เพื่อนรัก ซิง-แจน ขอเม้าท์เผาขน นิสัยที่อยากหยุมที่สุด ทำเอามองบน (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

รายการ “Hell-O มิตร” (ฮัลโหลมิตร) ทางยูทูบแชนแนล PEEPZCO ชวนคู่เพื่อนรักนักแสดง แจน พลอยชมพู และ ซิง หฤษฎ์ จากค่ายจีเอ็มเอ็ม ทีวี มาพูดคุยเม้าท์เผาขนกันและกัน รวมถึงเรื่องน่าหยุมหัวที่ทำเอามองบนเลยจ้า

ถามว่าเริ่มสนิทกันตอนไหน ซิงบอกว่ารู้จักก่อนมาอยู่จีเอ็มเอ็ม ทีวี อีก ตอนนั้นซิงยังอยู่มัธยมอยู่เลย หัวเกรียนๆ เรียน ม.4-5 ส่วนแจนเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แล้ว ด้านแจนบอกว่าตอนนั้นเป็นฟีลรู้จักกันมากกว่า เพราะมีงานที่ได้ไปออดิชันด้วยกัน แล้วเขาแอดไลน์มา ตอนนั้นคิดว่าก็ดี จะได้มีเพื่อนไปออดิชัน แต่ก็ยังไม่ได้เจอกันนะ

ซิงบอกตอนนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร มาสนิทกันจริงๆ ตอนเข้าจีเอ็มเอ็ม ทีวี ตอนนั้นเป็นเด็กใหม่ก็ยังไม่มีเพื่อน ฉะนั้นพอเวลาเรามีเพื่อนอยู่แล้วก็ต้องรักษาเขาไว้ให้ดี เพราะไม่งั้นจะไม่มีคนคบเลย ถามว่าตอนที่เจอกันรู้สึกยังไง แจนตอบทันที “เอาจริงๆ เกลียดมันตั้งแต่ตอนแรกที่รู้จักที่มันทักมา คือเรารู้อยู่แล้วว่ามันเด็กกว่า แล้วมันก็ทักมาบอกว่าโห ไลน์หาง่ายมาก แล้วก็หัวเราะมาด้วย มันแบบ…ใครอะ มันแบบสนิทกันไปปะ”

งานนี้ซิงรีบบอกว่า “อะตอนนั้นผมก็รู้สึกว่าผมฮอตพอตัว” ทำเอาแจนถึงกับบอกว่ามั่น ซิงบอกว่าตอนนั้นเล่นดนตรี ยังไม่เข้าวงการ ผมก็มีแฟนคลับของผมในตอนนั้น แจนบอกว่าซิงฮอตจริง ตอนนั้นที่มีออดิชัน มีการประกวด แล้วเห็นคนกดไลค์รูปเขาเยอะมาก ก็แบบ…ไอ้นี่เหรอ ซิงบอกว่าตอนนั้นตัวเองยังหน้าจิ้งจกอยู่เลย ก่อนจะถามแจนว่าแวบแรกหล่อปะ แจนตอบทันทีว่าไม่หล่อ เรียกเสียงหัวเราะดังลั่น

ก่อนที่ซิงจะเม้าท์อีกว่า ตอนที่เจอกันครั้งแรกคือตอนนั้นรู้จักกันกันก่อนแล้ว ผมมีผู้จัดการคนนึง รู้จักกับผู้จัดการเขา แล้วก็ได้มาเจอในงานอีเวนต์งานหนึ่ง ตอนนั้นแจนยังไม่ใช่ร่างนี้ ไม่ได้คุยกัน แต่เห็นอย่างหนึ่งที่จำได้แม่นคือในงานมันเป็นเหมือนอาฟเตอร์ปาร์ตี้ คนอื่นเขาถ่ายรูป ส่วนแจนกินไม่สนใจใคร พอเรียกถ่ายรูปก็ไปถ่าย เสร็จปุ๊บไม่มีอะไรทำก็กิน แจนบอกจริงๆ เราก็หิว แล้วเราก็รู้สึกว่าเพื่อนทุกคนก็หิว เพราะว่าตอนนั้นมันมีกันสมายอีกคนนึง แล้วกันสมายถามว่าหิวเปล่า กินได้เลย นี่ก็บอกกินได้จริงเหรอ ก็เลยกินเป็นแก้วๆ ซิงแซวว่าคำเล็กๆ นะ แต่ 10 แก้ว

