มองโลกสวย "โดม" ว่าโควิด-19 ช่วยกระชับสามีภรรยา
แพลนเรื่องมีลูกเลื่อนยาวรอให้โรคร้ายผ่านไปก่อน
ในวิกฤติโควิด-19 ถ้ามองในแง่บวกก็พบว่ามีโอกาสดีๆในชีวิตเหมือนกัน ได้พูดคุยกับ โดม-ปกรณ์ ลัม ในช่วงที่พักก่อนนอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆนานเป็นเดือนแบบนี้ มันทั้งเบื่อทั้งอึดอัด แต่อีกมุมหนึ่งก็มีเวลาจู๋จี๋กับสาว เมทัล เยี่ยงสามีภรรยาจริงๆซักทีแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“โดยปกติผมเป็นคนชอบออกข้างนอกครับ อยู่บ้านนานๆไม่ได้เลย จะรู้สึกว่าเหี่ยวเฉา ไม่มีแรงบันดาลใจ จริงๆแล้วติดนิสัยมาตั้งแต่ตอนเด็ก เพราะเราเป็นคนทำงานมาตั้งแต่เด็ก แล้วยิ่งอาชีพเราคือนักร้อง เราก็ต้องเดินทางไปหลายที่ ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ ขึ้นเหนือล่องใต้ตลอด เลยทำให้เราชินกับความแอ็กทีฟแบบนั้น พอเมื่อวันนึงเราต้องแบบหยุดโดยสิ้นเชิง หยุดแบบดื้อๆเลย แรกๆก็ไม่ชินนะครับ แต่ว่าเอาจริงๆแล้วก็ชอบนะครับ ชอบในที่นี้คือไม่ได้ชอบที่มีโรคระบาดที่มีคนเดือดร้อนนะครับ
แต่หมายถึงชอบการที่เราได้หยุดอยู่บ้าน ไม่ต้องมาคิดว่าพรุ่งนี้มีตารางงานอะไร ต้องไปไหน เหมือนทำให้เราได้พักผ่อน ช่วง 2 สัปดาห์แรก ก็ดูซีรีส์ไปเลย และที่ชอบมากคือเราได้มีเวลาอยู่กับภรรยา ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะนับจากที่เราแต่งงานกันแล้วมาอยู่บ้านเดียวกัน คือก็ต่างคนต่างยุ่ง ยิ่งน้องเค้านี่เดินทางบ่อยมาก เพราะเค้าเป็นบล็อกเกอร์ อินฟูลเอนเซอร์ไง ต้องมีไปต่างประเทศด้วยอะไรด้วย ส่วนเราก็มีงานละคร มีคอนเสิร์ต มีงานดีเจ ก็เลยแบบต่างคนต่างออกกันไป เวลาอยู่ด้วยกันน้อยมาก ช่วงนี้เลยเป็นโอกาสที่เราได้ใช้เวลาร่วมกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน ที่ชอบคือเข้าครัว ทำอาหารด้วยกัน นอนดูหนังกัน ถือเป็นช่วงเวลาดีๆของคู่เราเลยล่ะครับ”
แบบนี้ถ้าแพลนมีลูกในช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นจังหวะดีเลยสิ?
“เรื่องลูกเราพักไปก่อนยาวๆเลยครับ เพราะพอมีเรื่องโควิด-19 เข้ามา ก็เลยคิดว่าอย่าเพิ่งในช่วงนี้เลย เพราะหลายๆอย่างไม่สะดวกอ่ะครับ ทั้งเรื่องของการไปโรงพยาบาล เรื่องของบุคลากรทางการแพทย์ด้วยที่ยังวุ่นๆกันอยู่ เลยยังไม่ใช่เวลาที่ดี คิดว่าข้ามไปปีหน้าก็ยังไม่สาย แต่ก็ต้องดูในวันข้างหน้าอีกอยู่ดี เพราะเอาจริงๆเรื่องโควิดนี้ มันกระทบไปหมดเลย กระทบทุกวงการ กระทบทุกมิติ เรื่องการวางแผนอนาคตของหลายคน เรื่องของธุรกิจ ไม่เคยมีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา คือมันตีแตกทุกตำราหมดเลย แบบทำเอาไปกันไม่ถูกเลย อย่างถ้าพูดเรื่องการจะมีลูก มีหลายคู่เค้าก็แหยงกันไปเลยนะ เพราะคิดว่าไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอภาวะแบบนี้ แต่ตัวผมก็แค่ชะลอไปก่อนเท่านั้นเอง”
โควิด-19 ส่งผลกระทบต่องานเรามากน้อยแค่ไหน?
