กันตา ดานาว ย้อนอดีตสุดแซ่บ พลิกชีวิตจากนางเอกสู่สาวออฟฟิศ! (คลิป)
เข้าวงการนานมั้ยถึงเจอคุณสามี?
วิกกี้ : หลายปีอยู่ค่ะ ประมาณ 7-8 ปี คือเหมือนออกงานแล้วกลุ่มเพื่อนที่เราออกงานกับกลุ่มเพื่อนทางคุณสามีเค้าเจอกัน เมื่อก่อนเค้าเป็นเจ้าของเธค ผับ แล้วเราไปโชว์ตัว ก็เจอกัน ออกงานบ่อยๆ
เจอกันแล้วปิ๊งเลยมั้ย?
วิกกี้ : ก็ไม่ขนาดนั้น ด้วยความที่งานเราเยอะ ต้องบอกว่าเมื่อก่อนนักแสดงไม่เยอะเหมือนสมัยนี้ เพราะฉะนั้นงานละครเราทุกวัน 7 วันเราถ่ายละคร 3-4 เรื่องทั้งคิวกลางวัน กลางคืน มันไม่มีเวลาจริงๆ โอกาสที่จะมาเจอคนข้างนอกค่อนข้างยาก นอกจากไปงาน
สมัยก่อนโซเชียลยังไม่แรง เวลามีแฟนหรือทำอะไรก็ต้องเก็บเงียบๆ แต่พี่เปิดตัวแฟนเลย รวมถึงท้องก็ประกาศด้วย?
วิกกี้ : ใช่ค่ะ ด้วยความที่เรานิสัยเราจะฝรั่งๆ เป็นคนตรงๆ ไม่ต้องรอให้มาแอบว่าทำไมช่วงนี้ดูอวบขึ้น เอ๊ะ ท้องหรือเปล่าแล้วก็มีข่าว ก็บอกว่ามีแฟนแล้วนะเป็นคนนี้ พอท้องก็ท้องแล้วนะ คือประกาศเลยยังไม่ทันได้มีใครมาตื่นเต้นแอบสืบข่าวของเรา
ไม่กลัวดราม่าพวกแฟนคลับของเรา พอเรามีเจ้าของแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยน?
วิกกี้ : คือสมัยก่อนเข้าวงการตั้งแต่อายุ 16 ทำงานทุกวัน ทุกวันจริงๆ กลางวันกลางคืนทุกวัน ไม่เคยได้พักมันรู้สึกเหนื่อย พอเรามีตรงนี้เรารู้สึกว่าพร้อมแล้วอาจจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัวด้วย
ตอนที่ตั้งท้องอายุเท่าไร?
วิกกี้ : อายุ 21 ตอนมีลูกแล้วก็ 22
ตอนนั้นเป็นนางเอกชื่อเสียงกำลังมาไม่ได้แคร์เรื่องของดราม่าหรือว่างานจะหด?
วิกกี้ : ไม่ค่ะ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ว่านักแสดงน้อยงานเยอะมาก คือตอนนั้นความคิดของเราคืองานมันเยอะมากๆ จริงๆ ไม่ได้คิดว่าจะมีเอฟเฟกต์อะไรมากระทบ
ตอนนั้นเรียกว่าท้องก่อนแต่งได้มั้ย?
วิกกี้ : ไม่ค่ะ เพราะว่าแต่งก่อนท้อง
พอท้องแล้วคลอดก็หายจากวงการเลย?
วิกกี้ : ตอนนั้นยังถ่ายละครอยู่ ท้องสองคน ปี 36 กับ 37 พอเราเป็นคุณแม่ใหม่ๆ จะเซ้นซิทีฟมาก เจอเรื่องราวของลูกคนอื่นรับไม่ได้ร้องไห้เหมือนจะซึมเศร้า มันจะเป็นภาวะของคนมีลูกใหม่ๆ แล้วสมัยก่อนข่าวเยอะมากพยาบาลดูแลลูก ทิ้งลูก มัดลูก ทำลูกตก มีข่าวให้เราเห็นคือทำใจไม่ได้ปรึกษากับสามีว่าขอเฟดตัวเองอยากมาทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ เราก็ไม่ไว้ใจ
ไม่เสียดายงานในวงการเหรอ ตอนนั้นกำลังรุ่งเลย?
วิกกี้ : อาจจะเป็นเพราะเรารู้สึกว่าอายุค่อนข้างน้อยแล้วงานมันเยอะ แล้วอีกอย่างคือคุณสามีเลี้ยงเราได้
อยู่บ้านเลี้ยงลูกเครียดมั้ย?
วิกกี้ : มีความสุขไม่ค่อยเครียด สิ่งที่ชอบมากที่ตัดสินใจถูก พัฒนาการของเราครั้งแรกเราได้เห็น เราได้เจอ ก้าวแรก มองแรก คว่ำแรก หงายแรก การเปลี่ยนแปลงของเค้าครั้งแรกเราได้สัมผัสประสบการณ์ที่ถ้าเราฝากคนอื่นเลี้ยงเราจะไม่ได้ พอมันผ่านตรงนั้นมันเรียกกลับมาไม่ได้
พอเลี้ยงลูกได้พักนึงไม่กลับมาทำงานในวงการบันเทิงไปทำงานออฟฟิศเพราะอะไร?
วิกกี้ : ที่ยังไม่กลับมาเพราะตอนแรกกะเลี้ยงลูกแป๊บเดียว พอลูกเข้าโรงเรียนเดี๋ยวกลับมา
แป๊บนึงกี่ปี?
วิกกี้ : แป๊ปนึงก็ประมาณ ม.2-ม.3 ตอนแรกนึกว่าลูกติดเรา เปล่าหรอกเราติดลูก มีช่วงนึงมีผู้ใหญ่ที่สนิทกับสามีเค้ารู้สึกว่าลูกโตแล้ว แล้วเค้าก็ทราบว่าเมื่อก่อนเราทำงานอะไร ไม่ควรอยู่เฉยๆ ต้องทำงาน เค้าก็เป็นจุดเปลี่ยน เค้าก็แนะนำติดต่อประสานทุกอย่างว่าจะต้องมาทำงานที่นี่
เป็นงานอะไร?
วิกกี้ : เป็นงานบริการ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทคิง เพาเวอร์ ดูแลแผนกต้อนรับเรื่องการบริการ
เห็นว่าทำงานแรกๆ เครียดร้องไห้เลย?
วิกกี้ : คือไม่เกี่ยวกับองค์กรนะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่วงการบันเทิงมา วงการบันเทิงสอนให้เรามีวินัยตรงต่อเวลา ซึ่งเราซึมซับตรงนั้นมา แต่การที่เราจะต้องอยู่ในกรอบ วิ่งไปตอกบัตรที่ทำงานมันเป็นอะไรที่เครียด คือมันไม่ชินเพราะทั้งชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนั้น แล้วเราต้องมาอยู่ในกรอบ กฎกติกาของเค้า ซึ่งการปรับตัวก็ต้องเอาชนะมันให้ได้ แต่ว่าค่อนข้างกดดัน มันไม่ใช่กดดันเพราะว่าแค่เหตุผลนี้ มันกดดันเพราะว่าคนด้วย
ได้ข่าวว่าพอทำงานที่นี่ใหม่ๆ โดนดราม่าเลย?
วิกกี้ : เท่าที่คนอื่นเล่าให้เราฟังด้วยความที่เราเป็นนักแสดงเข้ามาเหมือนเค้าต่อต้านก่อนเลย เรามาจะต้องเรื่องเยอะ เป็นดารามาต้องเรื่องมาก ที่สำคัญเรามาในฐานะหัวหน้า มันอาจจะกระทบหลายๆ ฝ่ายที่เค้าอาจจะมีความก้าวหน้าของเค้า ก็เลยโดนกลั่นแกล้งค่อนข้างเยอะอยู่
ขนาดไหน ไม่ให้ไปกินข้าวด้วย?
วิกกี้ : เคยมีคำสั่ง เคยชวนน้องๆ ไปทานข้าว น้องเค้าก็บอกว่าขอบอกตรงๆ พวกหนูถูกสั่งว่าใครไปทานข้าวกับพี่วิกกี้จะถูกหมายเตือน พี่เลยรู้ว่าเล่นกันขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็ไม่เป็นไรต้องอยู่ให้ได้ เค้าไม่อยากให้เราไม่อยู่ใช่มั้ย เราก็ต้องอยู่
กินคนเดียวกี่เดือน?
วิกกี้ : หลายเดือนอยู่ 4-5 เดือน
เกิดอะไรขึ้นถึงมีคนมากินข้าวด้วย?
วิกกี้ : ก็เจอคนที่แกร่งไง แบบฉันไม่แคร์ ก็มากินข้าวด้วย คนที่สั่งเค้าโดนออกไปก่อน
ตอนนั้นคุณลูก คุณสามีให้กำลังใจยังไง?
วิกกี้ : ให้กำลังใจมากค่ะ คือชีวิตเราจะอยู่ตรงไหนต้องทำความเคยชิน เหมือนเราอยู่ในโซนของเราต้องเปลี่ยนชีวิตตามสถานการณ์ไป เราเคยอยู่วงการบันเทิงอยู่ดีๆ ก็ไปเป็นมนุษย์เงินเดือน เราก็ต้องเข้าใจเค้า ซึ่งบางทีเราก็ต้องปรับตัว ที่บ้านก็จะเป็นคนให้กำลังใจ ไม่งั้นคงไม่อยู่ได้มาจนทุกวันนี้
นอกจากเรื่องไม่ให้กินข้าวด้วย โทรศัพท์ก็ไม่ให้พกมา เค้าห้ามใช้มือถือยังไง?
