หนิง ปณิตา จับมือ กระแต แจกข้าวกล่องช่วงวิกฤตโควิด ได้แต่ท้อ ปชช.ต้องช่วยกันเอง


ให้คะแนน


แชร์

ผู้จัดฯ คนเก่ง หนิง ปณิตา แท็กทีมเพื่อนซี้ กระแต ศุภักษร แจกข้าวกล่องผู้เดือดร้อนช่วงวิกฤตโควิด เผยได้แต่ท้อ ปชช.ต้องช่วยกันเอง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เรียกว่ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิดวิกฤตมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้จัดฯ คนเก่ง หนิง ปณิตา แถมล่าสุดเจ้าตัวและเพื่อนซี้อย่าง กระแต ศุภักษร ยังได้ทำข้าวกล่องแจกประชาชนอีกด้วย

ทั้งนี้ หนิง ปณิตา ได้เล่าให้กับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า “จุดเริ่มต้นเป็นกระแต(ศุภักษร) ถ้าในเรื่องของข้าวกล่อง จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็จะมีในส่วนของการบริจาคไปช่วยเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ตามโรงพยาบาล ซึ่งจะเป็นลักษณะของการโอนเงินไปอยู่แล้ว”

“พอดีว่ากระแตเขาก็บอกว่าพี่หนิงมาทำข้าวกล่องส่งไปกัน ตอนแรกก็กะว่าเอาแค่กำลังงบของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีคนมาช่วยด้วย เลยคิดว่าน่าจะทำกันได้เรื่อยๆ”

แจกข้าวกล่องไปยังจุดตรงไหนบ้าง? “จริงๆ จุดที่เอาไปแจกหนิงเองก็จะประสานกับพวกพี่ๆ ที่เขารู้ว่าจุดตรงไหนที่ยังไม่มีใครเข้าไปช่วย หรือบางทีก็จะเป็นส่วนที่เขาเขียนเข้ามาในเพจ แล้วเราก็ได้โทรไปพูดคุยสอบถามซึ่งก็จะมีหลายจุดที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ”

“หนิงอยากให้มันกระจายไปถึงจุดที่คนที่เขากันจริงๆ แต่ถามว่าเอาจริงๆ ตอนนี้ถามว่าคนขาดกันเยอะมั้ย คนขาดเยอะมากและหลายจุดจริงๆ แล้วแต่ละจุดที่เอาไปบางครั้งก็ไม่พอด้วย”

ในแต่ละวันส่งไปประมาณกี่กล่อง? “แล้วแต่พื้นที่ค่ะ อยู่ที่ประมาณ 100-500 กล่อง เดิมทีตั้งใจไว้ว่าจะทำจันทร์-พุธ-ศุกร์ แต่ตอนนี้ก็คือดูตามสถานการณ์ แล้วต้องดูกำลังของคนงานเราที่สามารถนำไปจัดส่งได้ในแบบต้องเซฟด้วยเหมือนกัน เพราะแต่ละจุดที่เข้าไปเป็นจุดที่มีผู้ป่วยถูกกักตัว และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ”

ตั้งใจจะทำไปจนถึงเมื่อไหร่? “จริงๆ ตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆ กันอยู่ อยู่ที่กำลังเงินด้วย มีเงินของตัวเอง มีเงินของครอบครัวเรา ครอบครัวกระแต แล้วก็มีเงินที่เพื่อนๆ ส่งมาช่วยกัน มีแฟนคลับบ้าง พยายามทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนิงกับกระแตพูดกันว่าอะไรที่ทำได้แล้วมันไม่เหนือบ่ากว่าแรง เราก็อยากทำให้มันได้นานที่สุด”

ล่าสุดมีน้ำใจจากคนที่เห็นเราทำตรงนี้ เลยอยากส่งสมุนไพรมาช่วยด้วย? “อยากจะบอกว่าน้ำใจจากแฟนคลับที่มันเล็กๆ น้อยๆ เรารู้สึกว่าเวลาได้ได้รับมันชื่นใจ เขาไม่ได้มีกำลังเงินอะไรมากมายจะมาช่วย แต่กำลังที่เขามีคือเขามีของที่เขาปลูกอยู่ในบ้าน แล้วเขาก็มานั่งช่วยกันทำช่วยกันแพ็ก”

“ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วตอนนี้ใครทำอะไรได้คนละไม้คนละมือก็หยิบยื่นช่วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องคนรวยเท่านั้นที่จะลุกขึ้นมาทำเพราะการทำตรงนี้องค์ประกอบมันไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว เราลองมองไปที่พวกอาสาสมัครหรือแม้แต่ทีมงานของหนิงเองหลายคนที่เขาไม่ได้มีสตางค์ แต่ใจเขามีอยากที่จะลงแรงช่วย”

ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ท้อบ้างไหม? “จริงๆ มันจิตตกจนไม่รู้ว่าจะตกไปกี่รอบแล้ว ต้องใช้คำว่าเกิดมาในชีวิตไม่เคยเจอสถานการณ์อะไรที่มันหนักขนาดนี้กับสิ่งที่ต้องเผชิญในสังคม แต่หนิงก็พยายามจะมองว่าเรายังสบายกว่าอีกหลายๆ คน ฉะนั้นภาวะจิตตกมันก็ไม่ควรจะเป็น”

บางคนมองว่าสิ่งที่ช่วยกันทำอยู่นี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ?คำพูดนี้หนิงก็เคยได้ยิน อย่างกรณีช่วยหาเตียงก็ช่วย ช่วยไปเยอะใช้คอนเนกชั่นใช้พลังงานในตัวทุกอย่าง ซึ่งก็จะได้ยินคำนี้เหมือนกันว่าเดี๋ยวพอถึงเวลาของตัวเองถ้าล้มแล้วมันจะยังไง แต่นาทีนี้เราก็ได้คิดแต่ว่าเราเห็นความเดือดร้อนมันอยู่ข้างหน้า ถ้าเราจะมานั่งคิดถึงตัวเอง ณ วันนี้อะไรมันก็ขับเคลื่อนยาก

อยากฝากอะไรถึงคนที่มีหน้าที่ที่ต้องมาดูแลตรงนี้จริงๆ แต่กลับช้ากว่าประชาชน? “ไม่มีคำพูดอะไรเลยค่ะ ได้แต่ท้อ พูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง รู้สึกว่าวันนี้มันท้อ เอาง่ายๆ อย่างเวลาเอาข้าวไปแจกแล้วเห็นคนที่ได้ข้าวไม่พอแล้วร้องไห้ว่าเขาไม่มีข้าวกิน มารับข้าวไม่ทัน”

“หรือยังกรณีที่ช่วยกันหาชุด PPE โรงพยาบาลออกมาร้องขอว่าชุด PPE ไม่เพียงพอ ซึ่งหน้าที่ตรงนี้จริงๆ มันควรจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใหญ่หรือเปล่า ที่ควรที่จะไปหาในจำนวนที่เยอะและราคาที่ดี กลับกลายเป็นประชาชนไปรวบรวมจากร้านโน้นร้านนี้ในราคาที่ก็โดนโก่งราคา”

“อะไรเหล่านี้มันเป็นรายละเอียดที่เล็กๆ น้อยๆ มาก แล้วเราก็รู้สึกเฮ้อๆๆ ให้ออกมาพูดอะไรอ่ะ ออกมาพูดก็โดนเรียกไปตรวจสอบ ณ วันนี้มันก็เลยต้องมีคำพูดที่ว่าประชาชนก็ต้องช่วยประชาชนกันเอง เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันเองก็ไม่มีใครช่วยเรา”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6538473
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6538473