ฉอด สายทิพย์ รอคำตอบสุดท้ายคดี พิ้งกี้ ลั่นเรื่องเปลี่ยนตัวเป็นไปไม่ได้

ฉอด สายทิพย์ รอคำตอบสุดท้ายคดี พิ้งกี้ ลั่นเรื่องเปลี่ยนตัวเป็นไปไม่ได้ เตรียมแพลนแนวทางแก้ปัญหา-กระทบอรรถรสคนดูน้อยที่สุด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ฉอด สายทิพย์ รอคำตอบสุดท้ายคดี พิ้งกี้ / หลังจากที่นักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ตกเป็นจำเลยที่2 ในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 พร้อมถูกแจ้ง 3 ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ถูกคุมตัวฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ในขณะที่นักแสดงสาวมีงานละครที่ถ่ายทำอยู่หลายเรื่อง อาทิ เรือนชฎานาง, ดงดอกไม้, ลายกินรี ฯลฯ ล่าสุดวันที่ 22 ส.ค.65 ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้บริหาร เช้นจ์2561 ผู้ผลิตละครเรื่อง ดงดอกไม้ ที่ พิ้งกี้ รับบทเป็น เกลียวเกศ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ละครยังถ่ายไม่จบว่าจะทำอย่างไรต่อไป

โดย ฉอด สายทิพย์ ได้เผยถึงสถานการณ์ละครล่าสุดว่า “ละคร ดงดอกไม้ ทำงานกันมานานเป็นปีๆ แล้ว คือหยุดพักช่วงโควิดแล้วก็กลับมาถ่ายทำ ซึ่งละครเรื่องนี้มีโปรแกรมที่จะต้องออนแอร์ในเดือนสองเดือนนี้ ทางช่องวัน31 ทำงานกันไปได้ 80 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว”

ตัวละครที่น้องแสดงในเรื่องนี้ ได้ถ่ายทำปิดตัวละครน้องไปหรือยัง? “ยังค่ะ ยังอยู่ในช่วงปลายๆ ของการถ่ายทำ ซึ่งตอนนี้เราก็ต้องรอดูสถานการณ์ที่แน่ชัดว่าจะต้องยังไงต่อไป ตัวเราเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจเหล่านี้หรือในแง่มุมของคดีสักเท่าไหร่ ต้องยอมรับว่าเราไม่มีความรู้จริงๆ ก็ทราบพร้อมกับทุกๆ คน และตอนนี้ก็ติดตามข่าวจากทางสื่อนี่แหละค่ะ”

มีการวางแผนไว้ไหม ว่าจะรอน้องหรือจะเปลี่ยนตัว? “ต้องบอกว่าการเปลี่ยนตัวเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะละครถ่ายทำจะจบอยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนตัวเท่ากับว่าเราต้องเริ่มถ่ายทำกันใหม่หมดตั้งแต่ต้น นั่นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะโดยทีมของนักแสดงคนอื่น และเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการที่จะต้องออนแอร์ในสองเดือนข้างหน้านี้ด้วย ถ้าสุดท้ายแล้วน้องไม่สามารถออกมาทำงานได้จริงๆ ก็ต้องมีการแก้ไขในเรื่องของการปรับบทในตอนจบ หรือว่าใช้เทคนิคของการถ่ายทำต่างๆ ช่วย เพื่อที่จะทำให้มันไม่เสียอรรถรสมากจนเกินไปในการที่จะต้องออกอากาศ”

คืออาจจะต้องตัดจบตัดตัวน้องไปเลย? “คือพอดีมันมีจังหวะของบทบางอย่างที่มันสามารถเป็นไปได้อยู่ หมายถึงเราก็คุยกันในแง่ของกรณีที่เลวร้ายที่สุด ว่าบังเอิญพอดีบทบางจังหวะ คือในละครที่ทุกคนจะเห็นอาจจะไม่ถึงกับขนาดว่าอยู่ๆ น้องก็หายไป ไม่ได้เป็นขนาดนั้น มันจะมีจังหวะของบทที่พอจะเป็นไปได้ นี่คือกรณีที่ไม่สามารถจะทำงานต่อได้แล้วจริงๆ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างที่รออยู่แหละ ว่าสรุปคืออย่างนี้ใช่มั้ย จะได้ทำงานต่อค่ะ”

