

เราจะมารับช่วงต่อ มาช่วยสานต่อตรงนี้ทำไม อย่างนี้ให้คนอื่นเล่นไม่ดีกว่าเหรอ ก็ต้องเตือนตัวเอง ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนให้กำลังใจ หลังจากวันนั้นเข้าฉากเดียว ตงตง ก็ส่งข้อความมาหา สู้ไปด้วยกัน เราก็ดีใจ

ได้อ่านฟีดแบ็กจากแฟนๆ มั้ย?

มีเพื่อนมาบอกบ้างเหมือนกัน คือเราดูเฉพาะไอจีเราเท่านั้นเอง

กำลังใจเยอะมาก?

ต้องขอบคุณ เป้ยเข้าใจว่าคนที่รักหรือว่าคนที่เป็นแฟนคลับแตงโมก็จะเฝ้ารอติดตามว่าจะต้องเป็นยังไงต่อไป เป้ยก็ขออนุญาตเป็นคนที่มาสานต่อตรงนี้แทนโม ขออนุญาตแล้วกันค่ะ (ยิ้ม)

มีความรู้สึกว่าเพื่อนมาหามั้ย?

เป้ยไม่รู้ว่าเป้ยคิดไปเองหรือเปล่า คือตรงนี้เป้ยก็ไม่อยากจะแตะค่ะ เอาเป็นว่าเรารับรู้ได้ถึงสัญญาณที่มันดี ความรู้สึกที่มันดี อันนี้ขออนุญาตเก็บไว้ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะดูอะไรนิดนึง

ก่อนหน้านี้มีไปวางดอกไม้?

ค่ะ ก็เล่าให้คุณแม่ฟัง ไปทำบุญให้ที่เราทำได้ อย่างเป็นศาสนาอิสลามก็ทำในรูปแบบของเป้ย และยังมีแพลนอีกหลายๆ แพลนที่เราจะทำให้โมได้รับค่ะ

จริงๆ เดี๋ยวก็มีการส่งข้อความไปหาแอนนาถามเรื่องอาหารของแมว เหมือนว่าถ้าทำอะไรได้เราก็อยากจะทำ ในฐานะเพื่อนร่วมวงการคนนึงและเราก็มาทำตรงนี้ต่อด้วยค่ะ

เราพยายามคิดว่าโมน่าจะเป็นห่วงอะไรบ้าง คือหลายอย่างก็มีคุย มีคุยกับทีมงานก็มีเหมือนกัน แต่ก็ต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะไปทำอะไร ก่อนหน้ามีเป้ยกับเพื่อนก็บริจาคถุงห่อศพ ก็ช่วยกันๆ

เป้ยกับโมก็ค่อนข้างผูกพัน เข้าวงการมาไล่ๆ กัน?

เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมวงการที่อยู่ในช่วงสิบกว่าปีที่แล้วที่มีอีเวนต์เยอะ ก็จะเจอโมตลอด ก็จะพูดคุยกัน นิสัยเราคล้ายๆ กัน อารมณ์แบบช่างแต่งหน้าจะกลัวนิดนึง สองคนนี้มารวมกัน

พี่ๆ เขาก็จะบอกว่าสองคนนี้รวมตัวกันไม่ได้ๆ (ยิ้ม) พอเป้ยห่างจากวงการ เราก็เจอกันตามห้าง โมก็บอกอยากมาเล่นกับน้องโปรดที่บ้าน ก็ยังไม่ได้มา

ยังมีความน่ารักให้กันตลอดแม้ไม่ค่อยได้เจอกัน?

คือเราเป็นลักษณะเพื่อนร่วมงานมากกว่า แต่ว่าพอมีอะไรอย่างเป้ยมีปัญหา โมก็จะส่งข้อความมาประมาณนี้มากกว่า แต่ไม่ได้ถึงขนาดไปกินไปเที่ยว

ตอนนี้ภาวนาตลอดเวลาขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับโม ก็ลุ้นตลอดเวลา ก็คุยกับทีมงานทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย เราก็มีความรู้สึกลูกผู้หญิงเหมือนกัน

ทำไมในช่วงชีวิตของโมก็เจออะไรเยอะแยะมากมาย โห มันค่อนข้างจะโหดร้ายสำหรับโมเหมือนกัน ก็นั่งคิดทำไมโลกช่างไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบโมเลย

ตอนอยู่ก็ใจร้ายแล้ว ตอนไปก็ใจร้ายอีก ก็แค่คิดอย่างนี้ในฐานะคนคนนึงที่รู้จักกับเขา แล้วเวลาเขาเจอปัญหาเราก็คอยส่งกำลังใจให้ตลอดเวลา เลยภาวนาว่าอยากให้มีความยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับโมค่ะ

อยากให้ความจริงปรากฏ?

หวังทุกวันดูข่าวทุกวัน

ฝากผลงานละครเรื่องนี้?
เป้ยขออนุญาตมาสานต่อตรงนี้แทนโมและเป้ยสัญญาว่าจะให้ดีที่สุดเท่าที่เป้ยจะทำได้ค่ะ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2349075
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2349075