เผยการเดินทางครั้งใหม่ แต่จัดหนักจัดแน่นเหมือนเดิม หลังวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกชื่อดัง “โลโมโซนิก (LOMOSONIC)” ประกอบไปด้วย บอย–อริย์ธัช (ร้องนำ), ป้อม–ฉัตรชัย (กีตาร์), ปิติ เอสตราลาโด (กีตาร์), ออตโต้–ชาญเดช (กลอง) สร้างความฮือฮาไลฟ์เปิดอีพีอัลบั้มใหม่ “SWEET BROS.” ภายใต้บ้านหลังใหม่ “จีนี่ เร็คคอร์ด”

เผยเพลงใหม่ในอัลบั้มแบบเดือดจัดเต็มเทียบเท่าคอนเสิร์ตใหญ่ ในวันที่เติบโตขึ้นในมาดพี่ชายที่ดูเป็นมิตรและเข้าใจแต่ยังไม่ทิ้งลายกวนๆ โดยมี อ๊อฟ บิ๊กแอส เป็นโปรดิวเซอร์ และ โป โปษยะนุกูล จาก Mango Team ช่วยขัดเกลาเนื้อเพลง

ทั้ง 4 สมาชิกเล่าว่า บอย “การไลฟ์เปิดอัลบั้มทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน 10 วัน ข้อจำกัดคือสถานการณ์ปัจจุบัน เราจะหาวิธีการอย่างไร แต่เราเชื่อในทีม คุยกันว่ามันจะไม่ใช่ไลฟ์ธรรมดาแต่เรามาด้วยเป้าประสงค์ที่ต้องการพุ่งไปข้างหน้า ตอนนี้เราก็ข้ามมาสู่สิ่งที่เรียกว่า New Normal งานก็ต้องคิดให้ต่างและพอดี เราก็ดีใจที่ฟีดแบ็กดียกเครดิตให้ทีม”

ปิติ “ใช่ครับ เราเน้นเรื่องซาวด์ มุมกล้อง โปรดักชันให้ดีที่สุด ต้องยกเครดิตให้ทีมจริงๆ”

ป้อม “มันยากกว่าปกติ เป็นเพลงใหม่ทั้งหมด เรามีเวลาซ้อมแค่ 3 วัน ซึ่งวงก็รู้สึกดีที่ได้ตื่นเต้นอีกครั้ง ต้องมีสมาธิ”

แฟนเพลงฟังเพลงใหม่แล้วมีฟีดแบ็กเป็นไง? บอย “ดีกว่าที่คิดนะครับ”

ออตโต้ “ตอนแรกเราก็คุยกันว่าเพลงเป็นสิ่งนอกเหนือจากปัจจัยสี่และในช่วงเวลานี้คนอาจจะไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญมาก แต่พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาทำให้รู้ว่ายังไงคนก็ต้องการความบันเทิงเพลงก็อยู่ในชีวิตแค่เราจะเอาเวลาจัดทุกอย่างให้ถูกต้อง ผมว่าหลังจากนี้น่าจะมีอะไรใหม่ๆให้คนดูคนฟังได้เสพความบันเทิงในหลายรูปแบบ”

ป้อม “ฟีดแบ็กหลากหลายมาก บางคนก็บอกว่าเหมือนชุดเก่า บางคนก็บอกสีสันใหม่ บางคนบอกว่าผสมกันลงตัว เลยรู้สึกว่าเราได้ใช้ทุกสิ่งที่เรามีแล้วคนสัมผัสได้แต่ในคนละรูปแบบกัน”

สำหรับวงมองว่าเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? บอย “ข้อแรกคือเราย้ายค่าย ด้วยระยะสัญญาที่หมดลง เราปรึกษาพี่เปิ้ลเจ้าของค่ายสนามหลวง เหมือนเราเรียนจบ ผู้ปกครองก็ส่งลูกเรียนต่อ จังหวะเราพอดีกับพี่อ๊อฟ บิ๊กแอส พอดี เราจะย้ำตลอดว่าเรารอดมาจากชุดแรกที่ไม่มีคนสนใจ ชุด สองฟลุกมีเพลงที่จุดปะทุขึ้นมา เราผ่านช่วงที่เราตกตะกอนว่าจริงๆแล้วเราทำดนตรีเพื่ออยากให้คนเยอะๆได้สนุกกับมัน คนมาเฮโล มาโฟกัสกับเราพอผ่านเวลา มันเริ่มมีคนมาร้องไห้กับเรา ในแง่ความรู้สึกคนเราจะร้องไห้กับคนที่เราสนิทเท่านั้น แปลว่าเค้าวางใจในเราเยอะมาก เราเริ่มได้ยินฟีดแบ็กกลับมาในเรื่องคุณค่าทางจิตใจ ว่าหนูไม่ฆ่าตัวตายเพราะเพลงของพี่ หนูเป็นนักกีฬาทีมชาติกลับมาซ้อมเพราะเพลงนี้ มันมีคำนึงที่หลังๆเริ่มรู้สึกคือ ความแก่ มันให้ความเป็นพี่ คนเริ่มวางใจ เริ่มสนิทกับเรา เราก็รู้สึกว่าเราคงเป็นพี่ชายที่ไม่ได้พูดเพราะ “ความเป็นพี่” มันก็เป็นที่มาของอัลบั้มนี้ มีการเปลี่ยนแปลงคือการทำดนตรีให้คนเยอะๆฟัง ถ้าวันนี้เรายังเป็นแบบชุดแรก เราคงต้องอยู่ในห้องนอนและฟังเพลงเรากันเอง คงถึงเวลาที่จะเป็น “SWEET BROS.” แก่นคือความโตขึ้น SWEET มันคือหวานแต่แสลงมันคือ เจ๋งคงเป็นพี่ชายคูลๆ ขี้เล่น แต่การทำงานก็ยังเหมือนเดิม”

