อ้อน เกวลิน เล่นละครทิ้งทวนเรื่องสุดท้าย ก่อนลาวงการ เผยหมดเวลาแล้ว


ให้คะแนน


แชร์

อ้อน เกวลิน เล่นละครทิ้งทวนเรื่องสุดท้าย ก่อนลาวงการ เผยหมดเวลาแล้ว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 27 ต.ค.2565 ที่ เทวลัยพระพิฆเนศ ช่อง7HD อดีตนางเอกชื่อดัง อ้อน เกวลิน คอตแลนด์ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมพิธีบวงสรวงละคร เคหาสน์นางคอย ค่ายมุมใหม่ ถึงเรื่องที่กลับมารับงานละครในรอบ 15 ปี ก่อนประกาศอำลาทิ้งทวนเป็นเรื่องสุดท้าย!!

กลับมารับละครในรอบกี่ปี? “นับๆ อยู่นานไปจนคิดว่าน่าจะประมาณ 15 ปีได้ ถามว่าทำไมหายไปนานขนาดนั้น คือเป็นความตั้งใจที่จะไม่รับด้วย ระหว่างทางก็มีติดต่อมาตลอดแต่จังหวะไม่ได้บ้าง ไม่ถูกใจบทบ้าง

แต่สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจกลับมารับเล่นเรื่อง เคหาสน์นางคอย เป็นเพราะชอบบท แล้วก็เป็นช่อง 7 เป็นค่ายกันตนา เป็นพี่ตุ๊กตา(จิตรลดา) ซึ่งเราก็เคยแจ้งเกิดจากกันตนามาก่อน ซึ่งเรื่องแรกของเราที่ทุกคนรู้จักเราก็เป็นของค่ายกันตนา เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเราอยากจะทิ้งทวนกับกันตนา”

บทนี้มีความท้าทายยังไง? “หลักๆ คือเล่นเป็น 2 ตัว ได้ตังค์เยอะ(หัวเราะ) แล้วก็ใส่หน้ากาก ทุกคนจะตามหาเพชรสีชมพูซึ่งมันอยู่ในหน้ากากที่เราใส่ เลยกลายเป็นตัวเอกตัวเด่นมากๆ อย่างที่บอกว่าเล่นเป็น 2 ตัวมันก็ค่อนข้างที่จะท้าทายตรงที่มันใส่หน้ากากเกินครึ่งเรื่องทุกคนก็จะรู้ว่าตัวจริงคือตัวอะไรเพราะว่าถูกขังอยู่ใต้คุก 20 กว่าปี แต่อีกตัวหนึ่งอยู่บนหอคอย”

พอได้กลับมาเข้ากองถ่ายอีกครั้งความรู้สึกเป็นไงบ้าง? “จูนตัวเองอยู่พักหนึ่ง แต่ด้วยความที่พอเป็นทีมงานเก่าก็แปลกใจอยู่เพราะแต่ละคนจำเราได้หมด แล้วก็เข้ามาทักกันใหญ่เลย ทีนี้พอเป็นทีมเดิมกล่องเดิมเราเลยมีความรู้สึกว่าเหมือนกลับมาบ้านเก่า”

แล้วในเรื่องของการแสดงต้องเคาะสนิมด้วยไหม? “ไม่เลยนะ เพราะเดิมทีเป็นคนทำการบ้านดี แล้วพอนานๆ ทีจะรับละครก็น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อ่านบทแทบจะทุกหน้าเลย เราก็เลยมีความรู้สึกว่ามันไม่ยาก บวกกลับได้เจอผู้กำกับที่น่ารัก

เขาก็ไม่ได้เข้มงวดให้เราเครียด เอาแค่แบบพอมันได้ในระดับหนึ่ง แต่เอาจริงๆ บางฉากมีความรู้สึกว่าเราไปได้อีกนะ แต่ผู้กำกับบอกว่าพอแล้ว เราเลยรู้สึกว่าแบบนี้สนุก เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่ถ้ารู้สึกกดดันมันจะยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก”