“โดนเต็มๆเลยครับ โดยเฉพาะอาชีพนักร้องเนี่ยรู้กันดีเลยว่า ช่วงสงกรานต์ถือเป็นหน้างานเลยครับ งานจะเข้าช่วงนั้นเลย โดยปกติของผมเนี่ยจะมีคอนเสิร์ตตั้งแต่วันที่ 12 จนถึง 20 เลย จะไปจบที่พัทยาวันไหลพอดี เป็นแบบนี้มาตลอด แต่ปีนี้ก็หายไปหมดเลย น่าจะ 10 กว่างานได้ที่ต้องระงับไปอีกอย่างอีเวนต์ก็จะมีทุกระยะ ส่วนงานละครก็ต้องหยุดถ่าย ทีนี้มันก็จะกระทบกับคิวถ่ายละครของผม เพราะตอนนี้ผมถ่ายเรื่อง “น้ำผึ้งขม” ของค่ายจันทร์ 25 ที่กำกับโดยพี่วุธ-อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร อยู่ ซึ่งจริงๆกองนี้ก็คาดว่าจะได้ปิดกล้องเดือนสิงหาคม ทีนี้เมื่อมันต้องเลื่อนเวลาปิดกล้องออกไป ก็จะไปกระทบกับอีกเรื่องที่ผมรับไว้แล้ว ทีนี้ก็ต้องมาจัดระบบกันใหม่ ก็ต้องแก้ปัญหากันไปครับ”
ในวิกฤติมักมีโอกาสดีซ่อนอยู่ โดมมองเห็นอะไร?
“คือผมว่าโลกเรามันกำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ตอนนี้ทุกคนมองเห็นสัญญาณแล้ว อาชีพหลายอาชีพกำลังจะมีเครื่องจักรมาทดแทน ระบบต่างๆเริ่มมี AI เข้ามาควบคุม การศึกษาก็อาจจะเรียนผ่านออนไลน์ จากตอนแรกทุกคนคิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีก 3-4 ปีข้างหน้า แต่ตอนนี้ไอ้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเนี่ยเป็นเหมือนระเบิดเวลา เหมือนตัวเร่ง คือฟาสฟอร์เวิร์ดไปเลย ทำให้ทุกคนหันมาฉุกคิด ต้องตระหนักแล้วว่ามันถึงเวลาแล้วนะ เราจะปรับตัวยังไง ถึงเวลาที่ทุกคนต้องเริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เช่น การเวิร์กฟรอมโฮม
การเรียนออนไลน์ หรือแม้กระทั่งเรื่องปัจจัยพื้นฐานเลยคือเรื่องที่อยู่อาศัย แต่ก่อนที่ดินที่ติดรถไฟฟ้าอยู่ในเมืองคือเป็นที่ต้องการ เป็นทำเลทอง เพราะสะดวกสบาย แต่ตอนนี้ผมว่าหลายคนคิดใหม่แล้วว่า เออ อยากออกไปอยู่นอกเมืองนะ หลายคนอยากขยับขยายไปมีบ้านต่างจังหวัด หรือหลายคนเริ่มจะมองหาอาชีพที่ 2 มาเสริม หลายคนก็พยายามเพิ่มทักษะด้านอื่นๆให้ตัวเอง เหมือนต้องเพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง เพราะความสามารถด้านเดียวที่เราทำมา 20-30 ปีไม่พอแล้วนะ ต้องมีอาชีพสำรอง
อย่างนักแสดงเล่นละครอย่างเดียวอาจไม่พอแล้ว อาจไปมีธุรกิจอื่นๆ หรืออย่างผมเป็นนักร้องอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ อาจต้องเสริมสกิลด้านการตัดผมหรือเปล่า อะไรแบบนั้น เนี่ยล่ะครับ โควิด-19 มาเป็นเหมือนการตีกลองครั้งใหญ่ให้เราได้ตระหนัก และต้องรีบลงมือทำ และไม่ใช่แค่เราประเทศเดียว คือทั้งโลกต้องตื่น และคิดใหม่ทำใหม่หมด อย่างเช่นใกล้ตัวเลยคือคุณแม่ผม เมื่อก่อนท่านไม่เอาเรื่องเทคโนโลยีเลย โซเชียลก็เพียงแค่เฟซบุ๊กบ้างนิดหน่อย แต่ตอนนี้คือท่านถึงขั้นไปเรียนเลยครับ เพราะท่านรู้ว่าท่านต้องตามโลกให้ท่าน ไม่งั้นท่านจะบอดไปเลย ท่านก็แอ็กทีฟขึ้นมามากๆ”
ขออัปเดตอาการนอนกรน แล้วหยุดหายใจหน่อยเป็นไงมั่ง เพราะมันค่อนข้างอันตราย?
“ดีมากเลยครับ หลังจากที่ใช้เครื่องช่วยก็คือ 100% คือดีเลย ทุกคืนไม่มีการหยุดหายใจเลย แต่ว่ามันก็จะมีบ้างที่เรานอนๆไปแล้วมันหลุด คงเหมือนว่าจิตใต้สำนึกเราเวลาเรานอนแล้วไม่รู้เรื่อง เราคงรำคาญแล้วดึงมันออก แต่พอรู้ตัวก็จะใส่ ซึ่งมันช่วยได้มากเลยครับ”.
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1854948
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1854948