“มิ้นท์” ออกจากช่อง 3 อีกคน! ละครวิ่งชนโครมพร้อมกัน 3 เรื่อง 3 ช่อง ร้ายทุกเรื่อง

“มิ้นท์ ณัฐวรา” ยอมรับไม่ต่อสัญญาช่อง 3 อยู่มา 10 โตแล้ว นักแสดงใหม่พรึ่บ ถึงเวลาออก อยากไปหาประสบการณ์ในโลกกว้าง ฮอตมาก ละครวิ่งชนโครมพร้อมกัน 3 เรื่อง 3 ช่อง ร้ายทุกเรื่อง โอดเห็นป้ายช่อง 3 แอบโหวงๆ เคว้งในใจ ความรักแฮปปี้ที่สุด ไม่เอาไปเปรียบเทียบกับรักครั้งไหน ผู้ใหญ่สองครอบครัวไฟเขียว แต่เรื่องแต่ง ขอให้เป็นเรื่องอนาคต

เพิ่งจะมีฟีดแบ็กที่ดีจากละครลิขิตแห่งจันทร์ พอเจอตัวสาว “มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา” เจ้าตัวก็เผยว่าตอนนี้ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระไปแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังหมดสัญญา ก็มีงานละครวิ่งชนพร้อมกัน 3 เรื่อง 3 ช่อง

“ใช่ค่ะ ตอนนี้เป็นอิสระแล้ว ส่วนผลงานหลังจากอิสระตอนนี้ยังไม่มีให้ชม แต่ว่ายังมีเรื่องหนึ่งที่ช่อง 3 ค่ะ ที่มิ้นท์ยังถ่ายทำอยู่คือเขาวานให้หนูเป็นสายลับ ได้ดูจริงๆ น่าจะช่วงต้นปี คือเรื่องนี้ก็ถ่ายทำมาพักใหญ่ๆ แล้วล่ะ ก็ถือถือเป็นละครทิ้งทวนกับช่อง 3 ค่ะ คือเราก็คุยกับผู้ใหญ่ไว้ว่าถ้ามีบทที่เหมาะสมและยังนึกถึงเราอยู่ ก็เรียกเราได้เลย เราก็จะมาเล่นให้เป็นช่องแรก”

“จริงๆ มิ้นท์หมดตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายนแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้ไปช่องไหนเป็นพิเศษ คือเราตั้งใจว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ไปก่อน และพอเราหมดสัญญา คือยังไม่มีข่าวว่าหมดด้วยนะ แต่มีละครช่องอื่นติดต่อมาแล้ว ก็งงมาก และที่ติดต่อมาแล้วรับไว้คือเป็นคนละช่องหมดเลย แต่ก็ยังไม่มีช่องไหนเรียกให้เราไปเซ็นนะคะ เราก็เลยแฮปปี้กับการที่เล่นช่องไหนก็ได้ ตอนนี้ที่รับไว้มี 3 เรื่อง 3 ช่อง ซึ่งเป็นละครของปีหน้าทั้งหมด ส่วนปีนี้เราก็จะว่างยาวๆ มีแค่ถ่ายละครของช่อง 3 ก็พักยาวๆ ไป พอต้นปีเราก็ลุยเรื่องใหม่ยาวๆ”

ขออุบชื่อละคร
“ยังอุบอยู่เลย คือเขายังไม่ได้ฟิตติ้งเลยรอให้เราฟิตติ้งก่อนเนอะ ก็มีช่อง GMM อะไรอย่างนี้แหละ บทบาทก็ร้ายทุกเรื่องเลย ก็แซบอยู่ค่ะ แต่ละเรื่องร้ายมากนะ ร้ายแบบหิ้วผู้ชายกลับบ้านทุกวัน (ยิ้ม)​ บทก็ดุอยู่ แต่ด้วยการที่เราได้อ่านเรื่องย่อมาทั้ง 3 เรื่องซึ่งมันก็แรง แต่ด้วยตัวบทซึ่งเรายังไม่เห็น ปีหน้าก็คงฟิตติ้งพร้อมกัน 3 เรื่อง ถามว่าร้ายแตกต่างกันยังไง ก็มีเรื่องหนึ่งที่ติดต่อมาที่จะต้องพูดภาษาเหนือ ร้ายแบบเมืองเหนือ ร้ายแบบมวยผม เป็นพีเรียดนิดหนึ่ง แต่ว่ายังอุบไว้ก่อนดีกว่า”

