“คอนเสิร์ตนี้ก็เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของอะตอมนะครับ เป็นอะไรที่เป็นเป้าหมายอันนึงของเรา ที่เราตั้งใจทำให้เกิดขึ้น แล้วก็มีโอกาสทำให้เกิดขึ้นจริงปีนี้แหละ วันที่ 25 เมษายนครับ ก็เป็นคอนเสิร์ตที่จะคืนความรักความสุขทุกอย่างที่คนฟังเคยมอบให้เราเนี้ย กลับไปอย่างเต็มที่แน่นอน เป็นคอนเสิร์ตที่อยากจะรวมทุกคนที่เติบโตมาด้วยกัน ตั้งแต่เพลงแรกของอะตอมเป็นต้นมา จนถึงวันนี้ 4-5 ปี และเราก็เลยอยากจะจัดงานนี้ขึ้นมา ก็เป็นงานที่สำคัญกับเรามากๆและก็ไม่อยากให้ทุกคนพลาดไป คอนเสิร์ตใช้ชื่อ เฮาส์ ออฟ ฮาร์ท ถ้าแปลตรงตัวก็แปลว่า บ้านของหัวใจอะไรอย่างงี้ ผมอยากเหมือนเปิดโซนต้องห้ามในบ้านหลังนึงที่ไม่เคยมีใครเปิดเข้าไปเลยเป็นประตูที่ถูกล็อกไว้เนี้ย ลึกๆ กว่านั้นแล้วคนมองเข้ามาแล้วอาจจะเห็นอะตอม เป็นแบบนี้ แต่จริงๆอะตอมมีอะไรข้างในอีกเพียบจะพูดไปหาคนฟัง แต่ก็ไม่เคยได้พูดไม่เคยได้เปิดให้ใครเข้าไปลึกขนาดนั้น คอนเสิร์ตนี้ก็จะเหมือนเปิดบ้านหลังเล็กทะลุปรุโปร่งเข้าไป ทุกคนจะได้รู้จักอะตอมมากขึ้น อยากให้เราได้สนิทกันมากขึ้นมีความเป็นครอบครัวเดียวกันมากขึ้น”

จะเป็นการรวมพลคนอกหัก?

“ไม่อกหักก็มาได้ เราค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่อยากจะไปคอนเสิร์ตนี้ ก็ต้องเป็นคนที่เข้าใจเราอยู่แล้ว คนที่มาเราเคยผ่านมาเหมือนกัน ก็เลยเป็น เฮาส์ ออฟ ฮาร์ทครับผม”

เล่าในมุมมองความรักที่เป็นความลับ “ถ้าในเรื่องเนื้อหานะ ก็ความลับมันคงไม่เป็นความลับหรอก เพราะผมก็ไม่ได้ปิด ทุกอย่างมันถูกเล่าไปในเพลงหมดแล้ว แต่ทีนี้ที่อยากจะให้มาเจอกันเพื่อที่จะได้รู้จักกันมากขึ้น ผมไม่เคยมีโอกาสได้บอกกับแฟนเพลงที่ผมรักอย่างเป็นทางการเลยอะ คอนเสิร์ตครั้งนั้นก็ถูกจัดเรียงด้วยโชว์ ด้วยซีนต่างๆที่เราเป็นคนคิดเองเป็นส่วนใหญ่มากๆ คือคอนเสิร์ตนี้ต้องขอบคุณทีมทุกๆคนที่ซัพพอร์ต ที่ยอมให้อะตอมมีส่วนร่วมในทุกๆอย่าง ตั้งแต่เรียกว่าของที่ระลึกจนถึงโชว์ที่มันเป็นแสง สี เสียง การเรียบเรียงดนตรีต่างๆ เป็นอะไรที่อะตอมได้เคาะเองหมดเลย ได้เลือกเองทั้งหมด”

เปิดเผยในเรื่องของธีมได้ไหมคะ แบบว่าโชว์ต่างๆที่เราเตรียมไว้

“คือไม่อยากจะพูดเลยว่าเราเล่นทุกแนวเพราะว่าเราไม่ได้ถนัดหรือว่าชื่นชอบทุกแนวดนตรีที่มีในโลกนี้ จะเล่นอะไรที่เราชอบนั่นแหละ อย่างภาพที่ทุกคนคุ้นเคยกันแน่นอนว่าไม่มีทางพลาด ถ้าใครชอบอะตอมอย่างที่เราได้รู้จักกันแล้ว จะเป็นสไตล์เพลงหรือว่าวิธีการร้อง วิธีการเต้นตอนเคยมีบ้างให้ทุกคนเห็น ได้เจอกันแน่นอน แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็อาจจะเป็นซีนที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้เราได้รู้จักกันได้ลึกมากขึ้น อะตอมร้องแบบนี้ได้ด้วย หรืออะตอมกล้าทำอะไรแบบนี้ด้วย เซอร์ไพรส์พวกนี้จะถูกบรรจุไว้อยู่ แต่ว่าจะอยู่ห้องไหนของบ้านหลังนี้ ก็เดี๋ยวรอดูกันว่าเป็นซีนอะไรครับ”

แขกรับเชิญล่ะ “แขกรับเชิญเราไม่บอกเลยครับพี่ เพราะว่าอย่างแรกเราไม่ได้เลือกแขกรับเชิญเพราะว่าเพราะอยากให้มาช่วยขายบัตร เราเลือกแขกรับเชิญเพราะว่าเราชอบคนเนี้ยเรารักคนเนี้ย เราอยากเอามาร่วมงานกัน เพราะฉะนั้นได้เห็นหน้างานเลยครับ ไม่มีบอกก่อน ไม่มีใครรู้แน่นอน”

ด้วยความที่คอนเสิร์ตครั้งนี้มันเป็นของเราเอง ความตื่นเต้น และลุ้นขนาดไหน?

“โอ้โห ความกดดันมันเริ่มเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ ตั้งแต่เรารู้ว่าเราจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ มันก็มาแล้วแหละ คือด้วยความที่มันเป็นงานของเราเองด้วย มันก็จะรู้สึกมากกว่าครั้งอื่นๆฝแต่ว่าในความกดดันความตื่นเต้นต่างๆเนี้ย ก็มันเป็นไปในทางที่ดีนะ ถ้าถามผมจริงๆที่เรารอคอยแล้วก็ยิ่งเราเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ เราก็ตื่นเต้น เช่น ได้ทำให้มันเกิดขึ้นก็ตื่นเต้นแทนคนฟังด้วย เราก็ไม่รู้ว่าบรรยากาศที่เราคิดว่าดีในวันนั้นมันจะดีขนาดไหน เราก็ได้แต่นึกภาพไว้ในใจ แต่ว่าที่เราสัญญาได้ก็คือมันจะเป็นวันที่เราได้ใกล้กันมากขึ้นจริงๆ แล้วก็ได้พูดคุยกันผ่านโชว์ที่เราได้จัดไว้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนครับ”

เริ่มเปิดขายบัตรเมื่อไหร่?

“เราจะเปิดขายบัตรกันวันที่ 31 มกราคมนี้ครับ ทั้งไทยทิคเก็ตเมเจอร์ครับ ก็ซื้อในเว็บก็จะง่ายที่สุด แต่ถ้าใครมีใกล้จุดจำหน่ายก็ไปที่จุดจำหน่ายก็ได้ ตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป”

ในไอจีก็ขายเก่งนะ เดี๋ยวนี้ “(หัวเราะ) ครับผม เดี๋ยวนี้เริ่มขายตรง ไม่อ้อมไม่ค้อม ขายอย่างเดียวครับ (หัวเราะ) ไปสั่งสมวิชามาจากการออกทัวร์เยอะ ต้องพูด กับคนฟังเยอะ จริงๆก็ฝึก รุ่นพี่อย่างพี่บุรินทร์จะเป็นคนสอนหลายอย่าง พี่ๆหลายๆคนที่อยู่รอบๆตัวก็คอยบอกคอยเตือนเวลามีอะไร อันไหนทำดีหรือไม่ดี ด้วยชั่วโมงบินของตัวเองด้วยที่ออกไปทัวร์มา ทัวร์คอนเสิร์ตมา ก็จะรู้อะไรผิดอะไรถูก เราก็ปรับไปเรื่อยครับ”

เห็นบอกว่าอยากจะซื้อบ้านหรอคะ?

“บ้านก็มองไว้ครับ คือตอนนี้เราถึงอายุระดับนึงเราก็คงอยากมีบ้าน ผมก็อยากมี ช่วงนี้เป็นช่วงแบบเข้าเว็บอย่างเดียวครับ ดูโครงการหมู่บ้าน ก็ดูไว้ก่อนไม่เป็นไร ก็คงไม่ได้ซื้อในปีสองปีนี้หรอก แต่เราก็ดูไว้มีที่ไหนบ้างการเดินทางยังไง บ้านใหญ่ไหม ราคาเท่าไหร่ อะไรอย่างงี้ครับ ก็ดูไว้ก่อน ก็เก็บตังค์กันไป”

เตรียมเป็นเรือนหอในอนาคตด้วยรึเปล่าคะ? “ถ้าซื้อรอบนี้ก็น่าจะใช่ครับ เพราะคือถ้าซื้อบ้านใหญ่ขนาดนั้นถ้าอยู่คนเดียวก็คงจะเหงา ไม่รู้จะซื้อใหญ่ไปทำไม เพราะตอนนี้ก็อยู่คอนโดห้องพอดีตัว ก็อยู่ได้สบายคนเดียว”

ความรักตอนนี้ล่ะเป็นยังไงบ้าง?

