สรุปให้ เส้นทางหมอลำสาวฆ่าไม่ตาย จินตหรา พูนลาภ (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

โด่งดังมาทุกยุคทุกสมัย สำหรับหมอลำสาวเสียงแหบเสน่ห์ แถมลูกคอ 9 ชั้น จนได้รับฉายา หมอลำสาวเสียงพิณ จินตหรา พูนลาภ หรือ ทองใบ พูนลาภ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี เอกลักษณ์ประจำตัวของจินตหรา คือการทำทรงผมบ๊อบและไว้หน้าม้ามาตลอด

เชื่อว่าหลายคนต้องสงสัยแน่นอน ทำไมจินตหราถึงไม่เคยเปลี่ยนทรงผมเลย ซึ่งนักร้องสาวบอกว่า เคยลองใส่วิกดูหลายทรง ลองเปิดหน้าผากก็ไม่เข้ากับใบหน้า จึงทำให้ไม่มั่นใจกับทรงผมอื่น และแฟนเพลงก็บอกว่าทรงนี้เข้ากับจินตหรา แถมผมทรงนี้ก็ทำให้หน้าของจินตหราดูเด็กลงอีกด้วย

จินตหราเป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำเบอร์ต้นๆ ของประเทศ หลายคนมองว่างานต้องแน่น ต้องเยอะแน่นอน แต่ใครจะรู้ ก่อนที่จินตหราจะมาเป็นนักร้องหมอลำที่โด่งดังและมีชื่อเสียงได้จนถึงทุกวันนี้

เมื่อก่อนจินตหราเคยยากจน ถึงขั้นไปโรงเรียนไม่มีข้าวกิน ต้องไปขอผลไม้จากเพื่อนที่โรงเรียนกินแทนข้าว เพราะครอบครัวของจินตหราเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้ค่าใช้จ่ายในครอบครัวค่อนข้างสูง เงินที่ได้จากการทำงานเกษตรกรรมก็เลยไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในบ้าน จึงต้องไปยืมเงินจากคนอื่น จนทำให้ครอบครัวมีหนี้สิน

แต่แล้วฟ้าก็เข้าข้างจินตหรา เมื่อจินตหราเริ่มร้องเพลงจนชนะการประกวดที่จังหวัดขอนแก่น ก็ได้รับการชักชวนจาก ชาย สีบัวเลิศ ให้เข้าไปเป็นศิลปินลูกทุ่งของค่ายแกรมมี่ จินตหราได้ออกอัลบั้มเพลงชุดแรก ชื่อชุด “ถูกหลอกออกโรงเรียน” ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก และก็ออกอัลบั้มเพลงมาเรื่อยๆ แต่หลังจากที่จินตหราออกอัลบั้มชุดที่ 4-6 เพลงกลับไม่ค่อยดัง แถมแฟนเพลงก็เริ่มน้อยลง

จนกระทั่ง จินตหรา ได้ร่วมงานกับ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ กับผลงานเพลง “แฟนจ๋า” และเพลง “มาทำไม” ทำให้จินตหรากลับมาโด่งดังอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเพลงฮิตติดหู “แตงโมจินตหรา” แถมยังปลุกกระแสจินตหราฆ่าไม่ตาย ด้วยเพลง “เต่างอย” ซึ่งเป็นเพลงที่ไม่คาดคิดว่าจะดัง ไม่ได้ตั้งใจโปรโมต แต่พอดีเพลงเต่างอยอยู่ในสต๊อก จินตหราจึงเอาไปเปิดในวันแก้บน เป็นเพลงแนวสนุก แฟนเพลงจึงแชร์กันเยอะ จนกลายเป็นเพลงร้อยล้านวิวในที่สุด

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้จินตหราโด่งดังมาทุกยุคได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องผ่านอะไรมามากมาย จินตหราจึงมีคติในการทำทุกงานออกมาให้ดีที่สุดไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ ส่วนความสำเร็จให้แฟนเพลงเป็นคนตอบเอง.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง