ล้วงลึก ฮิวโก้ จุลจักร หลังขึ้นแท่นเป็นสามีในอุดมคติ ไม่เจ้าชู้! (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

แล้วตอนนั้นขอเบอร์เค้าให้เลยมั้ย?
ฮิวโก้ : เค้าก็ต้องให้ เพราะเค้าดันพูดปัดเราไปว่า “เออ ครั้งหน้าเดี๋ยวเราก็ต้องแฮงเอาต์กันนะ” พูดแบบตามมารยาท เค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่ เราก็เลยบอกว่าเราจะแฮงเอาต์ได้ยังไงถ้ายังไม่มีเบอร์โทร

งั้นตอนที่ต้องแยกกันตอนคุณไปทำเพลงที่อเมริกา 3 ปี?
ฮิวโก้ : ตอนแรกไปอังกฤษ แล้วหลังจากนั้นไปนิวยอร์ก แล้วหลังจากนั้น แล้วเริ่มรู้สึกว่าถ้าเราจะอยู่ด้วยกันต้องแต่งงาน เพราะว่าการคบกันห่างๆ โอกาสรอดมันยาก แล้วผมรู้สึกว่าถ้าเรารู้ตัวว่าเราอยากได้ เราก็ต้องทำทุกทางที่จะรักษาไว้ นั่นคือเหตุหลักๆ ที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างถูกต้อง

แต่ตอนนั้นมีช่วงเวลาพิสูจน์ใจในเรื่องของระยะห่าง สามปีที่ต้องห่างกันตอนนั้นไว้ใจเชื่อใจกันถึงขั้นพี่ฮาน่าบอกพี่ฮิวโก้ว่า คุณสามารถวันไนต์สแตนด์ได้?
ฮิวโก้ : เขาก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ผมไม่เคยเชื่อเลย

ฮาน่า : เขาคิดว่าเราขู่เขามากกว่า แต่จริงๆ เรารู้จักเพื่อนผู้ชายเยอะ ก็รู้ว่าอาจจะมีเวลาเหงา เศร้า เจอสาวๆ เข้ามายุ่งอะไรอย่างนี้ ถ้าเป็นเพื่อนมันจะสานต่อยาวไกลได้ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรถ้าฉันทำได้ เธอก็ทำได้เหมือนกัน ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้น จบ เขาคงคิดว่าเราลองใจเขา เขาลองใจเรา

คำว่า วันไนต์สแตนด์ สำหรับผู้หญิงพูดไปถ้าเขาทำจริงๆ เราจะรู้สึกยังไง?
ฮาน่า : ถ้าเขาทำจริงๆ เราไม่รู้หรอก เขาไม่บอก แต่ว่าสิ่งที่เราคบกับเพื่อนผู้ชายเหมือนกะเทยที่แมนมากไปแล้ว ไม่มีความเป็นผู้หญิง จนรู้สึกว่าผู้ชายมันจะมีอะไร แต่เรามองสามีเราตอนนั้นเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่รู้ยังไง ถ้าจะเป็นระยะทางทำให้เราจากกันไหม หรืออะไรยังไง แต่มันก็พิสูจน์ว่า 4 ปีแล้ว มันต้องอยู่ด้วยกัน แล้วเรา ยังซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน เรายังโหยหาซึ่งกันและกันอยู่ มันก็เลยมีวันนี้ 14 ปี

พี่ฮิวโก้กลัวอย่างนั้นจริงไหม ถ้าเราทำขึ้นมาพี่ฮาน่าจะทำกลับ?
ฮิวโก้ : เขาก็มีสิทธิ์ โดยรวมแล้ว ผมว่าในเมืองไทยอาจจะดูถูกนิสัยและสันดานผู้ชายมากจนเกินไปเพราะว่าคนส่วนมากที่ผมรู้จักที่แต่งงานหรือมีคู่ มีอะไร ส่วนมาก 80% เขาก็คิด แล้วก็ใช้ชีวิตเหมือนผม ผมไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเลย แล้วบางทีผมว่าการเอาการไม่เจ้าชู้ไปยกย่อง หรือมาฮือฮากับมัน ผมว่าเรากำลังตั้งมาตรฐานการประพฤติต่ำเกินไป เพราะว่ามันคือมาตรฐานขั้นต่ำ มันไม่ได้เป็นความบุญ มันแค่ไร้บาปเฉยๆ มันคือศูนย์ ผมว่าคุณควรจะใจเย็นๆ นิดหนึ่งกับประเด็นนี้

