แอร์ ภัณฑิลา ย้อนเล่าเหตุการณ์ทำสติหลุด โหมงานหนักจนเกือบเสียลูก


ให้คะแนน


แชร์

อายุครรภ์ 8 เดือนแล้ว สำหรับคุณแม่ป้ายแดง แอร์ ภัณฑิลา แต่ล่าสุดเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เกือบเสียลูกในท้องแล้ว ซึ่ง แอร์ ได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่องวัน 31 บอกว่า 

วันนี้กี่เดือนแล้ว?

แอร์ “วันนี้ 8 เดือนกว่าแล้ว อีกไม่ถึงเดือนคลอดแล้ว”

ความตื่นเต้นของคุณแม่มือใหม่ เป็นยังไงบ้าง?

แอร์ “หนูตื่นเต้น พูดกับหลายๆ คนตลอดเวลาว่า ฉันจะเป็นคุณแม่ที่ดีได้ไหมนะ ฉันจะพร้อมไหมนะ เข้าเต้า ลูกฉันหิวฉันจะทำยังไง ก็กังวล อย่างแม่แอร์ก็บอกว่าพยายามเลี้ยงเองก่อน อย่าให้พี่เลี้ยงเลี้ยงเยอะ เขาก็เป็นห่วง”

แม่หมวยจะได้เป็นคุณยายแล้ว ตื่นเต้นไหม?

แม่หมวย “ตื่นเต้นมากค่ะ แนะนำเขาให้ทานอาหารให้เป็นเวลา ยาอย่าให้ขาด”

แอร์ “แม่บอกเลยตกลงจะผ่าหรือคลอดธรรมชาติ เพราะแม่เขาเคยคลอดธรรมชาติและผ่าด้วย”

แม่หมวย “ไม่ไหว อยากให้ผ่า แม่ว่าแผลผ่ามันรักษาง่ายกว่า เราก็เป็นห่วงมาก เพราะเขาตัวเล็ก ลูกเขาจะโตไหม”

แอร์ “ด้วยความที่พี่น้องคนอื่นเขาท้องธรรมชาติกันหมด พอมาเป็นเราเนี่ย ตกลงลูกจะแข็งแรงไหม แบบเด็กวิทยาศาสตร์ เพราะบางคนจะเชื่อเลยว่าเด็กที่ทำขึ้นมาจะไม่แข็งแรงเท่าเด็กปกติ”

ตอนนี้พัฒนาการเบบี๋ในท้องแอร์ เป็นยังไงบ้าง?

แอร์ “จากตอนนั้นเบบี๋ยังไม่ถึงโลเลย ปัจจุบันนี้ประมาณ 2 โลแล้วค่ะ อาทิตย์นึงขึ้น 2 ขีด เขาดิ้นแรงมาก”

เห็นว่าล่าสุดมีอาการตื่นเต้นเกิดขึ้นด้วย เจอสภาวะท้องแข็ง?

แอร์ “ถูกต้องค่ะ พี่จำได้ไหมเราไปเจอกันล่าสุดที่ทำงาน แอร์คิดมาเสมอว่าคนท้องไม่ใช่คนป่วย เรารับงานได้ เราเป็นแม่ที่แข็งแรง วันนั้นอยู่ประมาณ 10-11 โมงไปจนถึงเที่ยงคืนกว่า แล้วกลับถึงบ้านประมาณ ตี 1 กว่า ปรากฏว่าตอนจะนอนมันมีภาวะท้องเกร็งหรือว่าท้องแข็ง แข็งปุ๊บแล้วก็คลาย ซึ่งมันเป็นอาการที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า กระตุ้นเหมือนลูกพร้อมคลอด แต่จริงๆ แล้วเหมือนเราเดินเยอะหรือทำกิจกรรมเยอะจนเกินไป แล้วมันคงเป็นสภาวะที่ท้องแข็ง ไปเร่งเขาในบางที ซึ่งวันรุ่งขึ้นไปหาคุณหมอ ปรากฏว่าคุณหมอบอกว่าอย่างน้อยมันมีสาเหตุเพราะหนูไปทำงานอย่างหนักมา”

พอคุณหมอบอก แอร์มีความกังวลหรือระวังตัวมากขึ้นไหม?

แอร์ “วันรุ่งขึ้นตอนเช้ายังรู้สึกแข็งๆ อยู่เลยนะคะ พอเจอคุณหมอปุ๊บ นิ่งกริบ ไม่ดื้อ ไม่ซน คุณหมอบอกไม่เห็นเป็นไรเลย หนูบอกเป็น”

บ้านหลังนี้มีกฎด้วย?

แม่หมวย “ต้องขับรถเป็น เพราะต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะบ้านเราไม่มีใครดูแลเขา ลูกน้องก็ผู้ชาย ไม่สามารถให้ลูกน้องผู้ชายไปรับลูกเราได้ เพราะลูกเราผู้หญิง” 

แอร์ “คือเขากลัว ถ้าสมมติแม่ไม่อยู่บ้านให้อยู่กันเองพี่น้อง 4 คน ถ้ามีใครเป็นอะไรพาไปส่งโรงพยาบาล สมัยก่อนมันไม่ได้มี สายด่วน ไม่ได้มีอะไรขนาดนี้ คือเด็กๆ จะเป็นฟีลแบบว่าถ้าใครเป็นอะไรให้ขับรถไปส่งโรงพยาบาลได้เลย”

คุณแม่ดุมาก?

แอร์ “เขาจะดุแต่กับลูกน้องหรือใครที่ทำไม่ถูกต้อง แต่กับลูกแม่จะไม่ค่อยดุ เราจะสังเกตว่าแม่พยายามใจดีกับเรา แต่บางทีเขาก็มีปัญหาการทำรถใหญ่ ลูกน้องทิ้งรถ ลูกน้องเมา ลูกน้องตีกัน ทะเลาะกัน เราเห็นเขา เขาเหมือนเจ้าแม่นางพญาเพื่อที่จะคุมลูกน้อง แม่จะเสียงดัง แต่คนที่ดุคือพ่อ แม่จะพูดเสมอว่า แม่เก่งแต่กับลูกน้องแต่กลัวลูก สมัยก่อนมีช่วงที่แอร์งอแงตอนจะไปโรงเรียน ต้องถักเปียอย่างนี้ แล้วบ้านเราไกล แม่ไม่เคยตี แต่แขนเป็นรอยหวี แล้วเขาจะมีประโยคเด็ดของเขา ไม่อยากไปโรงเรียนใช่ไหม ถ้าไม่อยากไปโรงเรียนก็ไปกินหญ้าหน้าบ้าน”

แอร์ “มันเป็นช่วงวัยด้วย พอเราโตขึ้นมาเราจะเข้าใจ แอร์กลับเป็นลูกที่ตื่นก่อน หลังๆ พอเราเริ่มจับจุดได้ เราก็โอเคมานั่งรอดีกว่า”

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าท้องนี้เกือบจะไม่ได้ลูกคนนี้?

แอร์ “ช่วงนั้น 3 เดือนแรก ซึ่งมันเป็นระยะระวังของคนที่ท้องอยู่แล้ว เราพยายามทำตามที่คุณหมอบอกนั่นแหละ แต่พอดีว่าช่วงนั้นเป็นช่วงวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นช่วงพีกของการทำงานของร้านดอกไม้ ลูกค้าเยอะมาก บ้านแอร์ไปช่วยทั้งบ้าน แอร์จ้างคนงานเพิ่ม ทำงานเหมือนโรงงานนรกเลย เพราะมันเป็นเหมือนช่วงโอกาสทองของร้านดอกไม้ แค่ปีละครั้ง เวลามีออเดอร์มาเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด 

ช่วงนั้นเราก็ไม่ค่อยได้นอน ตั้งแต่วันที่ 11-12-13 มันลากมา ทานอาหารอาจจะไม่เป็นเวลา ทีนี้ยาก็มีการเลื่อน พักผ่อนน้อย มีความกังวล ฮอร์โมนเราไม่ปกติ นั่งร้องไห้ เครียด แล้วอยู่ดีๆ พอเราอยากไปเข้าห้องน้ำ ทำไมในชักโครกมันเหมือนมีเลือดออกมา ตกใจแต่ไหวน้ายังไม่น่าเป็นอะไร คือแอร์เป็นวันที่ 13 กุมภา 

วันที่ 14 ตอนกลางคืนแล้วประมาณเกือบ 4 ทุ่มแล้ว งานเริ่มใกล้จะเสร็จแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่าเราเลือดไหล เราก็เอ๊ะ..ยังคุยกับสามี แอร์ บอกไปนี่หว่าว่าแอร์เลือดออก คือลืม เสร็จโทรไปหาคุยหมอ ถามว่าทำยังไงดีเหมือนมีเลือดออกมา แต่ไม่ได้เยอะนะ หนูจะเป็นอะไรไหม คุณหมอพูดว่าให้กินยาที่เคยให้ไปกันแท้ง กินไปเลย 4 เม็ด 

แล้วไปหาหมอที่ใกล้ที่สุด พอหนูวางจากคุณหมอเสร็จปุ๊บ หนูก็โทรหาโรงพยาบาลที่มีหมอสูตินรีเวชตอน 4 ทุ่มบางโรงพยาบาล ก็จะมีแค่หมอฉุกเฉิน แต่อันนี้แนะนำให้เป็นหมอสูเลย หนูนั่งหาแล้วร้องไห้ว่าแบบโรงพยาบาลนี้ไม่มี พี่ช่วยหนูหน่อย” 

วันนั้นแม่ทำยังไง?

แม่หน่อย “ก็บอกว่าใจเย็นๆ เดี๋ยวไปหาหมอ แต่เขาก็ยังห่วงงานอยู่ เขาก็ร้องไห้โฮ เราก็ตกใจ”

แอร์ “งานมันยังไม่เสร็จด้วย ส่งอีกประมาณ 3-4 ช่อ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2712374
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2712374