ศรราม น้ำเพชร พระเอกลิเกเงินล้าน เผยคำสั่งเสียสุดท้ายของพ่อ สานต่ออาชีพลิเก


ให้คะแนน


แชร์

แบงค์ ศรราม เอนกลาภ พระเอกลิเกเงินล้าน คณะศรราม น้ำเพชร เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อมนต์รัก เอนกลาภ จากไปด้วยโรคมะเร็งตับ ในวัย 57 ปี เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา พระเอกลิเกคนดัง เผยวินาทีจากลายากที่จะทำใจได้ พร้อมคำสั่งเสียสุดท้ายของพ่อ สืบสานต่อยอดคณะลิเกจากที่คุณพ่อทำเอาไว้พัฒนาต่อไป

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

“ทุกอย่างมันเร็วมากเลยครับ ตั้งแต่คุณพ่อทรุดเข้าไอซียู ร่างกายก็ทรุดเร็วมาก เข้าไอซียูแค่ 3 คืนเท่านั้นเอง”

พ่อป่วยมานานแค่ไหนก่อนจะทรุด? “รู้วันที่ 18 มิ.ย. ว่าคุณพ่อเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย คุณหมอก็บอกระยะเวลามาแล้วว่าคุณพ่อจะอยู่ได้ประมาณนี้นะ มันเป็นเวลาที่น้อยมาก คือเราไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ครับ แต่ก็ทำให้ดีที่สุดพาคุณพ่อไปรักษาดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่กลัวคนรอบข้างจะกังวลเป็นห่วง เวลาที่เขารู้สึกอะไรก็ตามหรือเกิดอาการก็จะเก็บไว้คนเดียว แอบปวดแอบเจ็บคนเดียว”

“จนมาอาการเริ่มทรุดอาเจียนเป็นเลือดเมื่อวันที่ 5 กันยายน คุณหมอส่องกล้องไปในหลอดอาหารก็อาเจียนสวนออกมา ผลปรากฎว่าเส้นเลือดตรงหลอดอาหารรั่วเลยทำให้เลือดพุ่งออกตลอดเวลา คุณหมอก็บอกตามตรงว่า วิธีรักษามันถึงทางตันแล้ว ด้วยสภาพร่างกายของคุณพ่อเริ่มไม่ตอบสนองทั้งตับทั้งไต ก็ต้องตัดสินใจและทำให้ดีที่สุด แค่นี้เขาก็เจ็บทรมานพอแล้วครับ เราก็ไม่อยากให้เจาะหรือใส่เครื่องมืออะไรแล้ว คุณหมอก็แนะนำว่าไม่อยากให้คุณพ่อทรมาน เราเห็นก็อึดอัดแทนท่าน คุณพ่อก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วด้วย ก็อยากให้เขาไปสงบที่สุด แต่ก็ยังดีที่ยังได้พูดอะไรก็ตามที่เขาห่วง”

คำพูดสุดท้ายที่คุยกับพ่อ? “ก็บอกกับคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะดูแลพี่ ดูแลแม่ ดูแลหลาน ทุกอย่างเลยที่พ่อสอนไว้ในเรื่องของลิเก แบงค์จะเป็นคนสอนหลานต่อจากพ่อเอง ไม่ต้องห่วงว่าแบงค์จะทิ้งลิเก จะทำให้ดีที่สุดทุกอย่างที่พ่อสอนไว้ จะทำให้ได้อย่างที่พ่อหวังเอาไว้

คำสอนของพ่อที่ยึดถือมาตลอด? “คำว่า อย่าไปอิจฉาใครนะ เป็นคำที่คุณพ่อสอนมาตลอด ตั้งแต่เด็กๆ อยู่บ้านหลังเก่า พ่อก็เขียนติดไว้หน้ากระจกบานใหญ่เอาไว้อ่านแล้วเขาก็พูดเสมอว่า อย่าไปอิจฉาใครนะลูก เพราะว่าความอิจฉามันเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ ความแตกแยก การที่เราจะเป็นผู้นำใคร เราต้องมีเมตตา รู้จักให้อภัย อย่าไปอิจฉาใครแล้วเราจะมีแต่ความสุข”

“จริงๆ คุณพ่อเขาไม่เคยชมแบงค์ให้แบงค์ได้ยินเลยนะ แต่แบงค์ก็มักจะได้ยินจากคุณป้าหรือใครที่ได้ยินคุณพ่อพูดถึงแบงค์ว่าเขาภูมิใจ เขาดีใจ เขาจะชอบพูดให้เพื่อนๆ ฟัง แต่เขาไม่เคยชมแบงค์ให้แบงค์ได้ยินเอง ซึ่งไม่เป็นไรครับเพราะว่าอย่างน้อยแบงค์ก็รับรู้ได้บางครั้งที่เราทำดีหรือทำเต็มที่ เขาประทับใจ คือแบงค์รับรู้ได้จากสีหน้าแววตาของพ่อ”

“จริงๆ แบงค์กับพ่อไม่ค่อยได้คุยกันเลย แต่รักคุณพ่อมาก คุณพ่อก็รักแบงค์มากเหมือนกัน จนถึงตอนนี้ถึงเขาจากไปแล้ว ความรู้สึกแบงค์ก็ยังเหมือนเดิม แบงค์คิดถึงเขา เรารักพ่อถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้แสดงออก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่แบงค์ทำ แสดงลิเกเต็มที่ทุกอย่างก็เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ทำให้พ่อเขาเห็นเพราะพ่อเขาอยากให้งานออกมาดี อยากให้แบงค์รำดีร้องดีแสดงดี ไม่ให้ใครมาว่าเราได้ ไม่ให้ทุกอย่างที่คุณพ่อสร้างมามันต้องมาพัง นี่้คือความตั้งใจของคุณพ่อครับ

พ่อภูมิใจในตัวแบงค์มาตลอด สร้างชื่อเสียงให้ลิเก? “ชื่นใจครับ ถึงจะไม่ได้ยินจากปากเขาเลย แต่อย่างน้อยมันก็หายเหนื่อยครับ เป็นกำลังใจที่ดี เป็นแรงผลักดันที่ดีที่สุด พ่อแม่ด่าว่าเราก็ยังปลอดภัยกว่าคำชมที่คนอื่นชมเรา เขาไม่เคยชมเพราะว่าเขากลัวแบงค์จะหลงระเริงคิดว่าตัวเองเก่งแล้วก็จะหยุดพัฒนา ซึ่งแบงค์รู้ว่าหน้าที่ของเราต้องทำอะไร และเราจะต้องไปยังไง จะต้องเดินหน้าต่อยังไง”

สืบสานลิเกต่อจากคุณพ่อ? “ต้องสานต่อที่พ่อเขาฝากไว้ แบงค์กับพี่เฮนต่อไปนี้เรามีอยู่สองพี่น้องก็ต้องปรึกษาพูดคุยหารือกันมากขึ้น มาเต็มตัวแล้ว ส่วนคุณแม่ดวงแก้วอยู่เบื้องหลังแต่ก็คอยให้คำปรึกษากันได้เพราะคุณแม่กับคุณพ่อก็ใช้ชีวิตร่วมกันมา 35 ปีที่เขาอยู่ด้วยกันมา ก็ต้องเข้มแข็งให้มากที่สุดเพราะเรามีลูกน้อง มีทีมงานอีกหลายครอบครัว ถ้าเราไม่เข้มแข็งก็จะพาให้คนอื่นหมดกำลังใจไปด้วยครับ”

“แบงค์คิดว่าเขาอยากให้ลิเกอยู่ไปนานๆ รวมทั้งตัวแบงค์เองด้วย ให้เต็มที่ ให้ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของเรา เพราะเราเริ่มตั้งแต่ศูนย์ก็มีอาชีพลิเก จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ยังไม่รู้เลย แต่ว่าคุณพ่อก็ลงทุนเต็มที่จนมาถึงจุดนี้แล้วเราจะมาพลาดไม่ได้ เพราะ 18 ปีที่ผ่านมาเราก็ล้มลุกคลุกคลานมา เจอปัญหามากมาย คุณพ่อคงอยากเห็นแบงค์เติบโต เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ อยากเห็นแบงค์เป็นผู้นำที่ดีแบบที่พ่อเคยสอนเคยบอกและสิ่งที่คุณพ่อทำ”

กำหนดงานสวดอภิธรรมของพ่อ? “กำหนดการของคุณพ่อตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลง งานคุณพ่อค่อนข้างที่จะใหญ่เพราะว่าคนจะมาร่วมงานเยอะมาก แต่ด้วยตอนนี้สถานการณ์โควิด เราก็ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์มาตรการป้องกัน ทางเขตอนุญาตให้จัดงานได้อาทิตย์ละ 3 วัน จะสวดทุกวันจันทร์อังคารพุธ จนถึงเดือนหน้า ฌาปนกิจวันเสาร์ที่ 9 ต.ค. ครับ”

“แบงค์เห็นใจทุกคนที่อยากจะเดินทางมาแต่ว่าบางท่านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในพื้นที่เสี่ยง ลองดูตรวจเช็กอาการดูนะครับ ถ้าเสี่ยงน้อยจะมาเคารพศพคุณพ่อกราบเรียนเชิญทุกท่าน”

อยากจะทำอะไรเพื่อคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย?มันคงเป็นสิ่งที่แบงค์จะต้องทำตั้งแต่วันนี้จนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจของแบงค์ครับ จะทำอาชีพลิเกให้ดีที่สุดครับ ทุกครั้งที่แบงค์ยังรำยังร้องอยู่ จะรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ และรักษาทีมงาน ลูกน้องทุกคนหลายๆ ครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ ประคองไปให้ได้ถึงแม้ตอนนี้จะเจอวิกฤตโควิดก็ตาม ยังไงแบงค์ก็ยังเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เราจะไม่ทอดทิ้งใคร เราจะนึกถึงทุกคนไว้ก่อนเสมอครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6612178
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6612178