กลับมายิ้มอย่างเต็มที่ได้อีกครั้ง สำหรับนักแสดงสุดสตรอง แวร์ โซว ที่ตอนนี้ปลดหนี้ได้สำเร็จแล้ว เป็นเงินก้อนโตกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า แม้เงินจะไม่เหลือ แต่ก็สบายใจขึ้นมาก และพร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างอีกครั้ง 

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า โรคซึมเศร้าที่เคยเป็นนั้น เริ่มหายและดีขึ้นมากแล้ว แต่คุณหมอยังให้กินยาอยู่เรื่อยๆ เพราะต้องออกไปเจอคนข้างนอก และเสี่ยงเจอมลภาวะที่จะมากระทบได้ง่าย

“ขายคอนโดได้แล้ว หมดหนี้หมดสินแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว กลับ 0 เริ่มต้นใหม่ค่ะ ก็สบายใจขึ้นค่ะ เพราะเรากังวลเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องหามาจ่ายเค้าทุกเดือน และงานเราก็ไม่ได้เยอะ เราชักหน้าไม่ถึงหลังมันก็เครียดอยู่นะคะ แต่พอเราไม่มีหนี้สินแล้ว มันก็ทำให้เราสบายใจมากๆ เลย

ถามว่าไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทุกข์ใจมั้ย ไม่เลยค่ะ การไม่มีหนี้สิน ไม่มีภาระผูกพันกับชีวิต เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเลยค่ะ บ้านเราปิดไปแล้ว รถมันก็ปิดไปแล้ว ไม่กี่บาทหรอกค่ะ ส่วนคอนโดก็ขายไปแล้ว เงินมันก็ร่อยหรอลงเพราะเราต้องใช้จ่ายพวกนี้ ส่วนเครื่องประดับที่อยู่เมืองจีนก็ยังไม่ไปเอาออกมา แต่ไม่เป็นไร เราไม่เสียดาย เราสามารถที่จะสร้างใหม่ สู้ใหม่ได้

ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมั้ย ไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะว่าพี่แวร์เป็นคนประหยัด มัธยัสถ์อยู่แล้ว ถ้าเราใช้ฟุ่มเฟือยๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีงาน อันนั้นมันยิ่งน่ากังวลใจ ถ้าคนที่รู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าเราอยู่ง่ายมาก กินข้าวแกง 30 40 บาท

ส่วนงานที่เข้ามา มีงานติดต่อมาเรื่อยๆ แต่เราต้องดูความเหมาะสม เรื่องบทเรื่องอะไรด้วย แต่ว่าตอนนี้ก็มีงานเข้ามาเป็นรับเชิญค่ะ อยู่ในขั้นการเจรจาและถ่ายทำ ก็ยังมีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ”

“ส่วนโรคซึมเศร้านั้น ที่หลายคนคิดว่าคนเป็นโรคซึมเศร้าเพราะปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย แต่เป็นเรื่องของเราถูกเอาเปรียบ พอเราถูกเอาเปรียบมากๆ ก็กดดันว่า คนที่เค้าทำกับเราแบบนี้ทำไมไม่มีสปิริตที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ เราเจอแบบนี้บ่อยๆ อีกอย่างเราเจอโทรศัพท์โรคจิต พูดจาไม่ดีใส่ เราก็จิตตก จนทุกวันนี้ไม่อยากจะรับโทรศัพท์เลย พอใครโทรมาเราก็ทำเสียงแข็งใส่เค้าก่อน เจอแบบนี้รอบด้านเรา ทั้งปัญหา ทั้งคนโรคจิตใส่มันเลยไม่ไหวแล้ว

อาการซึมเศร้านั้นหายแล้วค่ะ ถ้าย้อนกลับไป พี่แวร์เป็นโรคซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว 5-6 ปี และรักษาอีกประมาณ 3 ปี ก็รวมทั้งหมด 8-9 ปี คุณหมอบอกว่าตอนนี้ทุกอย่างสงบแล้ว แต่ว่ายังไม่ให้หยุดกินยา เนื่องจากว่าเรายังต้องเจอผู้คน เจอมลภาวะที่มากระทบเราได้ง่าย คุณหมอขอดูอาการไปเรื่อยๆ

อยากให้หลายๆ คนที่เค้าไม่เข้าใจคนป่วย เพราะคนที่เป็นโรคนี้ สติหรือการยับยั้งชั่งใจมันน้อยหรือไม่มีเลย สำหรับคนปกติอาจจะมองว่าเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องฟูมฟายเลย แต่สำหรับคนป่วยมันไม่ใช่เรื่องแค่นี้ เค้าถึงขาดการตัดสินใจ เพราะฉะนั้นอยากให้หลายๆ คนเข้าใจตรงนี้ และการไม่มีเงินไม่ใช่การป่วยโรคซึมเศร้า คนที่ป่วยโรคนี้เค้าเป็นคนที่รับผิดชอบมากนะ แต่จะโดนเอารัดเอาเปรียบทุกๆ ด้าน ซึ่งเราจะไม่ปริปากบ่นเลย แต่เราจะรับผิดชอบและแก้ไข พอวันที่มันไม่ไหวแล้ว มันถึงได้ขาด”

ด้าน น้องคนดี ได้บอกว่า ตอนที่คุณแม่ป่วย ตนเองก็ให้กำลังใจกัน เพราะอยู่กัน 2 คน ต้องคุยกันและให้กำลังใจกันมากๆ ทำให้เราเข้าใจปัญหากันและกันมากขึ้น และต้องเปิดใจรับฟังปัญหากันและกัน ทำให้เราเข้าใจในอารมณ์กัน มันก็จะลดอาการซึมเศร้าลง

ทั้งนี้ แวร์ โซว ยังได้ฝากอีกว่า ตนเองกับลูกสาวพร้อมทำงานแล้ว ต้องเริ่มเก็บเงินใหม่ในอายุ 46 ปี เพราะเงินทุกบาทที่เก็บมาเอาไปจ่ายหนี้หมดแล้ว และทำงานได้เต็มที่แล้ว ไม่มีอารมณ์เหวี่ยงใส่ใครแล้ว

ถ้าถามว่า ยังอยู่อพาร์ตเมนต์เหมือนเดิมมั้ย แวร์ บอกว่า ยังอยู่ที่เดิม เพราะบ้าน รถราคาแพงๆ และคอนโด ตนเองเคยมีหมดแล้ว แต่ไม่เคยมีความสุขเลย เงินที่เคยมี 7-8 ล้าน ปล่อยไปเลย อย่าไปเสียดาย ให้ช่างมัน.