ไม่ถึงกับเสียหายมากใช่ไหม? “เราคงต้องพยายามแก้ปัญหา เพราะมันก็ถือเป็นเรื่องสุดวิสัย ต้องแก้ปัญหาให้มันดีที่สุด โดยที่กระทบกระเทือนอรรถรสของคนดูให้น้อยที่สุด ซึ่งถ้าคนดูไม่ได้รู้ว่าบทจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร ถ้าเขาดูก็สนุกไปกับละครไปเรื่อยๆ ก็จะคงไม่ถึงกับรู้สึกว่าเสียหายอะไร”

“แต่เราคนทำงานจะรู้ว่าสิ่งที่ตั้งไว้เป็นอย่างไร อาจจะดีตรงที่มันทำงานใกล้จะเสร็จแล้ว ถ้าเป็นกลางๆ เรื่องคงจะลำบากกว่านี้ เพราะการเปลี่ยนตัวหมายถึงการที่จะต้องถ่ายใหม่ ถ้ามันเป็นกลางเรื่องแล้วมันตัดจบไม่ได้ก็จะลำบาก บังเอิญมาค่อนข้างปลายทางแล้ว เพราะละครจะออนแอร์อยู่แล้ว”

ไม่ทราบพี่ฉอดเจอน้องล่าสุดเมื่อไหร่? “อุ้ย! นานมากค่ะ เพราะที่ผานมาก็ไม่ค่อยได้เข้ากองมากนัก ทำงานผ่านทีมงานซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วช่วงมันลากยาวมาถึงช่วงโควิด แล้วก็มีความระมัดระวังตัว ในกองเองก็เซฟในเรื่องของจำนวนคนที่เข้ากองด้วย ฝ่ายทำงาก็ทำงานไป ตัวพี่เองก็ทำงานตลอดโดยผ่านทางผู้จัดการกอง หรือโปรดิวเซอร์ของกอง ทางผู้กำกับฯ ก็จะทำงานรอบนอกมากกว่า”

ก่อนหน้านี้ที่พี่เคยสัมผัสน้องร่วมงานกับน้อง น้องเคยปรึกษาอะไรบ้างไหม? “ไม่เคยค่ะ ไม่เคยคุยอะไรกันในเรื่องแบบนี้เลย มีทางผู้จัดการส่วนตัวของน้องที่โทร.เข้ามาขอโทษหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แล้ว ก็เข้าใจกันค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าพี่เองก็แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องธุรกิจอะไรแบบนี้เลย หรือคดีความเรื่องนี้ ต้องรอดูว่านี่มันเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วหรือยังว่าน้องจะไม่ได้ประกันตัว ไม่ได้ออกมาแน่ๆ นะ”

“เราก็จะมาแก้ปัญหาในส่วนของเราต่อไป ถ้าสมมติน้องได้ประกันตัว ได้ออกมาแล้ว น้องทำงานไหวหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้พี่ก็ไม่แน่ใจ เพราะเขาก็อาจจะมีเรื่องให้ต้องคิดต้องทำเยอะ อะไรแบบนี้ เราก็ต้องตั้งรับในทุกๆ สถานการณ์เอาไว้ก่อน”

เท่าที่ร่วมงานกับน้อง น้องเป็นอย่างไรบ้าง? “อย่างที่ทุกคนเห็นว่าน้องเป็นคนมีความสามารถในเรื่องการแสดงอยู่แล้ว พี่เคยร่วมงานกับน้องตั้งแต่ตอน ศึกสองแสบ ที่เป็นพิ้งกี้กับธัญญ่า ตอนนั้นที่ไปถ่ายที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็มีคลับฟรายเดย์เดอะซีรีส์ และก็มาเรื่อง ดงดอกไม้ นี้ ก็จะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุดค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7225177
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7225177