“ขนมจีน กุลมาศ” ถูกอวยยศเป็นตัวมัมตัวแม่ ทำไฮโซเคนงงหนัก อยากมีลูกสาวเพิ่ม


ให้คะแนน


แชร์

กลับมาทวงบัลลังก์ตัวแม่ตัวมัม สำหรับ KNOMJEAN หรือขนมจีน–กุลมาศ สารสาส (ลิมปวุฒิวรานนท์) นักร้องสาวเสียงทรงพลัง จับไมค์ร้องเพลงปล่อยซิงเกิลใหม่ “เสียดายว่ะ (Wasted Love)” ค่าย XOXO ENTERTAINMENT สลัดลุคสายหวาน มาเป็นสาวร็อกมาดเท่แต่แฝงความเกรี้ยวกราดอยู่ในตัว ถึงขั้นแฟนๆซู้ดปากกับความเริ่ด ความปัง! ขนาดไฮโซเคน–ขันธ์เพชร สารสาส สามี ยังแอบสะดุ้งกับเอ็มวี ที่มีพั้นธ์ 4eve กับเจมส์–ศุภมงคล มาเล่นแสดงเสมือนดูหนังฆาตกรรม มีความดุดันไม่เกรงใจใคร ส่วนความรักก็หวานเสมอต้นเสมอปลาย พร้อมยอมรับอยากมี “ลูกสาว” เพิ่มอีกสักคนแต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ ใน “คนดังนั่งคุย”

ซิงเกิลใหม่ “เสียเวลาว่ะ” อย่างแซ่บ “เพลงนี้จะพูดถึงความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ วันนึงเราย้อนกลับไปมอง ที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกับอะไร ทั้งๆที่เราสามารถออกมาได้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่มูฟออน ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำดีกับเราเลยนะ ทำให้เราเสียเวลาชัดๆ”

เพลงนี้มีความเป็นขนมจีนยุคกามิ “หลักๆเลยจะเป็นดนตรี ขนมจีนกลับมาร้องป๊อปร็อกเต็มตัว ดึงความเป็นขนมจีนกามิที่ทุกคนคุ้นเคย เพลงของขนมจีนจะแนวเราเก่ง อ่อนแอแค่ไหนจะไม่ให้เธอได้เห็นน้ำตาหรอก เพลงนี้เหมือนกันถึงเราเจ็บแค่ไหนก็กล้ายืนชี้หน้าด่าได้แกทำฉันเสียเวลา มีความเฟียซ เกรี้ยว กราดอยู่ในตัวค่ะ”

ความสนุกกับดนตรีแนวนี้ยังไง “จริงๆจิตวิญญาณ เป็นคนร็อกมาก ด้วยก่อนหน้านี้เทรนด์ของดนตรีด้วย พอโตมาได้รับงานหลากหลายสไตล์ ส่วนใหญ่ไปทางป๊อป แต่ครั้งนี้เรารู้สึกร็อกลับมาแล้ว เราขอได้ทำในสิ่งที่ได้เป็นตัวเอง ที่เราชอบ ร้องแล้วมัน”

คนเห็นลุคของเราหวานๆ ซ่อนเปรี้ยวแต่รอบนี้ทำไมดุดันมาก “(หัวเราะ) สาแก่ใจยิ่งหนักค่ะ ขนมจีนชอบร้องแนวร็อกมาก หวังว่าเพลงนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน อยากไปร้องคอนเสิร์ตอยากเกรี้ยวกราด (หัวเราะ) เพลงนี้ในส่วนของความร็อกเราไม่ได้ติดปัญหาอะไร แต่พาร์ตของการแร็ป ซึ่งขนมจีนไม่เคยมีเพลงที่จะแร็ปมาก่อน เราต้องหาโทนเสียงสไตล์ให้ดูคูลๆ จะต้องไม่พยายามมากเกินไป สายร้องติดสวย เน้นร้องเพราะ แต่พอแร็ปจริงๆจะต้องมีความเท่ ความคูล ไม่ต้องไปพยายามอะไรมาก เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เหมือนกัน เป็นความท้าทาย”

