"จ๊ะ อาร์สยาม" ทำใจงานหายเกลี้ยงเซ่นโควิด (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

เล่าวาเลนไทน์ไม่หวาน ยันไม่พร้อมแต่ง “แจ๊ค”

งานเพลงซิงเกิล ไร้ยางอาย ชื่อเพลงแรงๆ เรียกแขกตลอด

“ชื่อเพลงแรงแต่เนื้อเพลงไม่แรงเลยเพราะว่าเราผ่านจุดที่แรงที่สุดมาแล้ว ตอนแรกชื่อเพลงที่ออกมาคนเข้าใจว่าเป็นเพลงเร็วแน่ๆ แต่เป็นเพลงช้า แล้วเป็นเพลงที่เกี่ยวกับเราไร้ยางอายชอบผู้ชายที่เค้าเฉยๆ”

มาทำเพลงช้าฟีลต่างๆ แตกต่างตอนทำงานขนาดไหน “ตอนอัดเพลงในห้องอัด เวลาเราอัดเพลงเร็วจะใช้เวลา 20 นาที ถึงชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่พอเป็นเพลงช้าหนูอัดประมาณ 4 ชั่วโมงอยู่ในนั้น”

ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้น “เพราะว่าหนูไม่เคยไร้ยางอายเลย (หัวเราะ) มันก็ทำอารมณ์ไม่ได้ ปกติเราร้องเพลงแหกปากแหกคอ อารมณ์ร้องเต็มปากเต็มคำ อารมณ์เราจะดัดจริตหมดเลย แต่เพลงนี้มันซอฟต์ๆ แล้วเพลงนี้เวลาร้องจะเหมือนการกระซิบ ซึ่งมันไม่ใช่เราเลย ไม่ใช่นิสัยจ๊ะเลย มันตรงกันข้ามทั้งหมด มันเลยไม่เป็นตัวเราก็เลย 4 ชม.”

ไม่ใช่ตัวเราแต่ทำไมถึงเลือกทำเพลงช้าล่ะ

“ฟังแล้วเราชอบเพลงนี้ คิดว่าด้วยความเราเป็นลูกลิเก ก็อยากจะพรีเซนต์ให้คนเห็นว่าจ๊ะก็ร้องเพลงช้าได้นะ เราอยากปรับลุคเราไม่ต้องใส่สั้นมาก ไม่อยากโป๊เปลือยมาก เพราะอายุเราก็เพิ่มขึ้นแล้ว เราคิดว่าเราจะปรับและตอนฟังเราดีไซน์การร้องเพลงแต่ไม่ได้เป็นแบบที่ออกมา พอวันที่อัดจริงๆ แทบอยากจะบอกเค้าหนูเปลี่ยนเพลงได้มั้ยคะ (หัวเราะ) จริงๆผู้หญิงที่ไร้ยางอายไปชอบผู้ชายเฉยๆ ไร้ยางอายในความรู้สึกของจ๊ะคือไม่ใช่ผู้หญิงเงียบๆ เพลงนี้เป็นผู้หญิงแรงๆนี่แหละ แต่ว่าผู้ชายเค้าไม่ได้เล่นด้วยกับเรา ความรู้สึกเรา ณ ตอนนั้น เราจะนึกถึงด้านผู้หญิงแรงๆตลอดเวลา เพลงนี้จริงๆ ผู้หญิงน่าสงสาร”

อารมณ์ประมาณเป็นชู้ทางใจว่างั้นเหอะ “ใช่ๆ แล้วจริงๆในเพลงมีอะไรกันแล้วแหละ แต่ผู้ชายเหมือนสังคมเที่ยว ครั้งเดียวแล้วจบ”

แล้วกระแสเพลงนี้เป็นยังไงบ้าง

“เอาจริงๆนะไม่มีใครขอเพลงนี้หน้าเวทีเลย (หัวเราะ) คนไม่รู้ว่าจ๊ะออกเพลงมาแล้ว ซึ่งแต่แฟนคลับเราชอบมากเพราะว่าจ๊ะไม่เคยร้องเพลงแนวนี้เลย เค้าได้ฟังเค้ารู้สึกชอบและอยากให้ออกเพลงแนวนี้อีก”

พอเราไปแสดงไปโชว์ที่ไหนไม่มีคนขอเพลงไร้ยางอาย เสียใจมั้ย “เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเพลงนี้ไม่ทำให้เราดังหรอก รู้เลยตั้งแต่แรก พูดตรงๆทุกวันนี้ศิลปินที่ออกมาเพลงเบอร์ใหญ่กว่าเรา ดังกว่าเราไม่ใช่ว่าจะดัง ด้วยความว่าโลกมันเปลี่ยนใครๆก็ออกเพลงกันเยอะมาก ทุกวันนี้ใครๆก็สามารถลงเพลงในยูทูบได้ วันนึงไม่ใช่แค่พันเพลง น่าจะหลายพันเพลงในหนึ่งวันที่ลงๆ ไม่ต้องเพลงนี้หรอก จ๊ะออกเพลงก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าจะดังหรือมีกระแสอะไรมากมาย เราอยากออกเพราะเราอยากร้องเพลงช้าแค่นั้นเอง ตอบโจทย์ตัวเอง ด้วยความที่เราบอกกับผู้ใหญ่ว่าเราอยากออกเพลงช้ามาประมาณ 2-3 ปีแล้ว แล้วมีเพลงช้าเข้ามาตลอดส่งให้ผู้ใหญ่ฟังแต่ไม่เคยถูกอนุมัติเลย เป็นเพลงที่ตอบสนองความต้องการของเราเอง”

คนติดลุคจ๊ะต้องมันส์ๆแซ่บๆ “ไม่หรอก อย่างที่บอกโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เรามีตัวตนเป็นจ๊ะไปแล้ว ทุกวันนี้หนูว่าคนชอบอะไรที่แปลกๆใหม่ๆ เด็กรุ่นใหม่ใครก็ได้ร้องเพลงนี้ และเปลี่ยนไปไว เป็นเราไปแล้วและร้องเพลงเดิมๆ ที่เป็นเซ็กซี่ๆก็ออกมาได้คนไม่ได้ว้าว เพราะเค้ารู้อยู่แล้วนี่คือจ๊ะ”

ลุคการแต่งตัวพอโตแล้วลดความเซ็กซี่ลง

“ใช่ค่ะ”

มีใครขอให้เราลดความเซ็กซี่ลงหรือเปล่า “ไม่มีใครขอค่ะ ไม่มีใครขอได้ (หัวเราะ) จริงๆแล้วหนูไม่ได้เป็นคนเซ็กซี่อยู่แล้ว ความรู้สึกของหนูนะ แต่หนูเป็นคนทะลึ่งๆ และหนูเป็นเด็กตลก หน้าเวทีเดี๋ยวนี้หาความเซ็กซี่ไม่เจอแล้ว มันจะเป็นเหมือนตลกๆมากกว่า เราก็เลย จริงๆแล้วเราอยากพรีเซนต์ความตลก ขี้เล่น อยากออกเพลงแนวนี้ด้วยซ้ำ ทำเอ็มวีแปลกๆ แต่ไม่มีใครอนุมัติอีกแหละ เพราะเค้ามองว่าไม่อยากให้เราทิ้งตัวตน คนที่ชอบเราตั้งแต่แรกเค้าชอบความเซ็กซี่ของเรา ซึ่งมองตัวเองไม่เคยมองว่าเซ็กซี่”

สถานการณ์โควิดระบาดเราได้รับผลกระทบขนาดไหน

“มากเลยแหละ มากที่สุดเลย หนูว่าไม่ใช่แค่หนูคนเดียว วงการนี้ อีเวนต์ทุกคนได้รับผลกระทบหมด เค้าห้ามคนไปรวมตัวกันเยอะๆ ถามโดนแคนเซิลไปกี่งาน ใช้คำว่าโดนแคนเซิลหมดเลยค่ะ สงกรานต์ตอนนี้แคนเซิลเกือบจะทุกวันแล้ว แต่หนูคิดว่าที่เหลือก็น่าจะยก เค้ามีขอความร่วมมือ เรากลับไปอยู่งานใหญ่ๆ อย่างงานกาชาดหนูก็โดนยกเลิกหมดเลย”