กลับมารับละครเรื่องหนึ่งแล้ว มีความรู้สึกติดใจอยากเล่นต่ออีกไหม? “เอาจริงๆ ลึกๆ ตอนนี้แทบจะไม่มีพื้นที่นะคะ เพราะว่าเราเลี้ยงลูกเอง อย่างจะมาบวงสรวงเนี่ยก็คือต้องจัดการเรื่องลูกก่อน เพราะว่าเราเอาลูกเป็นหลัก แล้วก็มีงานประจำหลายอย่างที่ต้องทำ ถามว่าคาดหวังแค่ไหนกับเรื่องนี้ เชื่อว่าจากเนื้อเรื่องและบทบาททุกคนคงจุใจ ถ้าจะมองว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเราและเป็นการอำลานะคะ

อำลานี่หมายถึงว่าจะเล่นเป็นเรื่องสุดท้ายแล้วเหรอ? “ใช่ค่ะ คือจริงๆ แล้วว่าจะไม่รับมาตั้งนานแล้ว ไม่งั้นก็คงไม่หายไป 15 ปี (แต่เพิ่งกลับมารับเรื่องเดียวเองนะ?) ใช่ๆ เดี๋ยวไปดูกันในโซเชียลอื่นก็ได้ถ้าคิดถึง(ยิ้ม) อย่างที่บอกว่าถ้าเรื่องนี้มันไม่เข้มข้น ไม่ได้เล่นเป็น 2 ตัว ไม่ใส่บทบาทที่ทุกคนชื่นชอบเพราะว่าเรามีทั้งร้องเพลง ดราม่า อาละวาด เอาเป็นว่าบทบาทที่ทุกคนชอบจะได้เห็นหมดเลยในเรื่องนี้

ใช้คำว่าอำลาจริงๆ เลย หรือว่าในอนาคตถ้ามีบทที่น่าสนใจก็อาจจะใจอ่อนได้? “คือมีความรู้สึกว่าตัวเองน่าจะหมดเวลาแล้ว แก่แล้ว แล้วก็สังขารก็น่าจะได้แล้ว คิดแบบนั้นก็เลยมองว่าไม่น่าจะมีบทบาทอะไรที่มันจะเหมาะกับเราในหลายๆ โอกาสที่เรารู้สึกว่าเราชอบด้วย”

ช็อกแฟนๆ อยู่นะ เพิ่งกลับมาแล้วก็จะอำลาเลย? “เลยเลือกนิดหนึ่ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมไม่เห็นมาเลย ที่ผ่านมามีติดต่อมาตลอดแต่ไม่ได้ถูกใจบท อย่างที่บอกไปว่าทุกคนรู้จัก อ้อน เกวลิน จากละครบ้านสอยดาวของค่ายกันตนา เพราะฉะนั้นพอเรื่องนี้เป็นพี่ตุ๊กตา แล้วพอดูบทแล้วก็รู้เลยว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องเป็นเรา ซึ่งเขาก็เจาะจงมาเลยว่าต้องเป็นเรา”

ยังรักการแสดงอยู่ใช่ไหม? “คือจริงๆ มันเป็นชีวิตเราอยู่แล้ว เพราะพอ 5 4 3 2 เรามีความสุขอยู่แล้วกับการที่เราได้เล่นให้ทุกคนได้เห็น ถึงได้บอกว่าไม่ได้เคาะสนิมนาน แค่วันแรกเท่านั้นที่ยังตื่นๆ หลังจากนั้นก็คือสนุกและมีความสุขยาวเลย”

หลายคนบอกว่ายังสวยเหมือนเดิมเป๊ะเหมือนสตัฟฟ์ไว้? “พูดยังไงดีล่ะ(หัวเราะ) ต้องถามว่าตรงไหน ถ้าเป็นเรื่องของรูปร่างก็อาจจะใช่เพราะว่าเสื้อผ้าไม่ได้เปลี่ยน ใส่เหมือนเดิมมีลูกไม่มีลูกก็คือเหมือนเดิม

แต่เรารู้ด้วยเรื่องของแรงและสังขาร ส่วนหนึ่งก็คือเรานอนน้อยแล้วทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด เลยกลายเป็นว่าเราแบ่งเวลากับสังขารของเราไม่ค่อยดี บางวันรู้สึกว่าเหนื่อยล้ามาก อย่างพอมีคนมาบอกว่าเราไม่เปลี่ยนเลย คือลึกๆ แล้วเราก็รู้ตัวเองว่ามันอ่อนแรงไปเยอะค่ะ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7335420
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7335420