วิกกี้ : สมมติคุณเป็นหัวหน้างานยิ่งกว่า Supervisor อีก Supervisor ก็ต้องมีการประสานกันทางโทรศัพท์ แต่คุณเป็นหัวหน้าที่พกมือถือไม่ได้แต่ลูกน้องพกได้คุณรู้สึกยังไง เสียหน้าด้วย แต่ก็ไม่ถึงเดือน จริงๆ สถานการณ์มันไม่ใช่ แต่เหมือนคำพูดเค้าอะ เราเป็นคนใหม่เข้าไปต้องปรับสภาพไม่รู้ว่าแบบนี้อยู่ยังไง แต่บางทีคำพูดของเค้ามันกดดันในความคิดเรา
ก่อนเค้าออก เค้าได้บอกมั้ยว่ามันอะไรนักหนาที่ทำให้เค้าต้องทำกับเราขนาดนี้?
วิกกี้ : ไม่ได้คุยกับเค้าโดยตรง เท่าที่ทราบจากมือซ้ายมือขวา เค้าก็มีเป้าหมายที่จะปั้นใครขึ้นมา ก็คือเราเป็นตัวน่าหมั่นไส้อะ อยู่ดีๆ ก็เดินเข้ามาทำไม
ตอนนี้ยังทำอยู่ที่เดิมหรือเปล่า?
วิกกี้ : อยู่ค่ะ 14 ปีแล้ว
ลูกชายหล่อมาก หวงลูกมั้ย?
วิกกี้ : ยอมรับว่าทั้งห่วงและหวง
ตอนนี้ลูกทำอะไรอยู่?
วิกกี้ : คนโตเป็นตำรวจชื่อเล่นนิกกี้ อายุ 26 อยู่นครราชสีมา คนเล็กน้องไมค์ ทั้งคู่เป็นตำรวจชั้นประทวนอยู่จังหวัดนครราชสีมาทั้งคู่เลย
ทำไมถึงไปอยู่ต่างจังหวัด?
วิกกี้ : เพราะตอนที่เค้าเรียนเค้าสอบได้โรงเรียนสามก็คือจังหวัดนครราชสีมา พอทำงานก็ต้องเป็น สภ.ในเมืองเค้า
มีลูกสนิทกันขนาดไหน?
วิกกี้ : ก็คุยกันได้
จริงหรือเปล่าที่ห้ามลูกชายมีแฟน?
วิกกี้ : คือเราก็ไม่ได้ห้ามตรงๆ แต่อยากให้ดูดีๆ
มีสเปกลูกสะใภ้มั้ย อยากได้ประมาณไหน?
วิกกี้ : เค้าต้องให้เกียรติลูกเรา ไม่สนใจว่าคุณจะทำอาชีพอะไร จะมาจากไหน แต่สำคัญเลยคือคุณต้องให้เกียรติกัน ถ้าคุณจะหึงหวงแล้วไปโพสต์ตามโซเชียลไม่ให้เกียรติกันเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ การที่คุณไม่ให้เกียรติเค้าก็เท่ากับไม่ให้เกียรติพ่อแม่เค้าด้วย อนาคตคนจะมองคุณยังไง ถ้าไม่ให้เกียรติกันแล้วก็กลัวว่าเค้าจะไม่มีความสุขด้วย จะเน้นตรงนี้มากกว่า
ปัจจุบันนี้การดูแลของคุณสามีเป็นยังไงบ้าง?
วิกกี้ : ดีเหมือนเดิมทุกอย่าง เราคุยกันเยอะมากอยู่ด้วยกันตลอด พี่เค้าอายุห่างจากเรา 8 ปี เป็นผู้ใหญ่กว่าเพราะฉะนั้นประสบการณ์ชีวิตเค้าเยอะกว่า มุมมองของเค้า ประสบการณ์ของเค้าจะสอนเราเยอะ ก็จะไว้ใจปรึกษาแค่พี่เค้าคนเดียว
แม่หวงลูกแล้วพ่อหวงลูกบ้างมั้ย?
วิกกี้ : เค้าจะสอนเราว่าอย่าทำแบบในละครนะ แม่สามีกับลูกสะใภ้ อย่าเด็ดขาด
อยากรู้เทคนิคทำยังไงให้สามีรักเรานานขนาดนี้?
วิกกี้ : หลักๆ คือความไว้วางใจ ไม่เคยไปหวาดระแวงไปค้นหา จะไปไหนไป อยู่กันมาเกือบ 30 ปีแล้ว เค้าบอกจะไปไหนไว้ใจเค้าอย่าหวาดระแวง อย่าไปขุดคุ้ยอย่าไปยุ่งกับโทรศัพท์ อย่าไปทำอะไรแบบนั้น สิ่งที่สำคัญเลยเค้ากลับบ้านเค้ารับผิดชอบครอบครัว เค้าดูแลดีพอแล้ว นอกจากนั้นเค้าก็จะทำของเค้าเอง
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง