เก๋ไก๋ สไลเดอร์ น้ำตานองหน้า ตอบหมดสาเหตุเลิก สไปร์ท SPD


ให้คะแนน


แชร์

วันนี้ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ได้มาเปิดใจเล่าทุกเรื่องและสาเหตุการเลิกกันในรายการ มารีฝากไว้ให้คิด พร้อมกับเปิดตัวมีหนุ่มคนใหม่แล้ว ว่า 

เลิกกับแฟนเก่ามา 4 เดือนแล้ว เหตุผลที่เลิกคือเบื่อกัน กินอะไรก็เบื่อ ทำอะไรเหมือนเดิมก็เบื่อ ก่อนหน้านี้เรียนก็เรียนด้วยกัน อยากมีรายได้ เลยทำยูทูบด้วยกัน ทำมา 4-5 ปี

ถ้าใครที่ดูในช่องเก๋ไก๋สไลเดอร์ จะเห็นว่าเราพยายามทำให้ทุกอย่างมันแฮปปี้ สนุก ตื่นเต้นอยู่ตลอด ทำงานก็มีความสุข แต่ว่าบางอย่างในคลิปที่เห็นมันดูสนุกสนาน แต่เราต้องการมันมากกว่านั้น

เราอยู่ด้วยกัน เขาให้เราเป็นตัวของตัวเอง ให้เราตัดสินใจทำอะไรเอง เราเป็นอะไรก็หายเอง สไปร์ทต้องคิดคอนเทนต์ ทำนู่นทำนี่ ก็จะมีคุณตาคุณยายของสไปร์ทที่มาเป็นคนดูแล เวลาที่เก๋ไก๋ป่วยก็จะเป็นคุณยายที่มาดูแล 

และ มารี เบรินเนอร์ ก็ถามเก๋ไก๋ต่อว่า ตอนที่ป่วยเขาไม่มาดูแล น้อยใจหรือไม่ งานนี้เก๋ไก๋ถามกลับทันทีว่า สำหรับตัวเธอเองคิดเสมอว่า ถ้าไม่สบายก็หายเองได้ ถ้าเขาไม่สบายก็หายเองได้ ไม่ได้อยากให้เขามาดูแลอะไรเยอะมากด้วยซ้ำ ซึ่งดีแล้วเพราะมันทำให้ตัวเธอนั้นเข้มแข็ง 

กับสไปร์ท เราเป็นเหมือนเพื่อนกัน เวลาไปเรียนแล้วง่วงมาก ก็จะต้องเป่ายิงฉุบกัน ใครแพ้คนนั้นเป็นคนขับรถ แต่ก็ดีทำให้เราขับรถเก่ง ไปไหนมาไหนดูแลตัวเองได้ 

จากนั้น เก๋ไก๋ตอบคำถามมารีที่ถามว่า คิดว่าความรักของเก๋ไก๋และสไปร์ทเท่ากันมั้ย งานนี้เจ้าตัวตอบชัดทันทีว่า เท่ากัน เพราะต่างคนต่างให้อิสระกัน มันคือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง 

และเก๋ไก๋บอกว่าตัวเธอนั้นเป็นคนที่เต็มร้อยและรักมาก สไปร์ทคือคนที่เพอร์เฟกต์สำหรับเธอ แล้วเข้าไปจีบเขา การเข้าไปจีบเพื่อให้คนๆ หนึ่งมารักเรามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาไม่ได้แสดงออก เพราะว่าเขามีสเปกที่เขาชอบอยู่แล้ว 

จากนั้นทีมงานถามว่าเพราะเก๋ไก๋ไม่สวยเลยไม่ใช่สเปกของสไปร์ท เก๋ไก๋บอกว่าเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาเอง เมื่อก่อนไม่มั่นใจในสีผิวของตัวเอง เพราะเป็นคนผิวขาวเหลือง

ก็จะเอาบีบีมาทาผิวให้ขาวแล้วมันก็จะเป็นปื้นๆ ตอนนั้นคิดว่าอะไรที่ตัวเองไม่เพอร์เฟกต์จะเปลี่ยน วันนึงมองตัวเองในกระจกก็เห็นว่ามันไม่สวยเลย

ที่เปลี่ยนตัวเองเพราะอยากให้มีคนรัก ถ้าผู้หญิงรักคนๆ หนึ่ง เขาก็อยากให้คนๆ นั้นรัก ช่วงที่คิดว่าตัวเองไม่สวยก็จะไม่ดูแลตัวเอง ในวันที่รู้สึกไม่ภูมิใจในตัวเอง ก็จะหยิบข้อด้อยของตัวเองมาทำร้ายตัวเอง

และเก๋ไก๋ก็เล่าเรื่องในอดีตเมื่อครั้งไปญี่ปุ่นที่ตัวเองนั้นเสียงดัง เลยทำให้ดูเป็นผู้หญิงงี่เง่า เอาแต่ใจ จะเอากำไลที่แฟนเอาไปซ่อนให้ได้

พอคลิปออกไปทำให้คนคอมเมนต์ว่าทำไมต้องเสียงดัง ทำไมต้องตะโกน แต่สไปร์ทเข้าใจที่คนคอมเมนต์ก็เลยบอกให้แก้ที่ตัวเรา 

ไม่เคยรู้เลยว่าตรงนี้คือข้อด้อย แต่ในมุมที่ผู้ชายมอง ก็เลยปรับและเปลี่ยนตัวเอง เงียบขึ้น เกร็งขึ้น ไม่เป็นตัวของตัวเอง 

จากนั้นมารีถามเก๋ไก๋ว่าในช่วงที่ถูกกระแสสังคมว่าแรงๆ สไปร์ทอยู่ข้างๆ หรือไม่ งานนี้เก๋ไก๋บอกว่า การที่เขาพูดในมุมของคนที่ว่าเรา มันคือการให้กำลังใจที่เขาให้มา

แต่ในมุมของเรารู้สึกว่าทำไมทำอะไรก็ผิดไปหมด กำลังใจที่ดีของเก๋ไก๋ก็คือการเงียบ มันทำให้ได้ไปหาธรรมะ ทำให้รู้ว่าไม่ต้องให้สไปร์ทมาเข้าใจ แต่ตัวเราต้องเข้าใจตัวเอง 

มารี เบรินเนอร์ ถามเก๋ไก๋ตรงๆ ว่าก่อนจะเลิกเคยคิดจะบอกกับสไปร์ทตรงๆ ในสิ่งที่ตัวเองขาดมั้ย งานนี้เก๋ไก๋ตอบว่า พยายามพูด พยายามคุยกัน เพราะตอนที่ตัวติดกัน จะไม่ได้ยินเสียงกันมาก เวลาที่พูดอะไรก็จะเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งกำลังงอแง

ก็พยายามบอก แต่เขาก็จะเชื่อในแบบของเขา เพราะโตมาพร้อมกันเลยมีความเชื่อที่ต้องเชื่อเรา แต่เขาก็อยากให้เชื่อเขา 

การที่อยู่กับสไปร์ทมานานก็เป็นการเติมสิ่งที่ขาดจนมันมี ตอนที่มันมีมันดี แต่พอวันหนึ่งมันแยกจากกันจะเป็นอย่างไร ก็ลองเลิก เป็นเพื่อนกันดีกว่า

ตอนที่เลิกกันก็คุยกันทุกอย่าง ซึ่งเขาก็โอเค เราก็รู้สึกว่าทำไมเขาปล่อยง่าย ทำไมดูไม่แคร์ แต่ในมุมนึงเขาคงคิดว่าทำไมเราถึงไปบอกเลิกกับเขา ตอนที่คุยกันหัวเราะ คุยเสียงดัง ขำมาก ไม่ได้ทะเลาะกัน และมีการโกรธกันแม้แต่นิดเดียว 

เราเลิกกันเพราะเขาก็มีหลายอย่างที่อยากทำ และเราเองก็อยากออกจากความรู้สึกเดิมๆ ตอนแรกที่เลิกก็ถามตัวเองว่านี่เราโสดแล้วเหรอ

ผ่านมาเดือนหนึ่งน้ำตามันเริ่มนองหน้า ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร อยู่ในคอมฟอร์ทโซนมันก็ดี แต่ออกมามันก็ดีเหมือนกัน เพราะเราก็ได้ทำอะไรหลายอย่างมาก 

จากนั้น มารี ถามตรงๆ ว่าอยากให้สไปร์ทง้อมั้ย งานนี้เก๋ไก๋บอกว่า ขอร้องอย่าทำเลย เวลาเขาเซอร์ไพรส์จะเป็นคนดีใจง่าย เหมือนไม่โกรธอะไร ไม่ค่อยร้องไห้ แต่เขาอยากเห็นเราร้องไห้ 

และเก๋ไก๋เล่าต่อว่า เลิกกันไม่มีการมาง้อ เราก็ไม่หวังว่าเขาจะบอกว่า เก๋กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะ เวลาเขาซื้อของให้เราดีใจทุกอย่าง ทั้งๆ ที่บางทีเรางอนอยู่ แต่ของมันไม่สำคัญเท่ากับการเข้าใจกัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เก๋น่าจะพูดกับเขาตรงๆ อยากให้เข้าใจกันมากกว่านี้ 

ก็เลยมีคำถามอยู่ตลอดว่ารักคืออะไร เราเจอแล้ว เขาให้ในสิ่งที่เราต้องการแล้ว แล้วมันต้องมีอะไรอีก มีรายได้ อยากกินอะไรก็ไปกิน แล้วยังต้องการอะไร ต้องการให้ตัวเองรักตัวเองมากขึ้น ถ้าแฟนคลับเชียร์มากๆ มีโอกาสจะกลับมาคบกันมั้ย เพราะเราตัดสินใจเป็นเพื่อนกัน 

มารี ถาม เก๋ไก๋ ตรงๆ ว่าตอนนี้มีคนคุยรึยัง งานนี้ยูทูบเบอร์สาวทำท่าทางเลิกลั่ก และบอกว่ามีแต่ไม่อยากเปิดตัวว่าคบใคร ไม่อยากให้ใครรับรู้ แต่ถามว่าใช่คนในข่าวหรือเปล่า เจ้าตัวบอกว่าไม่รู้สิ ชอบให้คนสงสัยจะได้กดติดตาม 

ซึ่งเรื่องคนคุยคนใหม่สไปร์ทรู้ตลอด ถ้าวันหนึ่งเขาเห็นอะไร เขาจะได้รู้เลยว่าใช่ แม้จะเลิกกันไปแต่เราก็ยังหวังดีต่อกัน อยากเห็นเขาประสบความสำเร็จ. 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2188346
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2188346