ไม่ตั้งใจรับทีเดียว 3 เรื่องรวด
“จริงๆ ไม่ได้รับรวดเดียว คือมิ้นท์หมดสัญญาตั้งแต่เดือนเมษายน ละครก็เริ่มมาทีละเรื่องมากกว่า แต่เราเพิ่งสรุปให้เขาตอนไม่กี่เดือนมานี้ เพราะหลายเรื่องมันจะเปิดตอนสิ้นปี แต่ไม่ทัน เพราะเลื่อนไปต้นปีหน้าหมดเลย ส่วนเวลาชนกันนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเราคุยไว้หมดแล้ว เพราะละครจะถ่ายเป็นจันทร์อังคารพุธ กับ พฤหัสบดี-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แต่มันจะมีเรื่องหนึ่งที่เหมือนคิวจะชนกัน แล้วพี่เขาก็ถามว่าถามในกองให้หน่อยว่าเขาจะขอแชร์เวลาอีกสักเรื่องหนึ่้งได้ไหม มิ้นท์ไปถามที่กองเขาบอกว่าแชร์ได้ เขายินดี เพราะฉะนั้นกองก็จะคุยกันเอง ถามว่าเราไหวไหม ก็น่าจะไหวนะ เพราะที่ผ่านมามิ้นท์ก็ชิล ก็พักมาเยอะแล้ว ก็อยากลุยเต็มๆ ไปเลย”

“ถามว่าติดใจไหมเป็นนักแสดงอิสระ คือมันยังไม่ได้ทำงานเต็มที่ เรายังรู้สึกเหมือนยังปิดเทอมอยู่ ยังไม่เปิดเทอม คือถ้าเปิดเทอมก็คงต้นปี”

ไม่อยากทำงานพิธีกร เพราะยาก และตนก็พูดไม่เก่ง
“พิธีกรยาก มิ้นท์เป็นคนคุยไม่เก่ง มิ้นท์รู้สึกว่าเรารับแค่ละครเราก็เหนื่อยแล้ว เพราะละครบางทีต้องถ่ายทั้งวันและสายพิธีกรไม่น่าจะสายเรา เราน่าจะเหมาะกับสายนักแสดงที่สุด”

ไม่คิดเซ็นสัญญากับใคร อยากอิสระ ลุยงานไปเรื่อยๆ
“ยังไม่ได้คิดตรงนี้เลย ตอนนี้คิดว่าชอบอิสระมากกว่า ก็ขอลุยงานอิสระไปเรื่อยๆ ก่อน เอาจริงๆ คือเรารับงานละครเซ็ตนี้ก็ต้องให้เวลาเป็นปีนะกว่าจะจบ มันก็ยาวๆ ไป”

ไม่เซ็นสัญญาช่อง 3 ต่อ เพราะโตแล้ว และมีเด็กใหม่เข้ามา มีช่วงพีคและดิ่งไปแล้ว อยากออกไปเผชิญโลกกว้างมากกว่า
“เราโตแล้ว และมีเด็กใหม่มาเราก็ต้องยอมรับว่ามันมีผลบ้างเหมือนกัน อย่างพระเอกใหม่อาจจะอยากได้ตัวร้ายรุ่นเดียวกัน เราอาจจะโตไปแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่เราออกเพราะเราจะได้รับบทที่มันหลากหลายมากขึ้น และด้วยความที่เราเป็นนักแสดง มันก็จะมีช่วงที่พีคและหลังจากนั้นมันก็จะดิ่งลงตามช่วงอายุ คือตอนนี้เรายังถ่ายได้อยู่ เราก็อยากออกมาเผชิญโลกกว้าง รับงานเองและรับงานที่หลากหลายมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ช่องมันเยอะ ละครก็เยอะ เอาจริงๆ นักแสดงกี่คนก็ไม่พอ เพราะละครผลิตเยอะมาก”

“มิ้นท์ไม่รู้ว่าคนอื่นไม่ต่อสัญญา มิ้นท์รู้แค่ของตัวเองว่ามันถึงเวลาที่ต้องออก เพราะมิ้นท์เซ็นกับช่องมา เซ็นครั้งละ 5 ปี ถ้าเซ็นอีกรอบ อายุก็น่าจะ 35 40 แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่จะต้องออกแล้วจริงๆ ไม่ได้มีอะไรกับช่อง ไม่ได้น้อยใจช่องด้วยเพราะช่องก็ส่งบทให้เราตลอด มันเป็นปัญหาของเรา เราแค่อยากจะโตมากกว่านี้ และช่องก็เข้าใจ”

