“วินัย ไกรบุตร” เผยภรรยาท้องลูกคนที่ 3 แล้ว โรคตุ่มน้ำพองไม่ส่งผลต่อลูก


ให้คะแนน


แชร์

“วินัย ไกรบุตร” เผยภรรยาท้องลูกคนที่ 3 แล้ว โรคตุ่มน้ำพองไม่ส่งผลต่อลูก

วันที่ 02 ก.ย. 2564 เวลา 10:30 น.

“วินัย ไกรบุตร” เผยภรรยาท้องลูกคนที่ 3 โรคตุ่มน้ำพองไม่ส่งผลต่อลูก พร้อมตั้งชื่อลูกรอแล้ว

แฮปปี้แบบสุดๆ สำหรับอดีตพระเอกหนุ่ม “เมฆ-วินัย ไกรบุตร” ที่เจ้าตัวได้ออกมาเผยข่าวดีว่า ภรรยากำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3 แล้ว พร้อมทั้งยังได้ตั้งชื่อให้ลูกไว้แล้วว่า “น้องเมิร์ช” และอาการป่วยโรคตุ่มน้ำพองไม่ส่งผลต่อลูก

ล่าสุดทางผู้สื่อข่าว ไนน์เอ็นเตอร์เทน ได้สัมภาษณ์หนุ่ม “เมฆ” ถึงข่าวดีในครั้งนี้ว่า ไม่ได้เป็นการมีลูกแบบปุ๊บปั๊บรับโชค แต่วางแผนเรื่องครอบครัวกับภรรยาไว้แล้วว่าจะมีลูกคนที่ 3 สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้อาการป่วยโรคตุ่มน้ำพองที่เป็นมาได้ 2 ปีกว่า เริ่มดีขึ้นมาก จึงตัดสินใจมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม

แต่อาการกลับมากำเริบอีกเป็นครั้งที่ 5 ในเดือนพฤษภาคม 2564 โดยช่วงนั้นภรรยาตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว แต่ไม่เคยแจ้งข่าวนี้กับใคร เนื่องด้วยหลาย ๆ เรื่องที่มากระทบจิตใจ จึงเพิ่งจะมาเปิดเผยในวันที่ภรรยาใกล้คลอด

สำหรับการป่วยของตนนั้นไม่ส่งผลกับลูกในท้องแน่นอน ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน สุขภาพของเจ้าตัวเล็กในท้องแข็งแรงดีมาก ตรวจเช็กทุกอย่างแล้วแพทย์ไม่มีความกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ดูแลตัวเองได้มากขึ้นแล้ว

หลังจากภรรยาคลอด ก็จะคอยช่วยเลี้ยงลูกร่วมกับน้องสาวและพี่เลี้ยงที่มาคอยช่วยอีกแรง ซึ่งชื่อของ น้องเมิร์ช มาจาก มาจากคำว่า E-Commerce ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขาย เพราะตอนนี้รายได้หลักของเมฆ คือ การขายของออนไลน์ แถมหมอดูประจำบ้านยังบอกอีกว่า ลูกคนนี้จะมาเสริมคุณพ่ออีกด้วย

ส่วนอาการป่วยตุ่มน้ำพองของเมฆในตอนนี้ ยังต้องกินยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่อง วันละ 4 เม็ด แบ่งเป็นเช้า 2 เม็ด และเย็น 2 เม็ด เพื่อคุมอาการ เสริมด้วยการดูแลตัวเองเรื่องกินอาหารแบบมังสวิรัติ ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกว่าอยากกินเนื้อสัตว์เลยสักนิด หากจะกินคงเลือกแค่ปลา แต่ยังไม่กล้าลองในตอนนี้

จากการรักษาตัว 2 ปี อาการกำเริบมา 5 ครั้ง ประสบการณ์ทุกอย่างที่เจอมาทำให้รู้ทันทุกอาการแล้วว่าจะเป็นอย่างไร จึงดูแลตัวเองไม่ให้กลับไปเป็นใหม่อีกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/662109
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/662109