แจนเม้าท์ซิงอีกว่า แล้วมันเรียกหนูว่าไอ้บ้า ทั้งที่แจนเป็นพี่ตั้ง 2 ปี เลยเกลียดมันตั้งแต่ตอนนั้น ด้านซิงรีบแย้งว่าตอนนั้นคุยกันประมาณนึงแล้วเรารู้สึกว่าอยากใช้คำที่สนิทกันหน่อย แต่ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กเราก็รู้สึกว่าอะไรที่ควรไม่ควรตอนนั้นอาจจะยังไม่รู้ แต่ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าน่าจะคุยกันได้แล้วก็เลยใช้คำนั้น ส่วนเรื่องนิสัยไหนที่ศีลเสมอกันสุดๆ แจนสวนทันทีว่าไม่อยากเสมอมัน ด้านซิงก็สวนกลับบ้าง กูอยากเสมอกับมึงมากมั้ง ก่อนแจนบอกว่าเป็นพวกบ้ายุ ด้านซิงบอกว่าถ้าสมมติซื้อของแล้วมีคนมายุว่าเอาเลยๆ แจนขยายความ มันเป็นคำว่าถ้ามึงซื้อกูซื้อ ซิงเสริมว่าล่มก็ล่มไปด้วยกัน

เมื่อถามถึงข้อดีของเพื่อนคนละ 1 ข้อ ซิงบอกว่า ข้อดีอย่างนึงของแจนที่หาได้ยากด้วยสำหรับคนสมัยนี้คือ เวลาเราเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟัง หรือเขามีข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเราหรือคนอื่น มันจะไม่ใช่คนที่สายเม้าท์ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เขาจะไม่เอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าเลย ถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ด้านแจนบอกว่า จริงๆ ซิงก็เป็นประมาณนั้น คือพอเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เราเลยรู้สึกสบายใจเวลาที่คุยกับซิง เราสามารถเป็นตัวเองได้ พูดอะไรก็ได้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้เอาไปพูดต่อในเชิงลบ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ทำเอาซิงแซวว่าคุณคิดอะไรกับผมปะเนี่ย ทำเอาแจนสวนทันทีว่ากูเกลียดมึง ซิงรีบบอกว่า “เขาว่ากันว่าผู้หญิงเกลียด” แจนสวนทันที “ก็แปลว่าเกลียดค่ะ” ฮ่าๆๆๆ

ส่วนเคมีอะไรที่คนชอบให้อยู่ด้วยกัน ซิงบอกว่า ออฟ จุมพล จะเป็นคนที่ชอบผมกับแจนอยู่ด้วยกันมาก เพราะมันชอบเห็นความพินาศ คือพอเวลาเราอยู่ด้วยกัน อย่างนึงคือมันไม่มีใครช่วยใครได้ มันพร้อมที่จะเรือล่มอ่าวไปด้วยกันทั้งคู่ อันนั้นคือความพินาศที่คนน่าจะชอบ จริงๆ ผมว่าสิ่งที่หลายคนอาจจะชอบ ผมไม่แน่ใจเพราะไม่ใช่เขา แต่อาจจะเป็นความเป็นเพื่อนกันมากๆ พอสนิทแล้วอยู่ด้วยกันเยอะๆ คิดอะไรก็พูดได้

กับนิสัยที่อยากหยุมกันที่สุด แจนบอกทันทีว่าเยอะมาก ก่อนจะเล่าว่าวันนั้นเขาชวนกินข้าว ก็บอกว่าไม่ไปๆ เขาก็เร้าหรือ บอกกินแป๊บเดียวถึง 6 โมงเย็นเดี๋ยวกลับเลย สรุปตี 2 คือมันจะแบบกว่าจะกลับมันก็จะแบบว่าแหม แค่นี้ไม่ได้เหรอ ทำไมทำให้กันไม่ได้เหรอ คนอยู่กันเต็มเลย

ส่วนซิงเม้าท์แจนว่าเป็นคนขี้งก ผมไปแถวบ้านมัน ไปเรียนร้องเพลง 3-4 ทุ่ม ก็โทรถามว่าอยู่ไหน เขาบอกว่าอยู่บ้าน เราก็ถามว่าทำอะไร กินข้าวปะ เขาก็ถามว่าเลี้ยงปะล่ะ เราก็โอเค ไอ้เราก็คิดว่าพูดเล่นแหละ ผมก็บอกว่าอยากกินอะไรสั่งเลย เขาก็อะไรอะ อยากกินอะไร มึงกินอะไรมึงสั่งเลย ผมก็สั่งมา 4-5 เมนู ก็คิดว่าคงไม่ให้เราจ่ายคนเดียวหรอก ราคาตอนนั้น 2,000 กว่าบาท แต่พอบิลมาก็ไม่หยิบด้วย ก็โอเคจ่ายไปก่อน กลับบ้านนะ โอเคขึ้นรถ ก็แบบมึงลืมอะไรไปหรือเปล่าว้า สแกนก็มีนะ แต่เขาก็นั่งนิ่ง บอกว่าอร่อยเนาะ ขับถึงบ้าน QR Code ยังไม่ได้แตะเลย

ติดตามชมรายการ Hell-o มิตร ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ได้ทางช่อง YouTube : PEEPZCO

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2711358
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2711358