เปิดคลิป เหม ภูมิภาฑิต เคยยอมรับคิดอยากจากไปด้วยเองตลอดเวลา (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

“ตอนแรกไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร คือมันมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย เรื่องของสภาพร่างกายที่เคยแข็งแรง เคยคล่องแคล่ว เราสังเกตตัวเองว่าเราเชื่องช้า เรารู้สึกขี้เกียจมากขึ้น เราไม่ค่อยอยากทำอะไร แล้วก็เหมือนไม่ค่อยมีพลัง จากคนที่ชอบออกกำลังกาย ก็กลายเป็นขี้เกียจออกกำลังกาย แล้วก็สภาวะทางจิตใจก็จะเป็นเรื่องของขี้เกียจเหมือนกัน แต่เป็นเรื่องของการขี้เกียจทางจิต คือมันจะมีความไม่อยากทำในสิ่งที่ชอบทำมาก่อน ไม่มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองเคยมีความสุขมาก่อน

แล้วก็มีความรู้สึกกับสิ่งต่างๆ รอบตัวในแง่ลบหมดเลย เหตุผลที่ไปพบแพทย์เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่อยากทำอะไรแล้ว แล้วรู้สึกว่าอยากฆ่าตัวตาย อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าเรามองหาสิ่งต่างๆ รอบตัวเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร

เราถามตัวเองตลอดว่ามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ทำไมเราถึงต้องใช้ชีวิต คำตอบเดียวที่ทำให้เราต้องยอมไปพบหมอคือ เรามีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแม่คนเดียว แต่เราก็ไม่รู้นอกจากพ่อแม่แล้วเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

ตั้งแต่เด็กผมเป็นคนที่เล่นกีฬาเก่ง เรียนเก่ง แล้วทุกอย่างมันจะได้อะไรมาง่ายๆ แต่พอเราโตขึ้นมา เรามาทำงานมา ใช้ชีวิตจริงมันเหมือนกับชีวิตมันยากขึ้น แล้วทุกอย่างมันต้องใช้ความพยายามสูง เกิดจากการที่เรามีความผิดหวังซ้ำๆ

ไม่ว่าจะเป็นผิดหวังเรื่องความรัก เราคาดหวังอยากได้สิ่งนี้แต่เราไม่ได้ เราคาดหวังว่าอยากจะให้ชีวิตเราเป็นแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ได้ มันก็เลยส่งผลมาจากตอนเด็ก ที่เราเคยได้อะไรง่ายๆ จิตมันก็เลยสั่งว่า ตอนเด็กๆ เรายังเคยได้เลย แล้วพอโตมาทำไมเราถึงไม่ได้

มันก็เหมือนเราตกบันไดหลายๆ รอบ เราก็ไปจมอยู่ตรงนั้นขั้นสุดท้าย แล้วก็ไม่ยอมขึ้นมาอีกเลย ซึ่งมันเจ็บกว่า ทุกอย่างมืดดำไปหมด

ต้องบอกก่อนว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือภาวะซึมเศร้า มันก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป การใช้ชีวิตก็ยิ้มได้ หัวเราะได้ แต่สิ่งที่มันอยู่ลึกลงไปนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่า เค้ารู้สึกยังไง แต่ผมต้องอธิบายกับตัวเอง

มันจะมีความรู้สึกที่ว่า ค่อนข้าง Deepfeeling รู้สึกดีใจมันก็จะดีใจสุดๆ เสียใจก็จะเสียใจสุดๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือความผิดหวัง ผมว่าถ้าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีภาวะซึมเศร้า เค้าคาดหวังอะไรอย่างหนึ่งแล้วเค้าผิดหวัง มันจะเป็นเรื่องที่เค้าไม่อยากอยู่แล้ว เหมือนมันทนไม่ได้แล้วทำไมเราต้องผิดหวังเรื่องนี้ แล้วเราจะอยู่ไปทำไม

เมื่อถามว่าเคยคิดฆ่าตัวตายบ้างมั้ย? เหมได้พยักหน้าแล้วบอกว่า มันเคยมีช่วงหนึ่งที่ผมอยู่คอนโด ผมมองลงไปข้างล่างตลอด ผมมองเห็นภาพตัวเองที่นอนอยู่ข้างล่าง แต่สิ่งหนึ่งที่แวบเข้ามาคือหน้าแม่ จะเข้ามาตลอด เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าครอบครัวช่วยได้

ผมออกมาเรียน ม.1 ก็ไปอยู่โรงเรียนประจำ ตั้งแต่ ม.1 เป็นต้นมา ผมไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แล้วพอเค้ามาทำงานก็จะมีผู้จัดการผมคอยประคับประคอง จัดการทุกเรื่องผมก็เลยเล่าทุกอย่างให้เค้าฟัง เค้าก็บอกว่าไปหาหมอมาแล้วนะ บอกว่าให้ไปหาหมออะไร ขอร้องเถอะไปหาหมอ

เพราะว่าผมจะพูดเรื่องการฆ่าตัวตายบ่อยมาก ถามว่าโกรธมั้ย มันไม่โกรธ มันจะเป็นเหมือนการยอมรับมากกว่า ยอมรับว่าสงสัยเราต้องไปหาหมอจริงๆ ผมยังดีตอนที่ผมไปหาหมอมันเป็นภาวะซึมเศร้าขั้นแรง มันยังไม่ถึงขั้นโรคซึมเศร้า แต่มันเป็นภาวะที่เป็นซึมเศร้าย้ำคิดย้ำทำ

ภาวะที่คิดเฉยๆ ว่าเราจะทำสิ่งนี้ แต่มันยังมีจิตใต้สำนึกที่คอยห้ามเราตลอด ว่าอย่าทำนะ แต่การใช้ชีวิตมันค่อนข้างลำบาก เพราะในเมื่อเราคิดถึงการฆ่าตัวตายตลอดเวลา มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันข้างนอกอาจจะยิ้ม แต่ข้างในอาจจะหน้าบึ้งก็ได้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม มันอยู่กับตรงนั้นตลอด

คนที่เป็นภาวะซึมเศร้าหรือคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เค้าจะไม่ให้กระทบคนรอบข้าง ซึ่งจะพยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่สุด เหมือนแบบผมปกตินะ ผมไม่เป็นอะไร มันจะไม่มีอาการเรียกร้องความสนใจ มันจะมีบางพวกที่ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า พยายามบอกคนอื่นว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้านะ แต่คนที่เป็นจริงๆ เค้าจะพยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่สุด พยายามบอกว่าตัวเองโอเค เก็บไว้ข้างในหมดเลย

มันไม่ได้เกิดจากคนรอบข้าง แต่มันเกิดจากเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่มันผ่านมา คือเราไม่รู้หรอกตอน 8 ขวบเราเจออะไรมาบ้าง เราผิดหวังเรื่องนี้ แล้วพอ 10 ขวบเราเคยผิดหวังเรื่องอะไร แต่เราจำไม่ได้หรอก แต่จิตใต้สำนึกเราจำได้ มันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ แต่สำหรับผม หมอบอกว่า มันเกิดจากการผิดหวังซ้ำซาก

คือจุดพีคจริงๆ ผิดหวังเรื่องงานด้วย ผิดหวังเรื่องความรักด้วย แล้วมันก็มารวมกัน แสดงออกในวันที่ร่างกายไม่ไหวแล้ว ผมคิดว่าผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองหนักโลก ถ้าเราอยู่ไปเราไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับใครเลย แม้แต่กับตัวเองเราก็ไม่ได้ทำ ทั้งๆ ที่เราอาจจะไปทำงาน สร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง เวลาเราไปงานบุญงานการกุศลไปกับเพื่อน ทุกคนแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ แต่ลึกๆ แล้วในใจเราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม เหมือนมันหาความหมายกับความสุขนี้ไม่เจอ

เราเข้าใจทุกคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือภาวะซึมเศร้า หรือมีความผิดหวังเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต อยากจะฝากทุกคนเลยว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องผิด เราไม่ได้ฆ่าใครตาย เราไม่ได้ไปก่ออาชญากรรม เราแค่มีความผิดปกติในระดับความรู้สึกที่ลึกลงไปกว่าคนปกติ จริงๆ คนอาจจะมองว่า โรคซึมเศร้ามันเรื่องที่น่าอาย เป็นเรื่องที่คนทั่วไปจะไม่เข้าใจ

ผมก็อยากจะเป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านเรื่องนี้มา ผมพูดได้เลยว่าเป็นคนที่ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผ่านจุดฆ่าตัวตายมาแล้ว จุดที่ไม่มีความหมาย อยากจะบวชไปตลอดชีวิต ผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว อยากจะแชร์ให้ได้เข้าใจว่าคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มันเป็นจริงๆ แล้วก็อาจจะดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เราไม่รู้หรอกว่าจริงๆ เป็นยังไง เพราะฉะนั้นถ้าเรามีคนที่เรารัก หรือว่าคนที่อยู่รอบตัวเรา อยากให้ดูแลตรงนั้นให้ดี คนเราเกิดมาชาติเดียวรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ และดูแลกันและกันให้ดีไว้แค่นั้น”.

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง
ขอขอบคุณ : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ – ข่าวบันเทิง