งานนี้แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา เพราะต่างมีรางวัลการันตีในสายงานที่ตัวเองเคยผ่านมาก่อน เริ่มกันที่ นนน กรภัทร์ ที่นอกจากจะโด่งดังจากซีรีส์ The Gifted : Graduation แล้ว ในเรื่องนี้นนนยังสามารถคว้ารางวัล นักแสดงยอดนิยม จากเวที สยาม ซีรีส์ อะวอร์ดส ครั้งที่ 1 ด้วย

ขณะที่ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ นักแสดงนำจากภาพยนตร์ ดิวไปด้วยกันนะ สามารถคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเวทีสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 29 และ ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 28

ถึงแม้จะมีรางวัลการันตีมาแล้วทั้งคู่ แต่การที่ 2 หนุ่ม 2 นน โคจรมาเจอกันได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะทั้งคู่ผ่านมาแคสติ้งจาก 2 ผู้กำกับ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่ มาร์ค เลิศศิริ บุญมี และ เอ็ด วุฒิชัย วงศ์นภดล ถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้มารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้

นนน กรภัทร์ กล่าวว่า “ในเรื่องผมรับบทเป็นแดน เป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจและพยายาม เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในทางที่เลือก แดนต้องเรียนด้านถ่ายรูปเพื่อหาเลี้ยงชีพ ก็ถูกกดดันจากครอบครัว

เราก็พยายามจะทำเพื่อพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นด้วยวิธีการที่มีทั้งดีและไม่ดี แดนมีความใกล้เคียงกับผมตรงที่มีความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองรัก

ผมเป็นคนที่ไม่ได้ตามมาตรฐานสังคมเหมือนกัน อย่างครอบครัวของผมก็ไม่ได้กดดันนะ แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าอาชีพการแสดงไม่มั่นคง

ช่วงที่ผมพุ่งเป้าอยากเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ ครอบครัวก็จะสนับสนุนเต็มที่ แต่พอผมเปลี่ยนใจมาเรียนนิเทศศาสตร์ ครอบครัวก็จะอ้าว เรียนทำไม ทำงานในวงการนี้เดี๋ยวก็เรียนรู้ได้เอง

ช่วงนั้นก็มี conflict เล็กๆ กับที่บ้าน ผมก็เอาวัตถุดิบประสบการณ์ตรงนี้มาใช้ในหนังเรื่องนี้เหมือนกัน กว่าจะได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ แคสต์เหนื่อยเลยครับ แคสต์ครั้งแรกเพื่อวางคาแรกเตอร์

ครั้งที่ 2 คือจัดเคมี แคสติ้งครั้งที่ 3 ฝ่ายแคสต์จะเอานักแสดงที่เขาคิดว่าเคมีเข้ากันมา 3 คน เพื่อให้ผู้กำกับพิจารณาว่าเซตไหนที่เคมีเข้ากันมากที่สุด

การแคสต์ของเขาใช้เวลานานและหลายครั้ง เหนื่อยระดับหนึ่งเลย ทีมงานนี้ทำงานละเอียดมากกับการแสดงหนัง ผมรู้เลยว่าคนละแนวกับซีรีส์

ถึงจะเป็นการสื่อสารอารมณ์เหมือนกัน แต่เป็นคนละแพลตฟอร์ม หนังจะเน้นฟีลอินเนอร์จากข้างในเยอะ แต่ห้ามปล่อยออกมาเยอะ เพราะจะไม่เนียนครับ”

ศดานนท์ เผยว่า “ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็นเกรทครับ เป็นวัยรุ่นที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เป็นคนเฮฮา ขี้เล่น และมีความรู้สึกบางอย่างกับน้ำ ซึ่งแสดงโดย เฌอปราง อารีย์กุล

ที่ผมตัดสินใจมาแคสต์หนังเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าเรื่องราวน่าสนใจดี คาแรกเตอร์ของเกรทค่อนข้างหลุดจากที่เราเคยแสดงมา มีความฮาๆ เป็นหนังผีที่แปลกใหม่ มีความเป็นแฟนตาซี ก็เลยคิดว่าน่าลองนะ มีการแคสติ้งหลายครั้งมาก สุดท้ายก็ได้บทเกรทครับ

ถามว่าพี่ๆ ผู้กำกับให้ผมทำอะไรบ้างตอนแคสติ้ง ผมจำได้ว่าเขาให้กล่องมา 1 ใบ ในนั้นจะมีกุญแจ 1 ดอกเท่านั้น ถ้าผิดเราอาจตายได้ เรามีโอกาสรอดและไม่รอด 50:50 เหมือนเขาดูรีแอ็กของแต่ละคนที่มีต่อกล่องใบนั้น

ซึ่งตัวผมตื่นเต้นกับมัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปถูกใจพวกเขาตรงจุดไหนครับ ส่วนเรื่องว่าทำไมผมถึงตัดสินใจมาแคสต์หนังเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ผมก็มีรางวัลด้านการแสดงการันตี

ผมมองว่า เป็นกระบวนการที่ยุติธรรมดี และการได้ลองอะไรใหม่ๆ มันสนุก การแคสติ้งเป็นอะไรที่สด เรารู้สึกอะไรก็ทำได้เลย พอได้เลือกให้มาเล่นเป็นเกรทจริงๆ ก็มีการปรับบทให้เกรทกวนตีนแบบตลกขึ้น ไม่เหมือนตอนแคสติ้ง ตอนที่เปิดกล้อง ผมก็ต้องปรับจูนตัวเองมากขึ้น จนหาจุดที่ลงตัวก็มันเลยครับ”.