“คชา” ยืนหนึ่งเพลงอกหัก เคยเบื่อไม่อยากทำแต่สุดท้ายเลิกไม่ได้ เติบโตพร้อมเปิดโลกใบใหม่ๆ


ให้คะแนน


แชร์

คงคอนเซปต์เจ้าพ่อเพลงอกหัก หลังศิลปินหนุ่ม “คชา-นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์” ปล่อยซิงเกิลล่าสุด “พระรอง” ก็ยังเป็นเพลงแอบรักแต่ เนื้อหาแตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งตัว คชา ที่เติบโตหลังโลดแล่นในวงการมากว่า 12 ปี เลยชวน คชา มาคุยเปิดใจเริ่มจากเพลงใหม่ “พระรอง” ว่า

“เพลงนี้เกิดจากวันธรรมดาวันหนึ่งเห็นคุณแม่ชอบดูซีรีส์เกาหลี ในซีรีส์มีพระเอก พระรอง ตัวร้าย พอ เห็นบ่อยๆก็ฉุกคิดว่าพระรองก็เท่นะ แต่ทำไมนางเอกไม่เลือก เลยเขียนเป็นเพลงนี้ แต่เราไม่ได้โฟกัสว่ามันเศร้าด้วยเมโลดี้ทำให้มีชีวิตชีวา ถามว่าเพลงนี้แตกต่างยังไง เรื่องพาร์ตดนตรีก็จะต่างจากเพลงที่แล้วที่ดูเศร้าเพลงนี้จะดูผ่อนคลายกว่าแต่เนื้อหาเพลงยังไม่หลุดออกจากการเป็นตัวสำรอง”

ทำไมถึงอินกับคอนเซปต์อกหักรักไม่สมหวังตลอด?

“เพลงรักก็มี มีเคยเขียนให้ซีรีส์บ้างแต่คนจำเรากับเพลงอกหัก อย่างแรกคือเราเชื่อว่าเราทำได้ บวกกับความชอบด้วย พอความชอบกับความเชื่อมาบวกกัน และเราลองทำมาแล้ว และรู้สึกว่ามันไปได้อีก ถึงจะแอบรักแต่มันก็มีหลายรูปแบบ มันก็คือชีวิตจริงของใครหลายๆคน อาจจะตัวเราด้วย แน่นอนว่าชีวิตคนเรามีหลายแง่มุม ผมว่ามันมาตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ รวมแล้วก็เป็นสิบได้”

เคยมีวันที่คิดฉีกออกมาทำเป็นเพลงรักแฮปปี้เลยมั้ย?

“ก็เคยคิดแต่ยังไม่ได้เห็นภาพตัวเองขนาดนั้น เรายังเห็นภาพตัวเองในเพลงแบบนี้มากกว่าที่เป็นไปได้และเราเอนจอยกับงาน แต่จริงๆตามยุคตามสมัยเราก็มีโอกาสได้ลองทำใส่อะไรในเพลงบ้างให้มีในส่วนผสมของตัวเอง”

ช่วงหลังได้ทำอะไรฉีกกรอบตัวเองออกมาเยอะ เหมือนกัน เช่น เล่นซีรีส์วาย ร่วมรายการหนุ่มๆสายวาย?

“ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับตัวผมนะกับโอกาสใหม่ๆ บางงานใหม่ที่ไม่เคยลอง แม้ว่ามันอาจจะออกมาประสบความสำเร็จมากหรือน้อยแค่ไหน ผมมองว่าอย่างน้อยเราก็ได้เคยทำมัน ในเรื่องการแสดงงานแสดงผมไม่ได้มีกรอบอะไร อาจจะอยู่ที่ช่วงเวลามากกว่า”

ล่าสุด กับรายการ Y Star Challenge?

“สนุกครับ เป็น พี่ใหญ่เลยสนุกดีครับ ได้เจอน้องๆได้ทำกิจกรรมถ่ายรายการ”

น้องๆเกร็งมั้ย?

“มันก็มีความเกรงใจ เราก็จะบอกเลยว่าสบายๆนะ”

12 ปีในวงการเรามอง ตัวเองในการเติบโตยังไง?

“มันก็มีทั้งวันที่ฟอร์มดี ฟอร์มไม่ดี เราก็เคยมีนะ ไม่เคยคิดว่าจะพูดคำนี้กับตัวเองว่า เออ เราเบื่อเพลงเนอะ ไม่อยากทำแล้ว ช่วงนั้นเราก็พัก พักเรื่องเพลง มีโอกาสได้ไปทำอย่างอื่น ได้ไปตกตะกอนคิดทบทวนว่าเราอยากเลิกจริงๆเหรอ พอหลายๆอย่างมารวมกันก็รู้ตัวว่าเลิกไม่ได้หรอกคชา ตอนนั้นน่าจะช่วงปลายปีที่ผ่านมา มันมีความรู้สึกเขียนเพลงแล้วไม่สนุก เลยเลือกพักก่อน เลยได้ไปพูดคุยกับครูที่สอนมาว่าเริ่มรู้สึกแบบนี้แล้วใช่มั้ย ก็ต้องหาว่าเราทำอะไรแล้วมีความสุข”

อะไรที่ทำให้รู้ว่าเลิกไม่ได้?

“ด้วยองค์ประกอบรอบๆตัว เราอาจจะไม่ได้ทำเยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่เราก็เลิกมันไม่ได้และก็ได้ทำอย่างอื่นมาซัพพอร์ตในสิ่งที่เราชอบ ความสุขคือตัวเรายังชอบทำตรงนี้ และแฟนๆ ที่ติดตามเรามายังได้เห็นยังติดตาม เรื่องความโด่งดัง ดังก็ดีนะแต่ผมว่าทุกอย่างมันมีเหตุผลและช่วงเวลาของมันเราก็ยังมีผลงานชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ว่าเราเป็นแบบนี้นะ ผมว่าทุกคนก็มีจุดเด่นของตัวเองและฉายแสงออกมา”

ล่าสุดได้กลับมารียูเนียนจัดแฟนมีตติ้งกับคู่จิ้นเต๋า-เศรษฐพงศ์?

“เราเพิ่งเสร็จแฟนมีตร่วมกันเมื่อเดือน ก.ค. หลังจากที่ไม่ได้จัดมานานมาก มีโอกาสได้คุยกันไว้ว่าจะมีซิงเกิลต้อง รอครับ ได้ย้อนกลับไปเจอแฟนๆที่ไม่ได้เจอกันนาน เค้าก็ยังอยู่ เป็นความรู้สึกที่ดีได้ถามไถ่ว่าเป็นยังไงกันบ้าง ยังสบายดีกันมั้ยด้วยความคิดถึง”

พาร์ตชีวิตทั่วไปล่ะเป็นไงบ้าง ไม่มีเรื่องหัวใจให้หวือหวาเลย?

“ผมรู้สึกว่าในพาร์ตที่ไม่ได้ทำงานมันก็คือชีวิตธรรมดาไม่มีอะไร ทำงานกลับบ้าน เล่นเกม เล่นกับแมว แชตคุยกับแฟนๆ หาอะไรอร่อยๆกิน มันเรียบง่ายมากจนไม่รู้ว่าหวือหวาเป็นแบบไหน เอาจริงๆก็ไม่ได้โสดครับ เราก็โตแล้วเนอะ ผมว่ามันแล้วแต่สไตล์คน ผมรู้สึกว่าเราเก็บมุมนั้นไว้เป็นกำลังใจของเรา ไม่อยากให้ใครเห็น วันที่เราเหนื่อยๆเรามีกำลังใจดีๆของเรา เราก็โอเค มันทำให้เราอยากพุชตัวเอง อยากทำงานในวันต่อๆไป”

ไม่เปิดโหมดคลั่งรักเหมือนคนอื่นบ้าง?

“แล้วแต่สไตล์เลย ไม่แน่วันนึงผมอาจจะมีโหมดคลั่งรักก็ได้ ผมก็ไม่รู้ แต่ ณ วันนี้มันยังไม่ใช่สไตล์เราจริงๆ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2728256
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2728256