มีคนเข้ามาหาพี่บ้างไหม?
ฮิวโก้ : ในเมืองไทยไม่ค่อยมี เพราะว่าคนส่วนมากก็รู้สถานะผมว่าผมแต่งงานแล้ว จะไม่ค่อยเจอใครล้ำเส้นเลย แต่ในเมืองนอกเขาไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ในช่วงเวลาที่ผมไป แล้วมันก็มีครั้งสองครั้งเองที่รู้สึกว่ามีโอกาสถึงขั้นที่เราต้องหลีกเลี่ยงหลบ มันก็มีบ้างที่เข้ามาหา แค่เขาเห็นแหวนก็โอเคแล้ว มันมีแค่คนเดียวเองที่เห็นแหวนแล้วไง ถามว่าสวยไหมก็โอเค แต่มันก็ไม่เกี่ยวแล้วความสวย ถ้าไม่มีแฟนเราก็ยังไม่รู้เลยว่าอย่าไปมีอะไรกับคนที่ไม่รู้จักเราอาจจะถือตัวก็ได้

หลังจากแต่งงานแล้วความหวานลดลงไหม?
ฮิวโก้ : ไม่ เพราะความหวานมันไม่มีตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยมีมันอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

ฮาน่า : เขาไม่ได้หวาน เราจะแบบพูดกันตรงๆ มากกว่า แต่จะมีความรู้สึกว่ารักทุกวัน เราจะต้องมีการคิสก่อนจะออกจากบ้าน วันไหนที่ลืมคิสเขา เขาโทร.เช็กเลย ทำไมออกไปไหน ทำไมไม่มาร่ำลากัน ไม่ได้ อันนี้คือความหวานที่มีให้ทุกวันตั้งแต่คบกัน จนถึงทุกวันนี้

เมื่อกี้พี่ฮิวโก้ยังบอกเลยว่าวันไหนถ้าไม่คิสพี่ฮิวโก้รู้สึกยังไง?
ฮิวโก้ : มันแค่ทักกัน คือเรื่องพวกนี้มันต้องรักษา คำว่าความรักเนี่ยบางทีคนอาจจะไปหมกมุ่นอยู่กับรัก แต่มันมีเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญด้วย ความไว้วางใจอย่าว่าแต่ผัวเมีย เพื่อนหรือพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจมันเป็นสิ่งที่น่ารักษา มันเป็นประโยชน์ มันมีคุณค่า ความไว้วางใจการหักห้ามตัวเองจากสิ่งที่มันไม่ดี นอกจากดีกับเขา มันก็ดีกับเราด้วย มันไม่ใช่แค่เรื่องความรัก บางทีคนอาจจะให้ความสำคัญกับความรักมากเกินไปว่าเป็นสิ่งที่ถ้ารักยังไงเราก็ทำตัวดีไม่มันต้องมีเรื่องอื่นๆ ด้วย มันต้องชอบ มันต้องเห็นใจ มันต้องเคารพ ความรู้สึกอีกหลายๆ ความรู้สึกที่ทำให้เราทำตัว ซึ่งผมบอกว่ามันปกติ นี่คือสิ่งที่ผมทำคือปกติสุดแล้ว ผมก็แอบแปลกใจว่ามันเป็นประเด็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้ยังไง

พี่บอกว่าความหวานมีให้กันตลอดแล้วมุมทะเลาะมันมีด้วยเหรอ?
ฮิวโก้ : ก็ต้องมีสิ คนเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เห็นตรงกันทุกอย่างมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเราแตกต่างกันมาก แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

คู่ของเรามีคำว่าเบื่อกันบ้างไหม?
ฮิวโก้ : ถ้ามองคู่รักเหมือนสิ่งของก็คงเบื่อ ถ้ามองผู้หญิงหรือผู้ชายเป็นสิ่งประดับ ที่ไม่ได้เป็นมนุษย์อีกคนหนึ่งแน่นอนก็เบื่อได้ เพราะเราเบื่อสิ่งของได้มันเป็นเรื่องปกติ ก็อย่ามองอย่างนั้น ต้องคิดซะว่าเราเป็นองค์กร เป็นพาร์ตเนอร์เป็นทีมมากกว่า ไม่มีสิทธิ์เบื่อ มันเหมือนเบื่อประเทศ มันย้ายไม่ได้นี่คือประเทศเรา เราก็ต้องอยู่ มันมีบางอย่างที่ต้องยอม ห้ามเบื่อ คุณต้องไม่อนุญาตให้อารมณ์เหล่านี้เข้ามามีบทบาทในชีวิต ชีวิตมันต้องบังคับ มันไม่ใช่ปล่อยตามอารมณ์ที่รู้สึกยังไงก็ต้องได้อย่างนั้น เราต่างคนต้องปรับตัวเข้าหากัน มันไม่ใช่ผมฝ่ายเดียว

แล้วบทบาทของความเป็นพ่อ ตอนแรกผู้ชายคนนี้บอกว่าไม่อยากมีลูก?
ฮิวโก้ : ก็เราอยากเที่ยวกันสนุก 2 คน เที่ยวทั่วโลก ทำงานทำการ เพราะเราทั้งสองคนเป็นคนที่อินกับงานไม่ได้อยากอยู่เฉยๆ ผมก็ชอบเดินทางไปเล่นดนตรี เขาก็มีธุรกิจ มันไม่ได้ต้องการตรงนั้นอยู่แล้ว แต่พอแต่งงานแล้วมีลูกคนแรกมันก็เข้าระบบครอบครัว จะมีอีกคน อีกสามคนมันก็คือโลกเดียวกันแล้ว มันไม่ประหลาด แต่คนแรกจะเป็นภูเขา วิวที่ตกใจสุด โอ้โห…แต่หลังจากนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ

มีทะเลาะกันเรื่องการดูแลลูกบ้างไหม?
ฮิวโก้ : ไม่เท่าไร เราจะทะเลาะกันเรื่องไร้สาระกว่านั้น

แล้วลูกอีกคนที่เราอุปการะมา นั่นก็คือน้องนาดา ได้มีการตกลงคุยกันก่อนไหม?
ฮิวโก้ : มันไม่มีอะไรให้ตกลง

แล้วทำไมไม่อยากให้ลูกเข้าวงการ?
ฮิวโก้ : คือสมมติว่าผมเป็นนักบิน ถ้าผมเป็นคนขับสิบล้อ ผมเป็นทนาย คงไม่มีใครมาถามว่าทำไมไม่อยากให้ลูกเป็นนักบิน ณ ตอนนี้ ทำไมไม่อยากให้ลูกเป็นทนาย หรืออยากให้เป็นยามหรืออยากให้เป็นตากล้องหรืออะไรก็ตาม คือมันเป็นอาชีพผม ในเมื่อผมมีโอกาสที่ไม่ต้องอาศัย ผมก็อยากให้ลูกได้เรียน ได้เป็นเด็กไป โตขึ้นอยากเป็นอะไรก็เชิญ

3 คนว่าไง?
ฮิวโก้ : เขาจะมองยังไงก็ตาม เขาเป็นเด็ก เขาไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรทั้งสิ้น เราเป็นพ่อแม่เขา เดี๋ยว 18 อยากจะทำอะไรก็เชิญ อยากจะไปเป็นทหาร เป็นนักบิน เป็นอะไรก็เป็นไป แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในบ้านเรา แล้วทั้งพ่อทั้งแม่ มีงานทำก็ไม่จำเป็น นี่ไม่ได้เป็นการพาดพิงถึงคนอื่นที่เอาลูกเข้าวงการ ผมเองแค่ไม่สะดวก ไม่ถนัดที่จะให้ลูกต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงาน มันไม่จำเป็นสำหรับผม แล้วโลกนี้มันมีอะไรอีกเยอะ เราก็อยู่วงการบันเทิงก็อยากจะเห็นเขาทำอะไรที่ฉีกไปจากเรา ไปทำอย่างอื่นบ้างเถอะ โลกมันมีอะไรอีกเยอะให้ศึกษาค้นหา

สมมติว่าลูกยังไม่ถึง 18 แล้วพี่ฮาน่าเดินมาบอกว่าลูกอยากเข้าวงการ เปิดโอกาสไหม?
ฮิวโก้ : ไม่จำเป็น แต่ส่งไปเรียนโรงเรียนดีๆ แล้วไปส่งทุกวัน ผมก็เปิดโอกาสให้เขามีสิทธิ์เติบโตมากกว่านี้ ผมในฐานะที่อยู่วงการบันเทิง ผมรู้ว่ากับดักของวงการบันเทิงมันมีอะไรบ้าง แล้วไม่ใช่ว่ามันจะเกิดขึ้น หรือมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น มันไม่ใช่ แต่มันมีโอกาส แล้วหน้าที่เราก็คือปกป้อง มันมีชีวิตหลังจากนั้นที่จะเข้าวงการ ที่จะหลงทาง ที่จะไปอะไร ความดังเนี่ยมันไม่ได้เป็นอะไร ผมแนะนำนะสำหรับสุขภาพจิตที่ดี ลองใช้ชีวิตแบบไม่ดังมันอาจจะดีก็ได้

ก่อนหน้านี้ลูกๆ เข้าใจผิดอยู่ช่วงนึงว่าบ้านเราไม่มีตังค์เหรอพ่อ?
ฮิวโก้ : ไม่หรอกมั้ง เขาคงไปบ้านเพื่อนที่อลังการกว่าบ้านเราแค่นั้นเอง (ชมคลิป คลิกที่นี่)

ติดตามรายการ “คุยแซ่บ Show” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง