แต่ทีนี้การที่ของจะไปถึงก่อน 10 โมง คือทุกอย่างร้านเราต้องทำใหม่ ไม่สามารถทำไว้แล้วแช่และมาอุ่นส่งลูกค้าได้ ดังนั้นลูกน้องทุกคนเลยต้องมาหาที่นอนใกล้ๆ ที่ผลิตครับ ตื่นตี 4 ทุกคนมารุมกันทำเพื่อให้ออเดอร์นี้สำเร็จ ซึ่งปกติร้านเราต้องมีมัดจำอยู่แล้ว หรือโอนเงินก่อน เราถึงจะเริ่มผลิต แต่วันนั้นผู้จัดการร้านติดต่อผมไม่ได้เพราะผมทำงานอยู่ทั้งวัน เขาเลยตัดสินใจด้วยตัวเองเพราะคิดว่าเราเคยทำให้งานให้กับราชการ ให้กับกระทรวงอยู่บ่อยๆ และบุคคลที่ชื่อป้าปุ๊กเขาพูดน่าเชื่อถือมาก เสมือนว่ารู้จักกับผม และผมรับรู้เกี่ยวกับออเดอร์นี้แล้วด้วย เขาเลยเดินหน้าสั่งออเดอร์ให้สำเร็จไว้ก่อน

ทีนี้เรื่องมันมาเกิดขึ้นเมื่อวาน เช้าวันจันทร์ ทุกคนเริ่มลุยทำแล้ว ผู้จัดการร้านก็รอเวลาเปิดของราชการ โทรไปหาผู้รับที่ป้าปุ๊กให้ไว้ แต่ป้าปุ๊กให้ทั้งชื่อจริง นามสกุลเขา และยังใช้เบอร์มือถือโทรเข้ามาด้วย ซึ่งพอเราโทรไปหาผู้รับที่กระทรวงแรงงาน ปรากฏว่าผู้รับมีอยู่จริง ชื่อนี้จริง แต่คนนี้น่ารักมาก เป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย เขาบอกว่า ขอโทษนะจ๊ะน้อง วันนี้ทางกระทรวงไม่ได้มีงานจัดเลี้ยงอะไร และเราไม่ได้สั่งด้วยค่ะ

จากนั้นผู้จัดการก็รีบโทรหาผม บอกน่าจะเกิดเรื่องแล้วครับ ผมเลยบอกให้เขาโทรกลับไปหาป้าปุ๊กสิ ผมก็ถามต่อว่าเขาได้วางมัดจำไว้ไหม ผู้จัดการร้านก็ตอบว่า มันเป็นวันอาทิตย์ หน่วยงานราชการไม่สามารถเบิกเงินมาได้เพื่อจ่ายวันอาทิตย์ ผมก็บอกไม่จริง ผมเคยทำงานราชการ ทุกอย่างเขาทำเป็นระเบียบระบบ คือถ้าจะส่งวันจันทร์ เขาจะสั่งตั้งแต่วันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ไปแล้ว เงินเขาก็เบิกมาแล้ว ไม่มีทางที่จะลืมแล้วมาสั่งวันอาทิตย์หรอก เป็นไปไม่ได้

พอติดต่อไปที่ป้าปุ๊กอีกที ป้าปุ๊กก็มาโป๊ะแตกบอกว่า ไปส่งที่คนนั้นอะถูกต้องแล้ว เงินอยู่ที่เขาหมดแล้ว เอาไปให้ตั้งแต่เมื่อวาน เราก็ อ้าว… เลยลองโทรกลับไปที่กระทรวงแรงงานว่ายังไง พอโทรกลับไปเสร็จพี่คนนี้น่ารักมาก เขาขอชื่อนามสกุลคนที่สั่ง เพื่อจะได้ช่วยเช็กว่าเป็นคนในกระทรวงแรงงานจริงหรือเปล่า สรุปว่าคนชื่อป้าปุ๊กเคยทำงานอยู่ที่กระทรวงแรงงานแต่ได้ลาออกไปแล้ว หากมีอะไรให้ช่วยก็โทรกลับมา

เราก็โทรไปหาป้าปุ๊กอีกว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นนะ ในเมื่อทางผู้รับเขาบอกไม่มีงาน แต่เราผลิตแล้ว จะเอาไปส่งทางป้าปุ๊กแล้วกัน เขาก็ยังยืนยันว่าทางนู้นมีงานนู่นนี่นั่น ซึ่งพอเราขอที่อยู่จะจัดส่งสุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสายเรา และไม่รับสายเราอีกเลย”

วันนี้ที่เข้ามาแจ้งความจะดำเนินคดียังไงบ้าง?
“วันนี้ผมคงมาลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และมาดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยอะไรผมได้ขนาดไหนกับความเสียหายหลักแสนที่ผมโดนเข้าไป แต่เบื้องต้นผมลองย้อนคิดกลับไปดูเหตุการณ์ที่มีเรื่องคดีข้าวกล่อง ถ้าเขาไม่ได้มารับเอาของไป มันเหมือนเป็นคดีแพ่งเฉยๆ ยังไม่ใช่คดีอาญา ผมเลยยังไม่ทราบว่าผมจะเอาเรื่องคนนี้ได้ขนาดไหน ผมเลยมาปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะทำอะไรได้บ้าง”

กังวลอะไรไหม?
“กังวลว่ามันจะลอยนวลครับ เพราะถ้าเกิดเป็นอย่างที่เคยทำการบ้านมาเรื่องข่าว เสมือนกับว่าเราลงบันทึกประจำวันได้ ต้องเอาใบบันทึกประจำวันไปฟ้องศาลเอง โดยที่เราต้องไปสืบบุคคลคนนั้นเอง มันก็มีความเสี่ยงกับคนที่โดนเหมือนมิคถูกต้องไหม เพราะถ้าไปสืบแล้วเป็นนักเลงขึ้นมาแล้วโดนทำร้าย ก็ต้องมาคิดกันต่อว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ไม่แน่วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะมีลู่ทางในการช่วยเหลือ คือต้องปรึกษาผู้ที่รู้เรื่องกฎหมายจริงๆ”

ตอนนี้คือมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าโดนหลอกชัวร์ๆ?
“โดนหลอกชัวร์ๆ ครับ เพราะจนป่านนี้แล้วป้าปุ๊กยังไม่ติดต่อมาเลยครับ และไม่ยอมรับสายด้วย”

คือเรามั่นใจไหมว่าคนที่โทรมาคือป้าปุ๊กจริงๆ?
“คือเขาอ้างว่าชื่อป้าปุ๊ก และให้ชื่อนามสกุลมา คือมิคพูดตรงๆ มิคก็ไม่รู้ว่าที่เขาให้มาเป็นชื่อนามสกุลจริงๆ ของเขาหรือเปล่า แต่พอไปเช็กที่กระทรวงแรงงานก็บอกว่าเคยมีบุคคลนี้ทำงาน แต่ลาออกไปแล้ว เดี๋ยวเราคงต้องให้ทะเบียนราษฎรเช็กอีกทีว่ามีบุคคลคนนี้ไหม แต่เรามีเบอร์มือถือที่เขาโทรเข้ามาหาเรา ผมเลยหวังไว้อย่างเดียวว่าคงจะเช็กจากการลงทะเบียนซิมได้ แต่เราคงไปเช็กเองไม่ได้ เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการต่อให้กับเราครับ”

มิค บรมวุฒิ ขอบคุณภาพจากไอจี @mickbaromvudh

มองว่าเป็นการป่วนมั้ย?
“ผมไม่ทราบจริงๆ แต่ผมคิดว่าคู่แข่งคงไม่น่าทำแบบนี้หรอก เพราะเจ้าต่างๆ ต่างก็ทำมาหากิน แล้วแต่ละคนมีสูตรไม่เหมือนกัน เวลาเราไปจัดบูธเจอกันก็ยังไปทักทายสวัสดี ผมจึงไม่เห็นทางเลยว่าเป็นคู่แข่งมาทำ”

แล้วเราจัดการกับของที่ทำไปแล้วยังไงบ้าง?
“แจกครับ อันดับแรกเลยคือเอาไปถวายเพลพระก่อนเลยอย่างพวกข้าวผัด เพราะทุกเมนูเราต้องทำใหม่ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ดังนั้นเวลาเขาสั่งถ้าไปถึงแล้วไม่ร้อนเท่าเดิมมันจะผิดสังเกต แสดงว่าเอาของเก่ามา เป็นข่าวขนาดนี้ผมก็ไม่สามารถเอาของเก่าไปขายได้อยู่แล้ว เลยถวายและแจกจ่ายคนแถวนั้นทั้งหมดเป็นร้อยๆ กล่องเมื่อวานเลยครับ แจกกันยับเลยครับ

แต่ตัวปัญหาคือปูดอง เพราะตัวจะถูกแช่แข็งในน้ำดองมา ถ้าคนชื่อป้าปุ๊กไม่ได้สั่งว่าทุบหั่นให้พร้อมทาน ผมก็คือเก็บ เอามาขายได้ใหม่ มันไม่ได้เกิดความเสียหายใดๆ แต่ปรากฏว่าเขาสั่งให้ละลายน้ำแข็งและทุบหั่น ไปถึงให้พร้อมทานได้เลย ดังนั้นอันนี้ก็เก็บไม่ได้อยู่ดี ต้องกินภายในเมื่อวาน”

