รวมไปถึงประเด็นที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง โผล่มาที่รายการ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล บ้างก็มองว่าหนุ่มเตี๊ยมกับทนายตั้ม ด้านทนายอัจฉริยะก็ให้สัมภาษณ์ว่าเสียใจที่เหมือนถูกเอามายำ ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐทีวีถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ถามถึงดราม่าในรายการ “โหนกระแส” คนมองว่าเตี๊ยมกับทนายตั้ม?
“สาบานได้ว่าไม่จริงเลย ไม่ได้เตี๊ยมกับทนายตั้มเลย คือเรื่องของเรื่องวันนี้พี่ได้มีการพิมพ์ชี้แจงไปแล้ว ก็คือตอนเช้าทนายตั้มโทร.มา แกบอกว่าวันนี้พี่อัจมาออกใช่มั้ย ก็บอกว่าใช่ พี่ก็ถามว่าถามทำไม เขาก็บอกว่าเขาอยากเซอร์ไพรส์ อยากมาช่วยพี่อัจ พี่ก็คิดในใจว่า…ขอโทษนะ มึงจะมาแกล้งกูอะไรแต่เช้าวะ พี่ก็บอกว่าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวค่อยคุยแล้วกันนะ ก็วางหูไป

เสร็จปุ๊บประมาณเที่ยงครึ่ง เขาก็ส่งไลน์มาถามว่าทำอะไรอยู่ พี่ก็บอกว่ากำลังอ่านข่าว พี่ก็ถามว่าตกลงคุณจะมาเซอร์ไพรส์จริงเหรอ แกล้งอำไป ปรากฏว่ามาจริง พี่ก็ตกใจ น้องที่อยู่ข้างล่างบอกว่าวันนี้ทนายตั้มมานะ แต่พี่นั่งอยู่กับพี่อัจในรายการ พี่ก็เลยเอาโทรศัพท์ที่ทางฝ่ายทนายตั้มคุยส่งให้พี่อัจดู พี่ก็ยืนยันนะว่า… เนี่ยพี่ก็ส่งไปแบบนี้ (เปิดแชตทนายตั้มให้นักข่าวดู) พี่ก็ส่งไปว่ามันจะดูแปลกๆ มั้ย อย่าเลยคุณ พี่ก็บอกว่าอย่าเข้ามาเลย แต่เขามา

พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พอมาพี่ก็ต้องแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้า พี่ก็ถามพี่อัจในรายการเลยว่าโอเคมั้ย ตั้มมา จะให้เข้ามั้ย เขาบอกว่าได้ ไม่เป็นไร เข้ามาได้ พี่ถึงให้ตั้มมา ถ้าพี่อัจบอกว่าไม่ได้ พี่ก็ไม่ให้ตั้มเข้า คือด้วยมารยาท พี่ไม่ให้เข้าอยู่แล้ว นี่คือเรื่องของตั้ม

แต่พี่งงที่พี่อัจบอกว่าเหมือนพี่เตี๊ยมกันมา ถ้าเตี๊ยมน่ะ พี่ไม่มีการบอกพี่อัจเลย ตั้มส่งมาตอนไหนพี่ให้ดูหมด พี่อัจรู้ทุกอย่างในรายการหมด รู้ว่ารายการเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือแม้กระทั่ง 3 คนบนเรือ จ๊อบ แซน ปอ โทร.เข้ามา ครั้งแรกกระติกส่งไลน์มาหาพี่ก่อน ตอนนั้นอยู่ในรายการ กระติกส่งมาตอน 12.57 น. (โชว์ไลน์กระติกให้นักข่าวดู) บอกว่าจ๊อบอยากโฟนอินค่ะพี่หนุ่ม ผมก็ตอบว่าเอาเบอร์มา

พอเขาบอกว่าจ๊อบอยากโฟนอิน ช่วงที่หายไปเนี่ย 2 นาที พี่นั่งอยู่ข้างหน้าพี่อัจ พี่ก็เลยเอาไลน์ส่งให้พี่อัจดูว่ากระติกส่งมาบอกว่าจ๊อบอยากเข้าสาย พี่อัจก็บอกว่าก็ได้นี่ ไม่เป็นไร พี่ถึงพิมพ์กลับไปว่าส่งเบอร์มา ปรากฏว่ายังไม่ยอมส่งมา สุดท้ายจ๊อบโทร.เข้ามาเอง พี่อัจก็ให้รับ พี่ก็รับ แล้วทำไมพี่อัจถึงบอกว่าพี่เอาคนไปยำ

คือพี่เองเป็นคนถือเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าฝั่งพี่อัจเขาไม่ยินยอมว่าจะให้เข้าสาย พี่ก็ไม่เอา พี่จะถามทุกครั้งว่าพี่โอเคมั้ย เอามั้ย ตกลงหรือเปล่า ถ้าพี่ไม่เอาก็ไม่เอา หรือครั้งที่แล้วพี่อัจมานั่ง แล้วฝั่ง ส.ส.เต้ อยากขอเข้าสาย พี่อัจบอกว่าไม่เอา พี่ก็ไม่เอาเข้านะ หรือบังแจ็คอยากเข้าสาย พี่อัจบอกไม่เอา พี่ก็ไม่เอาเข้านะ เพราะพี่ก็ให้เกียรติพี่อัจ

อันนี้ก็เหมือนกัน พอพี่อัจอนุญาต พี่ถึงเอาเข้า แต่ถึงเวลาพี่อัจมาบอกว่าพี่เหมือนเอาคนไปยำ พี่ก็รู้สึกไม่ดีนะ พี่เสียใจนะ เพราะโดยบริบทพี่ให้พี่อัจรู้ทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่เขาพูดอะไรยังไงมันอีกเรื่องนึง

ส่วนกรณีคลิป มันเป็นสิทธิ์ของพี่อัจเขาไง เขาจะเปิดหรือไม่เปิดมันก็สิทธิ์ของเขา คลิปมันอยู่ในมือเขา ในเมื่อพี่อัจบอกว่าโอเค เปิดไปจะมีปัญหา 5 คนบนเรือจะมาเล่นงานเขา พี่เองรู้จักพี่อัจมาเป็น 10 ปีนะ ถามพี่อัจได้ว่า 10 กว่าปี พี่อัจเคยฟ้องผม ฟ้องหมวย (อริสรา กำธรเจริญ) ผมก็ไม่เคยว่าพี่อัจ

ผมเข้าใจพี่อัจทุกอย่าง พี่อัจไปไลฟ์ว่าผมได้เงินจากคนบนเรือ ผมก็ไม่เคยว่าพี่อัจ ผมก็ยกมือไหว้เคารพพี่อัจเสมอ สุดท้ายผมเอาพี่อัจมาออกรายการ ทั้งที่ถ้าเกิดมีการฟ้องร้อง ผมก็คงไม่เอามา ผมให้เกียรติพี่อัจอยู่ตลอดเวลา คนอาจไม่เข้าใจหรือไม่รู้ความสัมพันธ์ของผมกับพี่อัจด้วยซ้ำไป แต่จริงๆ แล้วผมบอกเลยว่าผมสนิทกันมากระหว่างผมกับพี่อัจ หลายคนบอกว่าผมสนิทกับทนายตั้มหรือเปล่า ไม่ใช่ ผมน่ะเผลอๆ สนิทกับพี่อัจมากกว่าทนายตั้มอีกด้วยซ้ำไป”

เขามีการร้องห่มร้องไห้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว วันนี้พี่หนุ่มเสียใจมั้ย เขาเองก็ยอมรับว่าเสียใจ?
“พี่อัจเสียใจเรื่องพี่เหรอ เสียใจทำไม พี่อัจไม่ต้องเสียใจเรื่องผมเลย พี่เองบอกตรงๆ นะ พอจบรายการ พี่ก็ส่งข้อความไปให้พี่อัจดูทั้งหมดเลย (โชว์แชตไลน์ที่คุยกับทนายอัจฉริยะ) และบอกว่าพี่อัจอย่าโกรธผมนะ ผมเองก็ตั้งตัวไม่ทันจริงๆ เครียดเลยผม พี่ก็ส่งให้พี่อัจดูว่ามันเกิดบริบทอะไรขึ้น ทำไมไปสัมภาษณ์แบบนั้น พี่ก็งง