“ผู้ใหญ่ก็เรียกเข้าไป คือตอนแรกเราก็เกรงใจมาก แบบจะคุยอย่างไรดี จะทะเลาะกันหรือเปล่า เขาจะโน่นจะนี่ไหม แต่ว่าตอนไปคุยมันดีมาก ทุกอย่างโอเค คุณสมรักษ์ (สมรักษ์ ณรงค์วิชัย) ก็เข้าใจ เขาก็บอกเราว่าถ้าเขามีบทที่นึกถึงเราเขาจะบอกเรา เขาก็เข้าใจว่าเราโตขึ้น เราอยากรับบทที่มันหลากหลายมากขึ้น”

อยู่มาสิบปีก็โหวงๆ แอบเคว้งในใจ
“ตอนแรกรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน คือตอนที่มิ้นท์คุยเสร็จออกมาจากช่อง หันไปมองป้ายช่อง 3 แล้วมันโหวงๆ เพราะเราอยู่ที่นี่มา 10 ปี ก็เลยรู้สึกเหมือนเป็นช่วงปิดเทอมของเรา ก็เลยยังไม่รับละครทันที ก็ยังเลือกบทที่ถ่ายสิ้นปี ก็อยากให้เวลาตัวเองสัก 2-3 เดือน แต่ละครมันเลื่อนไปต้นปีหมดเลย”

เชื่อไม่ทับไลน์ ไม่แย่งงานใคร
“ตอนนี้หลักๆ มิ้นต์รับงานเอง และมีน้องสาวคอยช่วย ส่งบทมาก็ช่วยกันอ่าน และคอยดูว่าช่องอะไร ผู้กำกับ ผู้จัดเป็นใคร ถามว่านักแสดงผันตัวอิสระกันเยอะ จะไปทับไลน์กันไหม อย่างที่บอกละครมันเยอะมาก มิ้นท์ไม่รู้สึกว่าเราต้องแย่งกัน รู้สึกว่านักแสดงมากแค่ไหนก็ไม่พอกับละครเพราะช่องมันเยอะจริงๆ”

รักแฮปปี้ ไม่หวือหวา สบายใจและไว้ใจ ไม่เอาไปเปรียบกับรักครั้งไหนๆ
“ความรักก็โอเค ส่วนข่าวดีไม่น่าจะมีในเร็วๆ นี้เพราะยังไม่คิดถึงขั้นนั้น เพราะมันเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่า เราเป็นฟรีแลนซ์และเราจะมาลุยละคร ถามว่าความรักแฮปปี้ไหม มันแฮปปี้มาก มันไม่ได้หวือหวาแต่มันรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ มันไว้ใจ ก็คบกันมานานแล้ว ก็ไม่อยากนับ คือเราคบกันเราสบายใจ เหมือนเราคุยกันแล้วเราเข้าใจกัน มันก็โอเค มิ้นท์ไม่อยากเอาครั้งไหนมาเทียบกัน แต่ครั้งนี้มิ้นท์รู้สึกว่าเราเป็นตัวเอง เรามีอะไรเรากล้าเล่า”

“ในเรื่องที่เราทำผิดเราก็กล้าบอก ส่วนแพลนเรื่องอนาคตขออีกนิดหนึ่ง คือขอเรื่องงานอีกนิดหนึ่ง เพราะเขาก็ทำธุรกิจซึ่งมีอีกหลายตัวที่เขากำลังจะทำ เราก็อยากให้เขาโฟกัสตรงนั้น ส่วนเราก็อยากให้โฟกัสเรื่องละครที่เรารับไว้ก่อน ถามว่ามีเกริ่นๆ ไหมก็….แต่ไม่ใช่ปีสองปีนี้ ถ้าเขามีเซอร์ไพร์สก็ค่อยว่ากัน คือเราคบกันเราคุยกันทุกวันอยู่แล้ว เรารู้แหละว่าเมื่อไหร่เราพร้อมไม่พร้อม”

ครอบครัวสองฝ่ายไฟเขียว เรื่องแต่งเป็นเรื่องอนาคต
“ถามว่าตอนนี้พร้อมไหม มันพร้อมนะ แต่ว่ามันยังไม่ถึงขั้นพร้อมมากๆ ยังไม่ถึงขั้นนั่งรอ เพราะฉะนั้นเธอก็ใช้ชีวิตของเธอไปก่อน ถ้าวันหนึ่งเราโฟกัสเรื่องแต่งงานก็คงต้องคุยกันอีกรอบหนึ่ง กับผู้ใหญ่เราเคยเจอแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ที่บ้านเขาก็น่ารัก ที่บ้านเราก็ชอบเขา ถามว่าไปเขียวไหมก็ใช่ ส่วนถามว่ามีแววไหม มันก็เป็นเรื่องอนาคต”

ที่มา : ดารา
ขอขอบคุณ : ดารา