ต้องฝึกฝนความแร็ปหนักขนาดไหน “ไม่ได้ฝึกอะไรมากขนาดนั้น เราเอนจอยกับงาน พอไปอยู่หน้าเซต เรียกว่าเป็นอาหารตามสั่งค่ะ สั่งอะไรมาเราก็โอเค ปรับตามนั้น พยายามหาจนเจอในอันที่มันใช่”

ยากมั้ยทั้งร็อกและแร็ปในเพลงเดียวกัน “ไม่ยากค่ะ สนุกมากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก กลายเป็นความสนุก ท้าทายมากกว่า”

ให้คุณสามีฟังติชมยังไงบ้าง “เค้าฟังแล้วบอกว่าชอบค่ะ แต่เขาบอกว่าเอ็มวีน่ากลัวนิดนึงเหมือนหนังฆาตกรรม (หัวเราะ) ซอมบี้ เค้าจะบอกว่าแล้วลูกจะดูได้มั้ยเนี่ย? จะโหดไปมั้ย? ท้าทายที่สุดเหมือนการเชตเอ็มวี เป็นการเล่าเรื่องของแม่มด มีฟีลร่ายมนตร์ เธอทำฉันเจ็บ ฉันทำของใส่เธอ ท้ายที่สุดจบเอ็มวีพลิกว่าถ่ายหนังอยู่ เด็กๆที่ดูจะเห็นว่าเป็นการเล่นหนังไม่ใช่เรื่องจริงนะ”

หลังปล่อยเพลงฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง “เป็นตามที่เราคาดหวัง ตั้งใจ อยากให้ทุกคนนึกถึงฟีลขนมจีน กามิกาเซ่ ที่ทุกคนคุ้นเคย ทุกคนฟังแล้วบอกคิดถึงเพลงเก่าเห็นแล้วนึกถึงเอ็มวีตามใจปาก เอ็มวีเพลงแรกของขนมจีน เราตั้งใจมากๆ เอ็มวีนี้ให้เป็นเหตุการณ์ในไฮสกูลเหมือนเป็นงานโรงเรียนมีการขึ้นเวทีร้องเพลง เหมือนเอ็มวีเก่า แฟนๆรู้ว่าสิ่งที่เราต้องการสื่ออะไรก็แฮปปี้แล้ว”

ครั้งนี้ลุคขนมจีนก็เปลี่ยนไปจากเดิม ดูร็อก ดูเท่ๆ “ใช่ค่ะ ตอนแรกทีมเอ็มวีก็คุยกันบอกว่าเราร็อกขนาดนี้จะต้องตาดำแล้วล่ะ กลัวจะตกใจไปเลยขอเป็นชาวร็อกแบบเกาหลี (หัวเราะ) หน้าแบ๊วๆ ไว้ก่อน ลดอายุให้อยู่ในช่วงวัยของน้องๆด้วย ที่บ้านก็บอกว่าเวลาอยู่กับน้องๆ ขนมจีนดูโตสุดอยู่ดี (ยิ้ม) ตอนเลิกกองเอ็มวี ทุกคนไหว้หมดเลย แต่ก่อนเจอทุกคนสวัสดีค่ะพี่ๆ แต่มาวันนี้ขนาดช่างแต่งหน้ายังเรียกเราว่าพี่เลย”

มีแว้บๆ ทำไมเราอาวุโสไวจัง “มีพาร์ตตอนที่ช่างแต่งหน้าและน้องๆไหว้กันเยอะ หันมองกลับไปมีแต่น้องๆทุกคน บางคนจะเรียกขนมจีนว่าแม่ เรารู้แหละไม่ได้อยากให้เราแก่ แต่เขาจะเรียกเราตัวแม่ตัวมัม เป็นไอดอล เราก็รู้สึกภูมิใจนะไม่ได้คิดเรื่องอายุ มันเป็นคำยกย่อง พอถูกอวยยศตัวมัมตัวแม่ แต่สามีก็จะหันมาถามทำไมเขาเรียกที่รักว่าแม่ล่ะ สามีไม่เข้าใจก็เลยบอกว่าเป็นตัวให้นมบุตรค่ะ (หัวเราะ) ”

เดือนหน้า ขนมจีนจะขึ้นคอนเสิร์ตกามิกาเซ่ 2023 พร้อมขนาด ไหน “ใช่ค่ะ 21 ตุลานี้ คือด้วยความที่แขกรับเชิญครั้งนี้ปีที่แล้วกับปีนี้ก็แตกต่างกัน เลยเป็นเหมือนจุดมีความน่าตื่นเต้น สนุก คราวที่แล้วไม่มี ครั้งนี้อาจจะเพิ่ม”

ตื่นเต้นขนาดไหนเพราะเราเองห่างหายจากคอนเสิร์ตมานานเหมือนกัน “รู้สึกแบบว่าคาดหวังและเฝ้ารอมากกว่า ตื่นเต้นน่าใกล้ๆวันแหละ คราวที่แล้ว โมเมนต์ตอนไปยืนสแตนด์บาย ด้วยความเราขึ้นคอนมาเยอะก็จะคุ้นเคย พอถึงเวลาได้ยินเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับก็จะเป็นอีกฟีลนึงเลย ตื่นเต้น โหยหา เป็นที่ของเราจริงๆ ทุกคนรักเรา เราสัมผัสได้ โมเมนต์ที่เรายื่นไมค์ให้แฟนๆร้อง น้ำตาไหล ต้องฮึบเลย มันยิ่งกว่าภาพเก่า สมัยก่อนเล่นคอน พารากอน ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมานานเราก็ไม่คิดว่าทุกคนจะจำเราได้ ยังรักเราเหมือนเดิมมั้ย ขนาดเรายังเปลี่ยนเมนพระเอกเกาหลีไปเรื่อย คงไม่แปลกที่เค้าจะเปลี่ยนไปชอบคนอื่น ณ วันที่ได้ยินเค้าร้องน้ำตาไหลเลย ต้องฮึบ! เพื่อร้องเพลงต่อให้ได้ ประทับใจมาก”

คอนเสิร์ตเดี่ยวของเรามีลุ้นขนาดไหน “แฟนคลับเรียกร้องมาเหมือนกันแต่เรายังไม่ค่อยมั่นใจอะไรขนาดนั้นเพราะผ่านระยะเวลามานาน ตอนนี้มุ่งหน้าทำงานปัจจุบันให้ดีก่อนค่ะ”

ชีวิตของขนมจีนก้าวเป็นสเต็ปมากๆ ถือว่าประสบความ สำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง “ถือว่าประสบความสำเร็จขั้นนึงมากกว่า แต่ในทุกๆ บันไดที่เราเดินต้องมีขวากหนามเสมอ ขึ้นอยู่กับเราแบกรับมันได้มากขนาดไหน โชคดีคุณแม่เป็นคนให้ขนมจีนเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง ต้องได้ลองใช้ชีวิตจริงในการแบกรับความกดดัน การแก้ไขปัญหาต่างๆตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เรารู้สึกเราก็ผ่านมันมาได้ อยากเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนด้วยเด็กยุคนี้ ด้วยสังคม เทคโนโลยี ทุกอย่างมันไวหมดเลย เรายังอนาล็อก กึ่งๆ อนาล็อก เราก็เลยมีความช้า ต้องฝ่าฟัน ทุกอย่างไม่ได้ง่าย ขนมจีนเชื่อว่าทุกชีวิตของทุกคนมีเรื่องราวแค่เบื้องหน้าให้ทุกคนได้เห็น ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง ช่วงเวลาที่เจ็บปวด ผิดหวังในเรื่องการทำงาน เรื่องต่างๆ เราไม่สามารถเป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวัง หรือทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคาดหวังเช่นกัน แต่ละคนจะมีวิธีฮีลใจไม่เหมือนกัน ช่วงที่ขนมจีนเล่นละครเจอครูเงาะ เคยคุยกัน ครูเงาะบอกว่า ขนมจีนฮีลตัวเองได้อย่างเร็ว มีเพลงนึง ก้อนหินก้อนนั้น ของโรส- ศิรินทิพย์ สมัยนั้นเราฟังไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจความหมาย พอเราโตแล้วกลับมาฟังทำให้เราคิดได้ บางทีสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา แล้วเราเก็บมันมาคิด ยิ่งทำให้เราเจ็บปวดไปกันใหญ่ เรารู้ว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องจริงแต่ทำไมเราจะต้องเก็บมันมาคิดทำร้ายตัวเอง ณ ตอนนี้รู้สึก อยากปล่อยวางให้ได้มากขึ้น ใช้ชีวิตให้มีสติและมีความสุขกับมันทุกวันจริงๆ แค่ทำทุกวันให้เต็มที่จริงๆ ขนมจีนปลดปล่อยมันได้พอสมควร ช่างมันไม่เป็นไร ไม่ได้คิดแบบแม่พระนะแต่คิดเพื่อตัวเองรู้สึกปล่อยวางเรื่องพวกนี้ เมื่อก่อนเราไม่สามารถพูดอะไรได้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เราต้องทำตัวให้สตรอง ณ จุดจุดนั้น ตอนนี้ก็คือไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้มั้ง (หัวเราะ)”

