คิตตี้ เตรียมเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ทำงานแทน เอส กันตพงศ์ หลังล้มป่วย


ให้คะแนน


แชร์

หลังจากที่ครอบครัวของ เอส กันตพงศ์ ได้มีการแถลงข่าวถึงอาการของพระเอกหนุ่ม หลังจากที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน จนต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นการด่วน

และอาการล่าสุดที่ครอบครัวแจ้งคือ ตอนนี้เอสฟื้นตัวและร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้เป็นอย่างดี ล่าสุด คิตตี้ คริสติน่า ภรรยาของเอส ก็ได้เปิดใจอีกครั้งถึงอาการของสามีในรายการ เที่ยงบันเทิงสด ทางช่อง 7 

โดย คิตตี้ ได้เผยถึงความรู้สึกของตนเองว่า ตอนนี้ดีขึ้น เพราะสามีอาการดีขึ้น พ้นจากช่วงวิกฤติ มีความกังวลลดลง โล่งใจมากขึ้น ในส่วนของสุขภาพของเอสนั้นค่อยๆ ดีขึ้น แต่หัวใจยังมีการอักเสบอยู่ เรื่องของสภาพร่างกายภายนอกยังต้องมีการทำกายภาพ

ก่อนที่ คิตตี้ จะเล่าช่วงวินาทีแรกที่เอสฟื้นให้ฟังว่า โมเมนต์แรกที่เอสได้สติยังมีการใส่ท่อช่วยหายใจอยู่เลยยังพูดไม่ได้ แต่มีความพยายามที่จะพูด หลังจากนั้น 2-3 วันได้มีการถอดเครื่องช่วยหายใจออก ก็จะพูดปะติดปะต่อเป็นคำ เป็นประโยค แต่ยังมีความสับสนว่ายังทำงานอยู่หรือเปล่า ถ่ายฉากไหน ใส่เสื้อผ้าอะไร เพราะเอสรักงานและทุ่มเทกับงานมาก คิดแต่เรื่องงานอยู่

พร้อมกับเล่าถึงความน่ารักของลูกสาว น้องวาเลนติน่า ที่ได้พูดคุยกับคุณพ่อหลังจากที่ได้สติว่า น้องวาเลนติน่าเข้าใจว่าคุณพ่อยังป่วยอยู่ มีการเล่นเป็นคุณหมอกับนางพยาบาลให้คุณพ่อพัก เป็นเด็กที่สวีตมากๆ และในช่วงที่เอสยังสับสน แต่ก็ยังจำได้เสมอว่าเขายังรักเด็กคนนี้มากๆ

ส่วนที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ตอนที่เอสได้ฟื้นในช่วงแรกพูดได้แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งคิตตี้ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนั้นเอสก็มีการเรียบเรียงคำพูด อาจจะมีความสับสนในการพูด แต่ยืนยันว่า พูดได้ทั้งไทยและอังกฤษ

พร้อมกับขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ และได้บอกสามีว่ามีแฟนๆ รอเจอ รอดูผลงานอยู่ แม้แต่ในไอจีของคิตตี้ทุกข้อความเป็นเหมือนกำลังใจว่าไม่ได้ผ่านเรื่องนี้คนเดียว

และที่ผ่านเรื่องราวหนักหน่วงขนาดนี้มาได้ คิตตี้ก็ว่าไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร รู้แค่ว่าจะต้องเข้มแข็งเพื่อลูกสาว ไม่สามารถแตกสลายได้ เพราะต้องมีความหวังเพื่ออยู่ดูแลลูกสาวและสามีให้ได้ บินมาจากเยอรมนีเพื่อให้กำลังใจ รู้แค่ว่าต้องเข้มแข็ง และคิดว่านี่ก็คือสิ่งที่เอสต้องการ

ในส่วนของ น้องวาเลนติน่า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นโชคดีที่ลูกสาวกำลังอินเรื่องการเป็นหมอ พยาบาล ก็เลยสามารถอธิบายให้ลูกฟังอย่างง่ายๆ ว่าพ่อกำลังไม่สบาย ต้องนอนพักเยอะหน่อย เครื่องมือต่างๆ ลูกสาวก็รับรู้และเข้าใจ

และเมื่อถามว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้วมีความเป็นห่วงเรื่องการทำงานของเอสหรือไม่ คิตตี้ ก็ว่าที่เป็นห่วงคือถ้ากลับมาทำงานอยากให้พักบ้าง เพราะทุ่มเทแบบเกินร้อย ตั้งใจทุกครั้ง และคิตตี้ก็มีแพลนที่จะมาทำงานที่ไทย

เพราะก่อนหน้านี้มีข้อตกลงในครอบครัวไว้ว่าช่วง 4 ปีแรกของลูก เอสจะทำงาน และให้คิตตี้เป็นคุณแม่แบบเต็มตัวเพื่อให้เวลาลูกสาวได้อย่างเต็มที่ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยมีแพลนที่อาจจะมาทำอะไรบ้างเพื่อให้สามีไม่ต้องเครียด

กับสิ่งที่จะทำต่อจากนี้ก็เป็นอะไรที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ แบรนด์ต่างๆ โดยหลังจากนี้มีอะไรที่จะทำได้ก็จะทำ อาจจะเปิดร้านออนไลน์ เปิดรับงานที่จะเข้ามาเพื่อซัพพอร์ตครอบครัว

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2705015
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2705015