เราตั้งรับกับสถานการณ์ตรงนี้ยังไง “คือหนูไม่ได้เป็นคนซีเรียสเลย เพราะเรารับมือตั้งแต่ตอนเป็นคันหูแล้ว เพราะเราเป็นแนววาบหวิว เพราะเราเป็นแนวกระแส และเราเป็นคนเก็บสตางค์ตลอดและเราก็คิดวันนึงเราก็ต้องหายไป เราไม่คิดว่าจะเดินมาถึงตรงนี้ถึง 10 ปี เพราะฉะนั้นเหตุการณ์นี้ไม่ได้ตื่นเต้นและไม่ซีเรียส เพราะหนูรับมือตั้งแต่ตอนนั้นคันหู เผื่อใจไว้แล้ว เพราะวงการนี้มันเป็นอะไรที่ไม่มีความแน่นอนเลยเพราะฉะนั้นเราจะต้องเก็บเงินเก็บทองเยอะๆ”

อยากจะบอกแฟนๆให้ตั้งรับผ่านไปได้ “เอาจริงๆนะเวลาเราเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ไม่อยากให้ไปโฟกัสเลย เวลาเราคิดมากๆ จะทำให้เราเครียด แล้วเวลาเราอ่านข่าวมากๆ เพราะเพจเล็กๆชอบเขียนข่าวเกินจริง เกินไปเลย คนจะอ่านแค่หัวข้อแล้วก็ไปเครียด แล้วก็ไปกระจายๆ จากเครียดคนเดียวกลายเป็นเครียดทุกคน มันโดนทุกคน ไม่ใช่ว่าโดนแค่ประเทศเราด้วยซ้ำ โดนทั่วโลก แค่ดูแลตัวเองให้ดี ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง ที่สำคัญเจลล้างมือสำคัญ แมสก์ หลีกเลี่ยงไปเที่ยวสังสรรค์ที่มีคนเยอะๆแค่นั้น”

ได้ข่าวแอบตุนเสบียงมาก่อนหน้าที่คนจะแตกตื่นเสียอีก “ใช่ค่ะ เสบียงเต็มบ้านเลยค่ะ (หัวเราะ) ไม่ เรากลัว ที่เรากักตุนเพราะเราไม่อยากออกจากบ้านเลย หนูก็กลัวเหมือนกันนะ ใครไอทีเราก็กลัวเป็นหรือเปล่า และอีกอย่างเรากลัวว่าราคาจะขึ้นใช่เปล่าล่ะ อะไรที่ขาดแคลนมากๆ เราก็กลัว สองอย่างนี้กักตุนไว้ ใครเข้ามาต้องล้างมือ จะมีเจลล้างมือไว้ ใครลูกน้องมาบ้านก็ต้องล้างมือก่อน”

ได้ข่าวว่าสินค้าที่กักตุนมีแต่ของกินเล่นทั้งนั้นเลย “ข้าวสาร มาม่า ปลากระป๋องมี นอกนั้นก็ขนม น้ำ ของกินเล่นแค่นั้น นอกนั้นก็ไม่ได้อะไร เพราะคิดว่าจะกลับไปอยู่อ่างทอง ด้วยอากาศที่บ้านอากาศดีและเราได้อยู่กับพ่อกับแม่ด้วย ไม่ว่างขนาดนี้ แต่ไม่ทำให้ทุกข์ ตอนนี้ศิลปินโทร.หาหนูเยอะเลยว่าจ๊ะโดนแคนเซิลงานมั้ย หนูเลยบอกว่าพี่ไม่มีใครไม่โดน ต้องทำใจให้รู้สึกว่าไม่ต้องเครียด คือประเด็นตอนนี้โดนแคนเซิลงานแล้วไปเที่ยวไม่ได้ มันทำให้อยู่บ้านก็จะคิดแต่เรื่องแบบนี้วนๆ”

กับแพลนเที่ยวล่มไปด้วยมั้ย “ไม่มีแพลนเรื่องเที่ยวเลย ไม่เคยมีแพลนเที่ยวต่างประเทศหรือเที่ยวไหน ทำงานอย่างเดียวพองานโดนยกจะแพลนไปเที่ยวก็ไปไม่ได้ (หัวเราะ) เลยจะกลับอ่างทอง”

วาเลนไทน์ที่ผ่านมาหวานมากขนาดไหน

“ไม่มีอะไรเลยค่ะ เศรษฐกิจไม่ดี พี่แจ๊คเค้าบอกว่าหนูปีนี้พี่ไม่มีอะไรให้นะ อันนี้คือเรื่องจริง (หัวเราะ) เป็นปีแรก คบมา 3 ปีกว่าที่ไม่ได้อะไรเลยแต่เราไม่ซีเรียส พี่แจ๊คพูดแบบสวยหรูว่าหนูมีทุกอย่างแล้ว จ๊ะก็อยากจะบอกว่ามีอีกก็ได้ (หัวเราะ) คือเราก็เข้าใจ เราไม่ได้โฟกัสหรอกเรื่องนั้น แต่ได้ก็ดี ตัวหนูเองก็ไม่เคยให้อะไรเค้าเลย”

คบกัน 3 ปี รักกันมากขึ้น มั่นคงมากขึ้นมั้ย “ทำให้เราเย็นชามากกว่า 3 ปีแล้วไงจะไม่มีความหวาน จ๊ะรักใครช่วงแรกๆจะเปิดตัวแรงอะไรแรง ทุกอย่างดูรักมาก เหมือนบ้านและรถ หนูก็เปิดตัวแรงหมดเพราะหนูเป็นคนขี้เห่อก็จะเห่อทุกอย่าง ตอนนี้เฟซบุ๊กหนูไม่มีรูปพี่แจ๊คจนคนคิดว่าเราเลิกกันไปแล้ว เพราะว่าเราลงบ้านกับรถ มันเฉยๆไปแล้ว บางวันไม่ได้คุยกันเลย บางวันก็คุยกันแค่ว่า วันนี้หนูอยู่ไหน ก็จะตอบว่าอยู่บ้านก็แค่นี้ไม่ได้มีอะไร”

กลัวมั้ยความเย็นชาจะกลายเป็นความเคยชินและอาจจะทำให้เราไม่ได้ไปต่อ “ไม่กลัว เพราะเราเคยผ่านสถานการณ์อย่างนั้นมาแล้ว หนูไม่ได้กลัว เอาจริงๆหนูไม่ได้เป็นคนแพลนเรื่องอนาคตเราจะต้องมีลูก มีครอบครัวขนาดนั้น เพราะเราอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขแล้ว จริงๆแล้วพี่แจ๊คเค้าก็อยากจะมาสู่ขอ อยากแต่งงาน เพราะพี่เค้าอายุก็จะ 50 แล้ว เค้าแก่แล้วล่ะ เค้าอยากแต่งงาน แต่หนูยังไม่อยากแต่ง เพราะเราเป็นผู้หญิงที่รักอิสระและชอบอยู่กับเพื่อน ชอบปาร์ตี้ ติดเพื่อน แต่อีกมุมถ้าไม่อยู่กับเพื่อนจะกลายเป็นโลกส่วนตัวอยู่กับตัวเองไม่มีเวลาให้เค้าหรอก”

ทุกวันนี้พี่แจ๊คชวนแต่งงานอยู่มั้ย “เลิกพูดแล้ว จริงๆเค้าคุยกับหนูเรื่องอยากให้พ่อแม่มาคุย 2-3 ครั้งแล้ว แต่หนูบอกเค้าทุกครั้งว่าหนูยังไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่งงาน”

แฮปปี้กับสถานะที่เป็นแบบนี้ “ใช่ค่ะ มันมีความสุข หนูก็อยู่บ้านหนู พี่เค้าก็อยู่บ้านเค้า เวลาว่างเจอกัน แต่ช่วงนี้หนูว่างถึง พ.ค. ก็ไม่รู้จะได้เจอกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ (หัวเราะ) จะไม่มีโทร.ถามอะไรกันเลย มีบ้างตื่นเช้ามาไลน์คุยกันตื่นยัง แต่งหน้าทำงานจะไม่ตาม เพราะถ้าเราไว้ใจเราจะทำงานอย่างอื่นได้สะดวกสบาย ไม่ต้องไปโฟกัสว่าเค้าจะมีใครมั้ย หัวสมองเรา
จะอยู่กับเรื่องนั้นเราก็จะไม่มีความสุข”.

ทีมข่าวบันเทิง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1799999
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1799999