เป็นเวิร์กกิ้งวูแมน โดนสามีแตะเบรกในการทำงานขนาดไหน “เขาเข้าใจมากๆ ณ ตั้งแต่วันคบเราเขารู้ว่าเราชอบทำงานและมีแพชชันชอบทำงาน เขาก็พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมคอยให้ลูกฟังเพลงนี้ของหม่ามี้นะ เอาเพลงนี้ส่งมาให้หน่อยจะช่วยโปรโมต”

ความสวีตของคู่เราล่ะยังเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน “เค้าก็หวานเสมอต้นเสมอปลาย แต่ด้วยความเป็นพ่อแม่ เราโฟกัสลูกเป็นที่ 1 และต้องแอบหาเวลาสวีตกันบ้าง ต้องพยายามเติมความหวาน เป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่”

พอขนมจีนทำงานเยอะๆ แบบร้อนเงินเขามีขอให้เราให้เวลากับเขาหน่อย “มีค่ะ ด้วยความขนมจีนเป็นคนบ้าคลั่งหนังสือมาก เวลาเราเหนื่อยอยากแอบพักด้วยการอ่านหนังสือ สามีก็จะเป็นห่วงสุขภาพของเรา เขาบอกว่าทำไมคะ นอนเร็วๆ สิ เป็นเรื่องที่เขาจะงอนขนมจีนถึงเวลาจะต้องนอน เวลาที่อยู่กับเขาก็อยากอยู่กับเค้ากับลูก แต่เราก็อยากมีเวลาส่วนตัวแอบอ่านหนังสือบ้าง”

โอกาสจะมีทายาทเพิ่มอีกสักคนมั้ย “ใจจริงอยากมีแต่อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้เป็นเรื่องของอนาคต ก็อยากได้ลูกสาวเหมือนกัน”

แฟนสะกิดชวนมั้ย “ไม่ๆ เขากลัวว่าเราจะรักลูกไม่เท่ากันหรือเปล่า เขาบอกว่าตอนนี้อยากเต็มที่กับไคเดนก่อน เริ่มพูดได้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ”

คำแรกที่ลูกพูดเรียกพ่อหรือเรียกแม่ก่อน “เรียกปู่ค่ะ อยู่เป็น (หัวเราะ) เคยพูดเล่นๆกันว่าลูกต้องเรียกปู่ให้ได้ก่อนนะ พอ
เวลาผ่านไปเราไม่ใส่หูว่าจะต้องเรียกปู่ๆก่อน แต่ด้วยความรู้งานของลูกชายก็เลยจะเรียกปู่เป็นชื่อแรกเลย”

สนับสนุนไคเดนเข้าวงการมั้ย “แล้วแต่เค้าเลยค่ะ ถ้าเกิดอยากที่จะทำ เราพร้อมสนับสนุน ไม่อยากชี้นำหรือกดดันเค้า ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติค่ะ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน
ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2729129
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2729129