ผู้จัดการได้บอกมั้ยว่าตอนที่ป้าปุ๊กพูด ทุกอย่างดูมีความน่าเชื่อถือมาก?
“เขามาเล่าตอนเช้าหลังจากที่เขาโทรหาพี่ที่กระทรวงแรงงานแล้วทราบแล้วว่าน่าจะโดนหลอก เขาเลยรีบโทรหาผม ผมก็สอบตั้งแต่ตรงนั้นว่าทำไมไม่มัดจำ พอเขาบอกว่าก็เห็นคุณมิคทำงานให้กระทรวง ทำให้ราชการเยอะ แล้วเขาพูดเสมือนว่าเรารับรู้ออเดอร์ใหญ่นี้ด้วย เราก็เออว่ะ ถ้าเกิดติดต่อผมไม่ได้ และมันอยู่ในความคุ้นชินที่ผมทำงานด้านแบบนี้ ผมก็เลยไม่ได้ดุ ไม่ได้ว่าเขา เป็นผม ผมก็อาจจะรีบคิดและรีบตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน เพื่อกันว่าออเดอร์ใหญ่ขนาดนี้กับกระทรวงมันจะเสียหาย มันเป็นดวงมากกว่า เพราะทุกอย่างดูเข้าอีหรอบให้มันโดนแบบนี้”

ความเสียหายหากไม่ได้รับเงินชดเชยคืนจะทำยังไง?
“(หัวเราะ) ทำใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ จะโยนความผิดให้ใครก็ไม่ได้ แต่ก็เสียดายเงินเนอะ เป็นแสนเลย ทำงานตั้งนานกว่าจะได้”

มิค บรมวุฒิ ขอบคุณภาพจากไอจี @mickbaromvudh

จากนี้จะสร้างมาตรฐานในการรับงานยังไงบ้าง?
“คงต้องบอกเลยครับว่าไม่ว่าจะกรณีใดๆ จะมาอ้างชื่อผมหรือใดๆ ก็ตาม ออเดอร์ใหญ่มัดจำไว้ก่อน แล้วทุกออเดอร์ถ้ายังไม่โอนก็อย่าเพิ่งเริ่มทำ คือจริงๆ ผมโดนแคนเซิลบ่อยเนื่องจากลูกค้าบางท่านไม่เข้าใจที่ส่งให้ช้าเพราะเราทำใหม่ทุกกล่อง ต้องสั่งล่วงหน้า หากเป็นลูกค้าเก่าจะเข้าใจ และหลายครั้งที่แคนเซิลก็จะถูกส่งกลับไปบ้านผม ดูหุ่นผมสิครับ (หัวเราะ) แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุด เพราะที่ผ่านมาจะโดนแค่ข้าวผัดกล่อง ปูดองสองกล่อง อะไรประมาณนี้”

เรียกว่าเป็นบทเรียนแสนสาหัสเลยไหม?
“บทเรียนแสน…สาหัส ใช่ครับ (ยิ้ม)”

คาดว่าจะจับตัวคนทำได้ไหม?
“อยากจะให้จับให้ได้ และอยากจะถามว่าทำไปเพื่ออะไร มันไม่มีใครได้ผลดีกับเหตุการณ์นี้เลย ทำทำไม มิคไปทำอะไรให้เขาเหรอ ใจจริงทั้งหมดทั้งมวลผมไม่รู้หรอกว่าคดีจะไปได้ไกลขนาดไหน แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์มากกว่า สำหรับผู้ขายก็ควรจะให้ลูกค้ามัดจำหรือโอนเงินก่อน และผู้ซื้อก็อย่าโกรธเวลาที่ผู้ขายเขาขอให้โอนเงินก่อน เพราะมันมีคนนิสัยไม่ดีที่ทำแบบนี้อยู่จริงๆ นะ อยากให้ทุกคนเข้าใจ เป็นแบบนี้มันปลอดภัยกว่า”

อยากบอกอะไรป้าปุ๊กไหม เผื่อเขาดูอยู่?
“ทำแบบนี้กับผมทำไม โทรมาหาผมหน่อยสิ”

ตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยไหม?
“คือตอนแรกตัวผมเองกะจะไม่ยุ่ง เพราะเอาไว้เป็นบทเรียนที่แพงแสนสาหัสดีกว่า แต่หลายๆ คนที่อยู่ในวงการการค้าขายก็โทรมาหาบอกว่าให้เอาเรื่องถึงที่สุดนะ เพราะไม่รู้ว่าเขาทำอย่างนี้กับคนอื่นรึเปล่า และควรจะกันไม่ให้เขาทำอย่างนี้กับคนอื่น อาจจะมีคนอื่นโดนแต่ไม่รู้เป็นคนคนเดียวกันรึเปล่า ก็เลยอะ…ถ้าเราจะเป็นกระบอกเสียงเพื่อหยุดการกระทำไม่ดีของคนคนนึงที่จะทำกับบุคคลหลายบุคคลได้ ก็ลองลุยให้ถึงที่สุดก่อนครับ”.