“ก็ดีครับ คนที่คบอยู่ด้วยตอนนี้ก็เกือบจะสองปีละก็เป็นคนที่เค้าทำงานนอกวงการ ได้เจอคนที่เข้าใจ โชคดีได้เจอคนที่เข้าใจว่าเราทำงานแบบนี้ เราใช้ชีวิตแบบนี้ เวลาก็ไม่ตรงกับชาวบ้าน ข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ ดีว่าเจอคนที่เข้าใจ อายุเท่ากันเลย เค้าก็สนับสนุนดีทุกอย่าง ก็เป็นความรักในรูปแบบที่ไม่ได้เอาแต่ใจกันเหมือนตอนที่เด็กกว่านี้แล้ว เป็นอะไรที่เรียบง่ายมั่นคงแล้วก็นิ่งครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเบื่อกันนะครับ นิ่งในความให้เกียรติกัน ความไว้ใจกัน การวางแผนใช้ชีวิตไปด้วยกัน แล้วก็ซัพพอร์ตกัน”

ไม่ค่อยเห็นลงไอจี “เราเห็นมาเยอะแล้ว ประสบด้วยตัวเองว่าเวลาบางครั้งเราเปิดเรื่องพวกนี้เข้ามาในพื้นที่สื่อจนเยอะเกินไป บางครั้งก็เป็นผลเสียได้ แต่เราเองก็ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะพอควร ตามเทศกาลวันสำคัญ วันเกิดเค้า วันวาเลนไทน์อะไรแบบนี้ ก็มีทุกคนก็ได้เคยเห็น เราไม่ได้แบบทุกวัน ฉันไปนี่ด้วยกันแล้วถ่ายตลอดเวลา เราก็แล้วแต่โอกาสและความเหมาะสม ซึ่งเราเชื่อว่าจริงๆแฟนเพลงยุคนี้ก็ไม่ได้มานั่งแอนตี้กันแล้วแหละ หลายๆคนบางท่านก็แต่งงานกันแล้วด้วย ก็แฟนคลับก็ยังรักกันเหนียวแน่นดี แต่สำหรับเราเอง เป็นห่วงก็คือเค้าไม่ได้ทำงานด้านนี้ เราก็ไม่อยากให้เค้าต้องมารับ บางทีมีคอมเมนต์มีดีก็ดี แต่บางครั้งคอมเมนต์ที่ใจร้ายมันไปถึงเค้าโดยตรงเลย เค้าต้องอ่าน เราก็เป็นห่วงไม่อยากจะเปิดเค้าเข้าสู่มหาชนขนาดนั้น”

ดีกรีความหวานก็คือว่าใช้ได้อยู่

“ได้ครับ คือมันกลายเป็นเหมือนความรักที่เป็นเหมือนน้ำเปล่า แต่ก่อนมันเหมือนน้ำหวานรสอร่อย ที่ฉูดฉาดที่แบบกินแล้วแบบซ่าส์กินแล้วแบบหวาน แต่ว่ามันกินนานๆไม่ได้อะครับ สุดท้ายทุกคนต้องกลับมากินน้ำเปล่าครับ คนนี้ก็คือน้ำเปล่าสำหรับผม ด้วยความที่มันโตขึ้น ก็กลายเป็นคนชอบกินน้ำเปล่าครับ เพราะฉะนั้นน้ำเปล่ามันก็ดีกว่าน้ำหวานครับ (ยิ้ม) เหมือนเวลาออกกำลังกายเหนื่อยมากๆ ดื่มน้ำเย็นแก้วเดียวมันก็ชื่นใจ ไม่ต้องหวานไม่ต้องอะไรเหมือนแต่ก่อนแล้ว เรารู้ว่าอะไรที่เราต้องการตอนนี้แล้วก็เค้าเติมเต็มเราได้ดีขนาดไหนเรารู้ แล้วก็เรารักษามันไว้ให้ดีครับ”

เริ่มมองในเรื่องของการแต่งงาน?

“ครับ ก็เป็นอะไรที่มองแล้วแหละ ถ้าจะ บอกว่าไม่คิดเลยก็เหมือนโกหกกัน ผมเองอีกปีกว่าๆก็จะ 30 แล้ว คิดว่ามันก็ต้องเริ่มวางแผนกับชีวิตและผมเชื่อว่ามีคู่ที่ดีเนี้ย มันช่วยให้ชีวิตในทางข้างหน้าที่เราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันสำคัญ กับเราว่าเราจะมีครอบครัวแบบไหน เป็นคนแบบ ไหน ชีวิตเราจะไปทิศทางไหน ผมว่าคู่สำคัญมากๆ ได้เจอคนที่เข้ากันดี ซัพพอร์ตกันดี แต่ว่าสิ่งที่ยังไม่พร้อมเลยก็คือคุณทรัพย์ที่ต้องเก็บให้เยอะกว่านี้ครับ (หัวเราะ)ก็ต้องรอดูกันไป”

เรื่องแต่งงานนี่คิดอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว? “ใช่ครับ ผมคิดว่าทุกคนมีแผน แต่ทุกคนไม่มีเงิน (หัวเราะ) ส่วนใหญ่นะที่ยังไม่เกิดขึ้น”.

ทีมข่าวบันเทิง