เส้นทางของวงมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ทุกการเปลี่ยนแปลงเราผ่านกันมาด้วยกันยังไง? บอย “ภายในเราประชุมกันตลอด เราเรียนออกแบบมา มันสอนวิธีการคิดเรา เรามองภาพเดียวกัน แต่ปัจจัยภายนอก เราบังคับเค้าไม่ได้ จากวัยรุ่นไฟฝันคุกรุ่นมองโลกด้านเดียว เราเคยชินกับการถูกมองว่าวงนี้มาแทนวงนี้ แต่เราบังคับเค้าไม่ได้ แต่งานมันตอบตัวเราได้ คนจะรับรู้ได้ การย้ายค่ายเหมือนย้ายโรงเรียน ที่การทำงานเราก็ยังได้ทำงานเอง”

คำว่า “จีนี่ เร็คคอร์ด” การันตีวงดังแถวหน้า ทำให้กดดันมั้ย? บอย “เป็นโรงเรียนใหญ่ เราเป็นน้องใหม่ครับ (ยิ้ม) ได้เรียนรู้กันแล้วเหมือนมันสมูทมาก ไปตามจังหวะทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

ป้อม “ผมชอบทำงานที่นี่ ตรงที่เราอยู่ในที่ๆมีคนเก่งเยอะ ทำให้เราอยากเก่งไปด้วย ตั้งใจด้วย”

การเล่าเรื่องของอีพีอัลบั้มนี้ เปลี่ยนแปลงไปเยอะมั้ย? บอย “เท่าที่เราดูจากรีวิวและฟีดแบ็กเค้าบอกว่ามันวัยรุ่นได้พี่โป โปษยะนุกูล มาช่วยเป็นโค้ชช่วยตัดขอบเวลาเขียนเพลง ส่วนของเพลงก็มีมิติ มีสิ่งที่ไม่เคยเขียนอย่างเพลง “เรื่องของผู้ใหญ่” หรือเพลง “วันที่ฉันไม่อยู่” ก็เป็นแนวโรแมนติก สีสันวัยรุ่นแต่ก็มีปรัชญา เพลง “คนขี้อ่อย” เป็นอะไรที่ไม่ควรตั้งชื่อในเพลงของวงเรา เรียกกฐินมาก (ยิ้ม) โชคดีที่เรายังมีวัฒนธรรมการฟังเพลงเป็นชุด พอฟังรวมกันก็จะเข้าใจคอนเซปต์”

ป้อม “อัลบั้มนี้เป็นเรื่องการหาความพอดี ทั้งดนตรี เสียงร้อง มันเข้าใกล้จุดลงตัวของเราที่สุด”

ถ้าเปรียบการเดินทางโลโมโซนิกเป็นผู้ชายคนหนึ่ง? ป้อม “ชุดแรกเป็นผู้ชายผอมๆไม่มีกิน ชุดสองที่ล่ำๆกล้ามปูเลย ชุดสามออกนอกโลก ชุด 4 สุดหล่อ เป็นคนของทุกคน”

บอย “ก็ยังเป็นคนเดิมที่มีประสบการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงเราคือ ข้อจำกัด อุบัติเหตุ และเหตุผล ทำไมเราต้องพูดขยายความเพลงเกริ่นยาวๆเพราะข้อจำกัด เราเริ่มจากการไม่มีเพลง พอออกไปเล่นคนก็สตั๊น ก็ต้องเริ่มจากเรื่อง พอเรามีเพลงมันก็เลยเป็นตรงนั้น มีคนชอบ ก็มีคนต่อต้าน เรามีประสบการณ์การเรียนรู้จากเรื่องจริง จากหน้าโชว์ คนดู สีหน้า แววตา จำนวนคนดู น้อยไปมาก มากไปน้อย มันเหวี่ยงเราไปทุกมิติของสิ่งที่เราควรเจอ เลยรู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นครับ”.