แต่ว่าถ้าจะถามถึงเรื่องคลิป พี่ก็พยายามหาทาง ถ้าพี่อัจกลัวถูกฟ้องจาก 5 คนบนเรือ พี่ก็บอกคุณปอว่าถ้าอย่างนั้นคุณทำหนังสือยินยอมขึ้นมาฉบับนึง แล้วก็วางที่ศาลเลยว่าจะไม่มีการฟ้องคุณอัจฉริยะ ถ้าเกิดคุณเปิดคลิปมา มันจะได้จบ เพราะไม่อยากให้คนมาว่าพี่อัจว่าไม่มีคลิปจริงๆ พี่ก็หาทางออกให้พี่อัจ

พี่เป็นน้องพี่อัจ พี่ก็หาทางออกให้ว่าในเมื่อพี่อัจกลัว 5 คนบนเรือฟ้อง แล้ว อีกอย่างเป็นการลบคำครหาที่คนหาว่าพี่อัจไม่มีคลิป แล้วพี่อัจบอกว่ามีคลิปจริง แต่กลัวโดนฟ้องถ้าเปิด ถ้างั้นพี่ขอเลยปอ ทำหนังสือฉบับนึงแล้ววางที่ศาลเลยว่าอนุญาตให้เปิด และไม่มีการฟ้องร้อง ปอก็บอกว่าโอเค แต่สุดท้ายพี่อัจแกก็รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับชีวิตแก เปิดไปอาจโดนได้ เพราะเรื่องข้อกฎหมายรู้สึกว่ายังมีช่องโหว่ของแกอยู่

พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแก แต่พี่แค่หาทางออกให้ในฐานะน้องเท่านั้นเอง แต่สุดท้ายจะเปิดไม่เปิดเป็นสิทธิ์พี่อัจ แต่วันนี้สิ่งที่พี่พูดคือพี่แค่ไม่สบายใจว่าพี่อัจแกเข้าใจอะไรผิดพี่หรือเปล่า ว่าพี่ไม่ได้แจ้งพี่อัจเหรอ พี่อัจบอกว่าไม่รู้เรื่องมาก่อน ไม่จริงนะ พี่อัจรู้ทุกอย่างเพราะพี่ให้ดูทุกอย่าง ถ้าพี่อัจบอกผมคำเดียวว่าพี่หนุ่ม ผมไม่เอานะอันนี้ พี่ก็ไม่เอา เพราะพี่อัจเป็นพี่ชายพี่ ถ้าพี่อัจบอกไม่เอาแต่กูจะเอา พี่ไม่ใช่คนสันดานแบบนั้น”

พอคดีมาถึงขั้นนี้ พี่หนุ่มคิดว่าคดีของแตงโมมันควรไปตรงไหน?
“คือพี่บอกตรงๆ นะว่าพี่เองก็เป๋ เพราะพี่เชื่อว่าทุกคนเป๋ หรือทุกคนที่ทำข่าวนี้เป๋กันหมด เพราะตอนแรกที่เราดู แม้กระทั่งพี่อัจก็เคยพูดว่าคดีนี้เป็นอุบัติเหตุ พี่ก็รู้สึกว่าคดีนี้คืออุบัติเหตุ

พอเริ่มมีอะไรซับซ้อน คนบนเรือพูดไม่ทั้งหมด พี่ก็รู้สึกว่าเอ๊ะ มันมีอะไรที่มันซ่อนเงื่อนอยู่หรือเปล่า ทำไมต้องมีการปกปิดพี่ในข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้น ทำไมสัมภาษณ์กับพี่เป็นอีกอย่างนึง แต่ทำไมเรื่องไวน์ต่างๆ นานามันเป็นอีกแบบนึง

พี่ก็พยายามหาจุดกึ่งกลางของพี่เอง จนกระทั่งมาถึงวันนี้ พี่บอกเลยว่าสุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน มันไม่ได้อยู่ที่ความคิดของเราเอง พี่เคยคิดถึงขั้นที่ว่าแตงโมอาจจะลุกขึ้นมาแล้วมีคนเดินชนและล้มลงไปตกลงน้ำไปหรือเปล่า”.