“ปีที่ผ่านมาจนตอนนี้ กอล์ฟปล่อยเพลงและเตรียมทำเพลงอยู่เรื่อยๆ เป็นความสนุก ความชอบ และเรายังรักในการทำเพลงในแบบที่เราชอบมาตลอด เพลง “Let Me Go” เป็นเพลงที่กอล์ฟกลับมาได้แรงบันดาลใจจากดนตรีแนว EDM หรือ Electronic Music ซึ่งเพลงนี้ก็เจาะลึกลงไปของ EDM เป็นแนวที่เขาเรียกว่า Futurebass ก่อนหน้ากอล์ฟทำเพลงแนว electronic ตั้งแต่ปี 2012 อย่างเพลง Black Hole, I can’t breath, Take me to your bed

และช่วงหลังกอล์ฟได้มีโอกาสไปงานเทศกาลดนตรีกับเพื่อนๆ หลายที่ แล้วชอบ มีหลายคน มีกลุ่มที่ชอบดนตรีแนวนี้อยู่ มันมีเสน่ห์ในแบบของมัน ทั้งดนตรี กอล์ฟเลยได้แรงบัลดาลใจกลับมาทำเพลงแนวนี้อีกครั้ง

เพลงนี้กอล์ฟทำดนตรีและแต่งเนื้อเองเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก ที่คิดว่าแต่งเป็นเนื้ออังกฤษ เพราะน่าจะเหมาะกับดนตรีแนวนี้มากกว่า และอยากเขียนเนื้อเพลงภาษาอังกฤษมานานแล้ว เนื้อหาของเพลงไม่ได้แต่งจากเรื่องราวของใคร เพลงนี้กอล์ฟแต่งมาจากความรู้สึกและเมมโมรี่ประสบการณ์ของกอล์ฟล้วนๆ ครับ

ดนตรีก็จะมีความดุดันแบบเนิบๆ คือมีผ่อนหนักเบาและลูกส่ง หรือ Drop ที่ทำให้เร้าใจ ซึ่ง sound engineer ชาวเดนมาร์กที่เคยสอนกอล์ฟมาช่วยมิกซ์เพลงนี้ให้อีกด้วย บางคนอาจจะบอกว่าเพลงแนวนี้เฉพาะกลุ่มคนฟังมาก กอล์ฟเชื่อมั่นว่ามีกลุ่มคนฟังในแนวนี้อยู่ กอล์ฟเชื่อว่าในแต่ละสไตล์ดนตรี มีเสน่ห์ของมัน ซึ่งคนกลุ่มแนวนี้อาจมีพลังที่ทำให้เพลงแนวนี้แมสขึ้นมาได้ กอล์ฟว่าอยู่ที่สไตล์คนฟังมากกว่าครับ”